จากที่เคยเป็นเหมือนวัฒนธรรมไกลตัว แต่ตอนนี้ต้องยอมรับว่า ‘ไอดอล’ ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทยอย่างสมบูรณ์แล้ว แน่นอนว่าเมื่อมีคนชอบก็ต้องมีคนไม่ชอบเป็นธรรมดา แต่ก่อนที่จะวิพากษ์วิจารณ์อะไรเราก็อยากให้ทุกคนรู้จักกับวัฒนธรรมนี้จริง ๆ เสียก่อน ภาพยนตร์สารคดีที่เราหยิบมาพูดถึงในวันนี้อาจจะมีคำตอบให้ใครหลายคนได้ว่าไอดอลคือใคร? พวกเธอมีบทบาทหน้าที่อย่างไร? หรือแท้จริงแล้วพวกเธอเป็นเพียงวัตถุทางเพศที่อุ้มชูวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่เท่านั้น? Tokyo Idols และเรื่องราวของริโอะ Tokyo Idols เลือกที่จะเล่าเรื่องราวของ ‘ริโอะ’ ไอดอลสาวใต้ดินวัย 19 ที่ถึงแม้ว่าเธอจะยังไม่โด่งดังมากนักแต่ก็มีฐานแฟนคลับเหนียวแน่นพอสมควร แต่อย่าเพิ่งเข้าใจว่านี่คือสารคดีตามติดชีวิตไอดอล เพราะถึงแม้ตัวหนังจะโฟกัสที่ตัวริโอะเป็นหลัก ถ่ายทอดให้ผู้ชมได้เห็นภาพว่าเธอทุ่มเทกับอาชีพนี้ขนาดไหน ถึงขนาดปั่นจักรยานไปทั่วประเทศญี่ปุ่นเพื่อพบปะแฟนคลับ แต่ก็มีอีกหลายมุมมองจากหลายฝ่ายที่น่าสนใจไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของไอดอลเด็ก, ไอดอลระดับชาติอย่าง AKB48, ความคิดเห็นของนักหนังสือพิมพ์และนักวิเคราะห์, หรือแม้กระทั่งเหล่าโอตะที่ทุ่มเททุกอย่างเพื่อคนที่เขารัก ตัวหนังพยายามจะตั้งคำถามถึงวัฒนธรรมไอดอลตลอดเวลา ทั้งในแง่ความหมิ่นเหม่ทางศีลธรรมเรื่องเพศ, ความเกี่ยวข้องกันระหว่างไอดอลกับวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่, ความเหงาที่ดูเหมือนจะส่งเสริมวัฒนธรรมนี้ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น, หรือแม้กระทั่งการวิพากษ์เหล่าโอตะว่าเป็นตัวปัญหาของสังคม ซึ่งด้วยมุมมองแบบนี้ของตัวหนัง Tokyo Idols จึงเป็นสารคดีที่เปิดกว้างสำหรับทุกคน ไม่ว่าคุณจะคิดเห็นเกี่ยวกับไอดอลว่าอย่างไรก็ตาม ความรักที่บริสุทธิ์หรือแค่ความเพ้อฝันจอมปลอม? สำหรับบางคนความรักของโอตะที่มีต่อไอดอลอาจจะดูเพ้อฝันหรืออาจจะถึงขั้นน่าขยะแขยง แต่สำหรับ ‘โคจิ’ ดูเหมือนว่ามันจะมีความหมายและยิ่งใหญ่กว่านั้นมาก โคจิคือหนุ่มใหญ่วัย 43 กะรัต เขาเคยมีชีวิตที่เพียบพร้อม เคยมีคนรักและถึงขั้นเกือบจะได้ลั่นระฆังวิวาห์ แต่แล้วทุกสิ่งก็ไม่เป็นไปตามที่คิด เขาจึงเลือกหันหลังให้กับความรักในชีวิตจริงและใช้เงินเก็บทั้งชีวิตเปย์ให้ริโอะ ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจติดตามเธอไปทุกที่ บ้าหรือเปล่า? ไม่แปลกที่คนภายนอกจะมองโคจิว่าเพ้อฝัน เพราะต่อให้เปย์ยังไงริโอะก็ไม่มีทางหันมามองเขาหรอก อย่างไรก็ตามคำอธิบายของโคจิก็ทำให้เราเข้าใจมากขึ้น เขาเล่าว่าชีวิตเขานั้นมันพังทลายลงไปแล้ว
