รังสรรค์ขึ้นในปี ค.ศ. 2021 นาฬิกา แอร์เมส เอช08 คือตัวแทนของการผสมผสานระหว่างหลักการอันเข้มแข็งเข้ากับมาตรฐานระดับสูงที่หลอมรวมไว้ด้วยความหนักแน่นและลื่นไหล โดยสัญลักษณ์งานออกแบบอันร่วมสมัยซึ่งสะท้อนถึงสไตล์อันทรงพลังนี้ได้สร้างรูปเป็นวัตถุที่ถ่ายทอดไว้ทั้งหมดด้วยความสมดุลและความตรงข้ามกัน ธรรมชาติอันมีมิติที่หลากหลายจึงได้ถูกแสดงออกผ่านการเล่นกับรูปทรงและวัสดุ ด้วยความเอาใจใส่อย่างพิถีพิถันในรายละเอียดและกระบวนการสร้างสรรค์อันแม่นยำ ที่ได้สร้างรูปเป็นภาพลักษณ์ที่มีทั้งความสปอร์ตและสง่างาม ด้วยพลังอันมีชีวิตชีวาและสัมผัสแห่งอารมณ์ความรู้สึกของเส้นสายซึ่งเผยให้เห็นถึงสุนทรียะความสวยงามเฉพาะหนึ่งเดียว โดยถ่ายทอดบนหน้าปัดวงกลมพร้อมทั้งฟอนต์สไตล์ดั้งเดิม และหลอมรวมไว้ภายในตัวเรือนทรงสี่เหลี่ยมกับขอบมนอันแสนนุ่มนวล ออกแบบขึ้นโดย ฟิลิปป์ เดโลตัล (Philippe Delhotal) ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แห่ง แอร์เมส ออร์โลเฌอร์ (Hermès Horloger) นาฬิกา แอร์เมส เอช08 คือผลลัพธ์ของการผสมผสานระหว่างพื้นผิวและแร่กับเหลือบสีเข้มและสัมผัสที่เต็มไปด้วยสีสันผสานโดยเส้นสายที่ไม่อัดแน่นจนเกินไปและโดดเด่นด้วยรูปทรงเรขาคณิตอันสง่างามร่วมไปกับรูปลักษณ์ของทั้งสไตล์แบบด้านหรือเงาวาว โดยเอกลักษณ์อันโดดเด่นของนาฬิการุ่นล่าสุดนี้ในวันนี้ยังได้เสริมความรุ่มรวยแห่งเสน่ห์ด้วยการผสมผสานระหว่างทองและไทเทเนียม รังสรรค์ขึ้นภายใต้โลหะผสมอันแข็งแรงและน้ำหนักเบา กับตัวเรือนทรงสี่เหลี่ยมมนหรือคุชชัน (cushion-shaped) ของนาฬิกา แอร์เมส เอช08 ที่ประกอบด้วยฝาหลังตัวเรือนทำจากไทเทเนียม เคลือบดีแอลซี (DLC) สีดำ ส่วนด้านบนของตัวเรือนชิ้นกลางทำจากโรสโกลด์ การเล่นบนความแตกต่างกันนี้ยังเสริมเสน่ห์ยิ่งขึ้นด้วยขอบตัวเรือนและเม็ดมะยมเซรามิกสีดำซึ่งสลับระหว่างการตกแต่งแบบขัดด้านซาตินและขัดเงา ขณะที่ตัวเรือนแบบทูโทนได้ฉายความโดดเด่นให้กับมิติอันลุ่มลึกของหน้าปัดตกแต่งแบบเกรนอย่างประณีตในเฉดสีดำ ซึ่งตัดกับเข็มชี้ทองเรืองแสงและตัวเลขอารบิกทอง มอบเป็นความชัดเจนอันสมบูรณ์แบบ ขณะที่ดิสก์นาทีกลางและเข็มวินาทีเคลือบด้วยนิกเกิลสีดำ พร้อมทั้งการแสดงวันที่ภายใต้ช่องหน้าต่างทรงคุชชัน ณ ตำแหน่งระหว่าง 4 และ 5 นาฬิกา ถ่ายทอดซึ่งการแสดงอันสมดุล สวยงาม และอ่านค่าได้อย่างชัดเจน
MacBook Pro ใหม่มีประสิทธิภาพเร็วขึ้นสูงสุด 6 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel ที่เร็วที่สุด และรองรับหน่วยความจำแบบรวมสูงสุด 96GB สำหรับเวิร์กโฟลว์หนักๆ ระดับโปร Apple ประกาศเปิดตัว MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว และ 16 นิ้ว ใหม่ที่มาพร้อมซิลิคอนระดับโปรเจเนอเรชั่นถัดไปของ Apple อย่างชิป M2 Pro และ M2 Max ซึ่งจะช่วยยกระดับประสิทธิภาพที่ยังคงประหยัดพลังงานและระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่สำหรับผู้ใช้ระดับโปร ชิป M2 Pro และ M2 Max ซึ่งเป็นชิปที่ทรงพลังและประหยัดพลังงานที่สุดในโลกสำหรับแล็ปท็อประดับโปร ช่วยให้ MacBook Pro สามารถจัดการกับงานหนักๆ อย่างการเรนเดอร์เอฟเฟ็กต์ได้เร็วขึ้นสูงสุด 6 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel ที่เร็วที่สุด และปรับแก้สีได้เร็วขึ้นสูงสุด 2 เท่า ประสิทธิภาพของ
