เครียดมาหลายวัน นอนไม่หลับมาหลายคืนแล้ว นั่งคิด นอนคิด ลังกาหลังสองรอบ จนแทบเอาเท้าก่ายหน้าผากยังไงก็ยังติดอยู่กับเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ในกระเป๋าที่กำลังติดขัดอยู่เลยครับพี่ ไม่รู้จะหาทางออกยังไงดี ใครที่นอนไม่หลับอยู่เพราะกำลังเจอสถานการณ์เงินขาดมือ ตอนนี้คุณกำลังเผชิญเหตุการณ์เหมือนคำกล่าวของเฮีย Mark Twain นี่แหละ กำลังจ่ายหนี้ก้อนแรกที่เราไม่ได้ยืมอยู่ และบางทีอาจจะต้องจ่ายมันตลอดไปจนกว่าจะได้เป็นหนี้จริงเพื่อแก้ปัญหาที่กำลังเจอ ขึ้นชื่อว่าเป็น “หนี้” ย่อมไม่มีใครอยากเข้าใกล้ แต่นาทีสำคัญของชีวิตที่เรียกว่า “วิกฤต” มันก็ดันชอบมาเคาะประตูชีวิตเราแบบไม่ทันตั้งตัวเสมอ ไม่ว่าจะจากเรื่องอุบัติเหตุที่ทำให้ต้องเสียเงินก้อนที่สะสมมา การพยุงธุรกิจที่วันนี้ไม่ได้ขายดีเหมือนวันก่อน ไปจนถึงการลงทุนจังหวะดี ๆ ที่โผล่มาไม่ให้สุ้มให้เสียงแต่เราดันไม่มีเงินมาต่อยอด ของแบบนี้บางทีมันก็ไม่เลือกเวลา UNLOCKMEN ขอชวนพวกเรามาตั้ง “สติ” ก่อนสตาร์ต และก้าวไปอีกขั้นด้วยการแนะนำวิธีได้เงินด่วนทันใจมาเลือกใช้ได้ทันเวลาไปพร้อมกัน กู้เงินไม่ใช่ยาพิษร้าย ถ้ารู้จักใช้ให้เกิดประโยชน์ ก่อนไปเป็นหนี้ ต้องเข้าใจเรื่องหนี้ก่อน เชื่อว่าหลายคนเติบโตมาในครอบครัวที่พ่อแม่สอนมาฝังหัวว่าอย่าไปกู้เขา เพราะกู้มันทำให้เราเป็นหนี้ หนี้มันคือตัวซวย ถ้ามีหนี้เมื่อไหร่สุดท้ายเราอาจต้องจมกองหนี้สินเพราะดอกโหด ๆ ไม่มีจ่ายระวังจะไม่มีที่ซุกหัวนอน แน่นอนว่าคำสอนน้ีมันก็ถูกในยุคนั้น อาจจะเป็นประสบการณ์ที่พวกท่านเคยเจอ แต่สำหรับยุคของเราการใช้คำตอบเดียวกันคงไม่ถูก 100% เพราะการปลอดหนี้แล้วทู่ซี้ใช้ชีวิตไปเรื่อย ๆ บางทีมันเฟลและทำให้เราต้องเสียอะไรไปหลายอย่างยิ่งกว่านั้น จากเหตุผลเหล่านี้ สภาพคล่องการเงิน : เราไม่มีหนี้
ตามเงินจากลูกหนี้ว่ายากแล้ว แต่วันนี้หลายคนต้องเจอสถานการณ์บังคับให้ต้องกลายเป็นลูกหนี้จำเป็น เพราะจู่ ๆ ธนาคารที่รักของพวกเราก็เกิดพร้อมใจกันระบบล่ม เบิก ถอน โอน จ่าย ชะงักแทบทั้งหมด แม้ตอนนี้วิกฤตจะคลี่คลายได้แล้วแต่วันดีคืนดีอาจจะเกิดอีกเมื่อไหร่ก็ได้ UNLOCKMEN ขอแนะนำวิธีการยืมเงินในภาวะแบบนี้ให้เจ้าหนี้เห็นใจ เราจะได้มีเงินไว้ใช้จาก 5 วิธีเหล่านี้ที่เราสำรวจมา ใครเห็นด้วยกับวิธีไหนก็เลือกไปใช้งานกันได้ แต่อย่าลืมว่า…ยืมไปแล้วต้องคืนด้วยนะ อย่าชักดาบเป็นอันขาด! “คิดถึงศักยภาพตัวเอง คำนวณวันพร้อมคืน จะได้ไม่ผิดใจกัน” แม้จะไม่ใช่หนทางทำให้อีกฝ่ายเห็นใจ แต่หนุ่มคนนี้ขอใช้ความรอบคอบและความเป็นคนจริงเป็นที่ตั้ง