หลังจากประสบความสำเร็จในแง่เสียงวิจารณ์อย่างท่วมท้นกับ ‘They Shall Not Grow Old’ สารคดีว่าด้วยเรื่องราวในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ดูเหมือนว่าคุณปู่ Peter Jackson ปูชนียบุคคลระดับตำนานแห่งฮอลลีวูดจะติดใจการทำสารคดีเสียแล้ว เพราะโปรเจกต์ล่าสุดของเขาที่เพิ่งประกาศออกมาสด ๆ ร้อน ๆ คือการนำ Footage กว่า 55 ชั่วโมงที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อนของ 4 เต่าทองแห่ง The Beatles มาร้อยเรียงให้กลายเป็นสารคดีเรื่องใหม่ จะหาว่าเราอวยก็ได้ แต่สำหรับเรา The Beatles คือวงดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ การปรากฏตัวของพวกเขาในช่วงต้นยุค 60 เปรียบเสมือนต้นไม้ใหญ่โผล่พ้นผืนดิน และต่อให้ตอนนี้เวลาจะผ่านมากว่า 60 ปี แต่ต้นไม้ต้นนี้ก็ยังคงตั้งตระหง่านแผ่กิ่งก้านเป็นร่มเงาให้วงการดนตรีอยู่ อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าแปลกใจคือภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับ The Beatles กลับมีน้อยมากอย่างไม่น่าเชื่อ “ก็ A Hard Day’s Night ไง” เรารู้ว่าทุกคนกำลังคิดแบบนี้อยู่แน่ ๆ ไม่ปฏิเสธว่า A Hard Day’s Night เมื่อปี 1964 นั้นประสบความสำเร็จอย่างสูงทั้งแง่คำวิจารณ์และรายได้
สำหรับหนุ่มคนไหนรักการตกแต่งพื้นที่ของตัวเองให้เป็นไปตามความชอบ คุมโทน คุมเรื่องราว ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน หรือแม้แต่สตอรี่ของของตกแต่งชิ้นนั้น ๆ ก็สามารถมาเป็นสิ่งตกแต่งได้เช่นกัน เชื่อเถอะว่าหนุ่มประเภทนี้มักจะสอดส่ายสายตาไปที่ดีเทลของสิ่งต่าง ๆ อยู่เสมอ เพื่อปรับเปลี่ยนสิ่งที่มีอยู่บ้าง และมองหาสิ่งที่จะมาเพิ่มเติมบ้าง UNLOCKMEN อยากชวนหนุ่มที่ชื่นชอบ Interior Design มาดู Documentary ที่เราแนะนำซึ่งเกือบทั้งหมดสามารถหาดูได้ใน Netflix เผื่อว่าใครจะได้ไอเดียเจ๋ง ๆ ไปไว้ใช้กับพื้นที่ของตัวเองกันบ้าง Amazing Interior บ้านหน้าตาธรรมดา ๆ หากมองจากภายนอก แต่พอได้ก้าวเข้าไปแล้วเราจะพบว่า Interior Design คือหัวใจสำคัญของบ้านหลังนั้น ๆ เพราะมันเปลี่ยนภายนอกที่น่าเบื่อ ธรรมดา เหมือน ๆ กันไปหมด ให้แตกต่างกันได้ตามความชอบของเราเอง ซึ่งเรื่องนี้จะพาเราไปดูบ้านเหล่านั้นที่ Interior Design ตอบโจทย์ความชอบส่วนตัวของเจ้าของแบบสุดขั้ว ไม่ใช่แค่การตกแต่งเล็กน้อย แขวนรูป ทาสี อะไรแบบนั้นแล้ว แต่ Beyond ไปถึงการทำพื้นที่นั้นให้กลายเป็นโลกส่วนตัวของเจ้าของจริง ๆ Stay Here ดีไซน์เนอร์และผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์จะพาเราไปดูพื้นที่เจ๋ง ๆ ที่เจ้าของเลือกจะเปลี่ยนมันให้เป็นที่พักแบบไม่เหมือนกันด้วย Interior Design
ในช่วงกระแส Netflix มาแรงอย่างนี้ หลายคนคงได้ใช้เวลาไปกับมันแทบจะทั้งวันหยุด ลามไปถึงเวลาว่างในวันธรรมดา จนสามารถรีวิวได้ทั้งเว็บแล้วว่าซีรี่ส์เรื่องไหนดีเรื่องไหนเด็ด หรือบางคนอาจดูเอาเป็นเอาตายตั้งแต่ก่อน Netflix จะบูมในไทยแล้ว การันตีช่วงโมงนอนอันน้อยนิดของพวกเขาได้เลย ว่าจะต้องแปรผกผันกับความสนุกของซีรี่ส์อย่างแน่นอน แต่ดูมาเยอะขนาดนี้แล้ว อาจจะรู้สึกเบื่อ ๆ กับซีรี่ส์บ้างแล้ว ลองขยับมาเป็น Non-Fiction อย่างสารคดีกันดูบ้างดีกว่า UNLOCKMEN ขอแนะนำ 5 สารคดีดูง่าย ได้สาระ ที่สามารถหาดูได้บน Netflix สำหรับหนุ่ม ๆ ที่อยากจะเพิ่มความประเทืองปัญญาให้ตัวเอง Explained เป็นสารคดีที่อยากแนะนำมาก ๆ เพราะเหมาะสำหรับคนเวลาน้อย ตอนละไม่ถึงชั่วโมง แถมยังอธิบายง่าย ๆ ไม่ใช้คำพูดในหนังสือหรือคำพูดที่ดูจะวกไปวนมาจนชวนเวียนหัว แถมเสียงบรรยายยังฟังง่ายจนอาจจะเปิดทิ้งไว้ไปด้วย ทำอย่างอื่นไปด้วยแบบได้สาระ เอาจริง ๆ มันเหมือนการมาเล่าอะไรสักอย่างในรูปแบบที่ย่อยมาแล้ว ให้มันออกมาง่าย สำเร็จรูปทั้งเนื้อหาและเวลา (แถมยังสนุกด้วย) เนื้อหาของมันมีหลากหลายมาก ตั้งแต่ กีฬา กัญชา รอยสัก อาหาร DNA และอีกสารพัดอย่างที่จะมาเสิร์ฟสาระดี ๆ ให้เราในทุกสัปดาห์ ใครที่อยากเติมความรู้ง่าย ๆ รอบตัวสามารถติดตามรายการนี้ได้เลย
แม้จะปล่อยมาแค่ Trailer สั้น ๆ แต่ก็ทำเอาหลายคนน้ำตาตกไปเรียบร้อยแล้วสำหรับสารคดีตามติดชีวิต BNK48 ไอดอลกลุ่มแรกในประเทศไทยในชื่อ BNK48: Girls Don’t Cry กำกับโดยผู้กำกับฝีมือเป็นเอกลักษณ์อย่าง เต๋อ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ เจ้าของผลงานภาพยนตร์ชื่อดังหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น Mary is happy, Mary is happy, ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ และอีกมากมาย การพบกันระหว่างกลุ่มไอดอลที่มีสตอรี่เรื่องราวดราม่ามากมายกับผู้กำกับยอดนักเล่าเรื่อง ทำให้เชื่อได้เลยว่าเราจะได้เห็นอะไรที่ทั้งเข้มข้นและคาดไม่ถึงใน BNK48: Girls Don’t Cry อย่างแน่นอน จากตัว Trailer ที่ปล่อยออกมาเราพอจะคาดเดาประเด็นที่ตัวสารคดีต้องการจะเล่าได้ประมาณหนึ่ง วันนี้ UNLOCKMEN จึงจะมาวิเคราะห์ให้อ่านกันคร่าว ๆ เป็นน้ำจิ้มก่อนอาหารมื้อใหญ่จะมาเสิร์ฟในวันที่ 16 สิงหาคม 2561 นี้ ความอึดอัดและการแข่งขัน มิตรภาพใน 48 Group เป็นมิตรภาพย้อนแย้งและยากจะเข้าใจได้ เพราะจากภาพที่คนนอกอย่างเราเห็นคือพวกเธอรักกันมาก เป็นกลุ่มเด็กผู้หญิงวัยใกล้เคียงกันที่ใช้ชีวิตร่วมกันแทบจะตลอดเวลามาตลอด 1 ปี แต่ในขณะเดียวกันพวกเธอคือคู่แข่งกัน ปฏิเสธไม่ได้ว่านั่นคือความจริง ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ? ก็เพราะคนที่จะได้เป็นสมาชิกตัวจริงในแต่ละเพลงจะมีแค่
นอกจากหนังแอ็คชั่นที่ทำให้ผู้ชายอย่างเราหัวใจเต้นรัวเร็วแล้ว หนังแนวสืบสวนสอบสวนก็บีบคั้นหัวใจและปลุกจิตวิญญาณนักสืบในตัวผู้ชายอย่างเราให้รู้สึกลุ้นตามตลอดเรื่องได้ไม่แพ้กัน แต่จะพีคยิ่งขึ้นถ้าเรารู้ว่าสิ่งที่เราดูมันคือเรื่องจริง! ดังนั้นขั้นสุดกว่าการดูหนังหรือซีรีส์อาชญากรรมหลุดโลก คือการดูสารคดีเกี่ยวกับอาชญากรรมที่ฆาตกรมีตัวตนจริง สถานที่จริง เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นจริง! แถมสารคดีเดี๋ยวนี้ก็ทำออกมาได้โคตรน่าติดตาม เสมือนว่าเราได้เหน็บปืนเข้าเอว แล้วแกะรอยคดีฆาตกรรมทิ้งไว้ตามการดำเนินเรื่องไปติด ๆ แต่ถ้ายังไม่รู้จะเริ่มต้นจากเรื่องไหน ลองสารคดี 5 เรื่องนี้ใน Netflix