เริ่มด้วยถามตัวเองก่อนว่าศักยภาพการเงินเป็นอย่างไร ยืมแล้วคืนไหวหรือเปล่า และพร้อมจะคืนเมื่อไหร่เพื่อป้องกันการผิดใจกัน เพราะไม่ใช่แค่สัจจะที่เราต้องรักษาไว้แต่มิตรภาพยิ่งต้องใส่ใจไม่แพ้กัน เจอเคสนี้มาเป็นลูกหนี้ คิดก่อนยืมไม่พร่ำเพรื่อ เชื่อว่าใครก็ยอมยกเงินให้ “ยืมคนที่บ้าน ไม่เดือดร้อนคนอื่น” หนึ่งในวิธีที่ฮิตและได้ผลที่สุดที่หลายคนคาดไม่ถึงคือการยืมเงินคนในบ้านนี่แหละ เพราะเป็นเจ้าหนี้ที่รู้จักเราดีที่สุดและไม่ต้องกลัวว่าเราจะหนีไปไหน แต่เธอก็ยังเน้นว่าถึงจะเป็นคนในบ้านก็ยังต้องบอกเหตุผลและวันเวลาที่คืนให้ชัดเจนเข้าไว้เพื่อคืน ปิดท้ายด้วยสินน้ำใจสักนิดหลังคืนเงิน เวลามีปัญหาครั้งหน้าเขาจะอยากให้เรายืม “บอกปัญหาตรง ๆ ไม่ดราม่า แมน ๆ ใจ ๆ” บางคนกังวลว่าถ้าขอไปแล้วเจ้าหนี้ในอนาคตจะไม่ให้ เล่นดราม่าใส่ แต่กับเธอคนนี้ที่ไม่ถนัดการเป็นเจ้าหนี้คนอื่นอยู่แล้วเป็นทุนเดิม เพราะไม่กล้าทวง ให้เหตุผลกับเราว่า ถ้าถึงคราวจำเป็นต้องหยิบยืมเงินคนอื่นเธอจะเลือกใช้วิธียืมกันแบบตรง ๆ บอกเลยว่ากำลังเจอปัญหาอะไรอยู่และจะเอาเงินที่ยืมได้ก้อนนี้ไปใช้อะไรต่อ
แต่งตัวมอซอไม่ได้แปลว่าจน แต่งตัวดีก็ไม่ได้แปลว่ารวย เรื่องที่สามารถตบตากันได้อย่างนี้อาจทำให้ชาว UNLOCKMEN ทั้งหลายติดกับดักความใจดี ยื่นเงินให้เพื่อนหรือคนรู้จักที่เดินหน้าเศร้า ชีวิตสีเทามาขอยืมเงินต่อไลฟ์สไตล์รวยของตัวเองก็เป็นได้ แถมเวลาทวงก็ทวงยากสิ้นดี เพื่อให้ไม่ต้องเจ็บตัวและสูญเงินในบัญชีแบบเจ็บใจเพราะคนจนไม่จริง วันนี้เราเอาทริคจับกระแสความรวยจากนักวิทย์ที่เผยวิธีจับความรวยที่แล่บออกมาตีแผ่ ชนิดเงินเขา บัญชีใคร เราก็รู้! แต่งตัวดีแค่ไหนก็บอกอะไรไม่ได้ และสุดท้ายบอกตรงนี้เลยว่า “กูไม่ให้ยืม!” วีรบุรุษที่จับกลิ่นเงินที่จะพาเราออกจากสถานการณ์สุดกระอักกระอ่วนนี้คือเหล่านักวิจัยของ University of Toronto ซึ่งพวกเขาพบว่า มันจะไปยากตรงไหน ความรวยความจนมันแปะอยู่บนหน้านั่นแล้วไง แต่มันหมายความว่ายังไงกันแน่ลองไปดูกัน เส้นสถานะการเงินบนใบหน้า จะให้พูดก็ดูจะเหมือนการดูโหงวเฮ้งบนใบหน้านั่นแหละ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเหล่าซินแสทั้งหลายเขาใช้วิธีเดียวกันนี้ไหมเวลาทำนายอนาคต แต่ที่แน่ๆ ทั้ง R. Thora Bjornsdottir – นักศึกษาปริญญาโทและ Nicholas O. Rule – ศาสตราจารย์วิชาจิตวิทยา ที่ทำการวิจัยเรื่องนี้นำรูปภาพ portrait ขาวดำ ของชาย 80 คน และหญิง 80 คนที่มาจากต่างเชื้อชาติ สัญชาติและภูมิหลัง ผิวไม่มีรอยสักหรือตำหนิอะไรให้เป็นที่สังเกตมาใช้ในการวิจัย โดยครึ่งนึงมีรายได้ประมาณ $60,000 หรือประมาณ 1,870,000