รับรองว่าเลือดสูบฉีดแรงแน่นอน Evil Genius ใครที่เคยดูหนังเรื่อง SAW แล้วรู้สึกทึ่งในความเลวและโรคจิตสุดขั้วของฆาตกรที่ติดระเบิดไว้รอบคอเหยื่อแล้วสั่งให้แก้เกมปริศนาสารพันเพื่อเอาชีวิตรอดออกมาให้ได้ ส่วนถ้าแก้ปริศนาไม่ได้ก็เตรียมตายอย่างสยดสยอง UNLOCKMEN ก็บอกได้เลยว่านั่นมันไม่ใช่ไอเดียของคนเขียนบทที่คิดพล็อตมาให้เขย่าขวัญเล่น ๆ แต่เพราะมันเคยมีคดีนี้จริง ๆ ! Evil Genius ก็คือเคสที่ว่านั้น โดยสารคดีเริ่มต้นตรงที่มีคนส่งพิซซ่ามาปล้นธนาคาร แต่มันไม่ใช่การปล้นเฉย ๆ เพราะเขามีระเบิดล็อกรอบคออยู่และตะโกนบอกตำรวจว่าเขาโดนบังคับให้มาปล้นธนาคาร ถ้าตุกติกระเบิดจะ บู้ม! แล้วเขาจะตายทันที!? แค่เริ่มต้นก็พีคแล้ว และตลอดเรื่องก็พีคขึ้นเรื่อย ๆ สารคดีจะพาเราไปหาคำตอบว่าคนส่งพิซซ่าถูกล็อกด้วยระเบิดจริงไหม ? เขาถูกบังคับมาหรือเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด ? ใครกันแน่ที่เป็นบอสใหญ่ในการสั่งการอะไรพิเรนทร์ ๆ ทั้งหมด ? บอกเลยว่าจิตวิญญาณนักสืบในตัวคุณจะเต้นเร่าด้วยความเร้าใจปนกับความเศร้าว่ามนุษย์มันคิดอะไรเลวร้ายได้ขนาดนี้เลยหรอไปตลอดเรื่องแน่นอน Deadly Women เวลาเรานึกถึงฆาตกรที่ทำอะไรเหี้ยมโหด หรือวางแผนลึกลับซ่อนเงื่อนสักคน
เวลาเราพูดถึงการดูหนัง ผู้ชายอย่างเรามักนึกถึงแต่ความบันเทิงเท่านั้น ทำให้ผู้ชายจริงจังหลายคนรู้สึกว่าการเสียเวลาไปกับความบันเทิงเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ภาพยนตร์มีแต่เรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงจริงเหรอวะ? คำตอบก็คือไม่ โลกยังเต็มไปด้วยภาพยนตร์ที่อิงความจริงอีกนับไม่ถ้วน แต่ถ้ารู้สึกว่าจริงไม่พอ UNLOCKMEN ขอเปิดโลกภาพยนตร์แบบที่ยังไม่เป็นที่นิยมมากนักในไทย (แต่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ) นั่นก็คือ “โลกของหนังสารคดี” ถ้าไม่รู้จะเริ่มตรงไหนเราอาสาพาเข้าสู่โลกแห่งความจริงจัง แต่ก็จัดจ้าน จี๊ดจ๊าดด้วยหนังสารคดี 7 เรื่องที่เคยฉายในไทยโดย Documentary Club มาแล้ว และหา DVD หาดูได้ไม่ยาก CITIZENFOUR แฉกระฉ่อนโลก CITIZENFOUR เป็นหนังรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยมประจำปี 2015 นอกจากรางวัลการันตีแล้วเราก็รับรองได้เลยว่า CITIZENFOUR จะทำให้ผู้ชายอย่างเรารู้สึกสั่นสะเทือนกับนโยบายลับ ๆ ของรัฐที่เป็นเงาครอบคลุมชีวิตเราโดยไม่รู้ตัว โดย CITIZENFOUR จะทำหน้าที่เปิดโปงนโยบายลับที่ว่านั้นซึ่งนับเป็นการเปิดโปงที่ส่งผลสั่นสะเทือนไปทั้งโลกอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ความระทึกขวัญในหนังเรื่องนี้จะพาเรานั่งไม่ติด และนั่งไม่ติดยิ่งกว่าเพราะมันไม่ใช่หนังแต่เป็นเรื่องจริง ! ถ้าอยากสัมผัสการเปิดโปง การต่อสู้กับรัฐ การดักฟังของรัฐ ด้วยบรรยากาศสมจริง (ก็จริงสิ เพราะมันคือเรื่องจริง) เราก็บอกเลยว่าห้ามพลาด The Wolfpack หมาป่าคอนกรีต นี่คือเรื่องราวของ 6 พี่น้องอังกูโล เรื่องย่อทั้งหมดของหนังมันมีแค่นี้จริง