สร้างสรรค์สไตล์ให้โดดเด่นและเป็นตัวเองด้วยนาฬิกาเรือนโปรดไปกับแบรนด์ “ทิสโซต์” (Tissot) ที่หลังประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจากการนำคอลเลกชั่น “พีอาร์เอ็กซ์” (PRX) ที่ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในปี 1978 กลับมาสร้างสรรค์ใหม่อีกครั้งในขนาด 40 มม. เมื่อปี 2021 โดยล่าสุด “ทิสโซต์” (Tissot) ได้ประกาศเปิดตัวเรือนเวลาคอลเลกชั่นใหม่ที่ชื่อว่า “พีอาร์เอ็กซ์ 35 มม.” (PRX 35MM) กับการปรับขนาดนาฬิกาให้เล็กลงด้วยขนาด 35 มม. เพื่อตอบโจทย์หนุ่มสาวที่ต้องการความคล่องตัว แต่ยังคงไว้ซึ่งความเท่และกลิ่นอายของยุค 70s โดย “ทิสโซต์” (Tissot) ได้บอกเล่าจุดเด่นของคอลเลกชั่นนี้ผ่านการสร้างสรรค์ภาพยนตร์สั้นสะท้อนถึงวัฒนธรรมป๊อปคลาสสิกของกลุ่มวัยรุ่นในช่วงยุค 70s “ทิสโซต์” (Tissot) แบรนด์นาฬิกาสัญชาติสวิส ในเครือเดอะ สวอท์ช กรุ๊ป เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) ที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1853 ด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นาฬิกาประสิทธิภาพสูงในดีไซน์ที่ความทันสมัยอย่างมีเอกลักษณ์ อีกทั้งยังเป็นแบรนด์ได้การยอมรับในแวดวงกีฬา ในฐานะผู้ผลิตนาฬิกาที่มีเทคโนโลยีระบบจับเวลาด้านความเที่ยงตรงแม่นยำสูงสุด สำหรับภาพยนตร์สั้นจากคอลเลกชั่น “พีอาร์เอ็กซ์ 35 มม.” (PRX 35MM) ถูกถ่ายทอดเรื่องราวผ่านกลุ่มเพื่อนที่ทั้ง 5
ตรงกับช่วงเวลาของการเฉลิมฉลองปีเถาะ หรือ The Year of the Rabbit ที่ใกล้จะมาถึง แฟรงค์ มุลเลอร์ (Franck Muller) และแบรนด์สตรีทแวร์จากโตเกียว #FR2 ได้จับมือกันเผยโฉมนาฬิกา #FR2NCK MULLER Vanguard ซึ่งนับเป็นความร่วมมือกันครั้งแรกระหว่างสองแบรนด์ ทั้งยังเป็นโอกาสที่จะได้เห็น แฟรงค์ มุลเลอร์ นำภาษาการออกแบบอันโดดเด่นของ #FR2 มาใช้บนนาฬิกาเอกลักษณ์อย่าง แวงการ์ด (Vanguard) โดยผลลัพธ์แห่งความร่วมมือนี้คือเรือนเวลาอันล้ำนำแฟชั่นและทันสมัย ด้วยหน้าปัดที่ประดับตกแต่งลวดลายกระต่ายอันเป็นไอคอนิกตลอดกาลของ #FR2 ซึ่งนั่งอยู่ท่ามกลางตัวเลขรูปทรงสัญลักษณ์ และตัวเรือนทรงตอนโนของ แฟรงค์ มุลเลอร์ โดย #FR2NCK MULLER Vanguard นับเป็นสะพานเชื่อมโยงระหว่างประเพณีการประดิษฐ์นาฬิกาหรูของสวิส และสตรีทแฟชั่นของญี่ปุ่น จากการหลอมรวมองค์ประกอบต่างๆ ของแต่ละจักรวาล และเติมเต็มด้วยสัมผัสอันเป็นเอกลักษณ์ของทั้งสองนักสร้างสรรค์ ผลงานนี้จึงมีความโดดเด่นอย่างชัดเจนบนหน้าปัด ที่ซึ่งเผยความสวยงามอันล้ำสมัย แต่ยังคงความเหนือกาลเวลาของ แฟรงค์ มุลเลอร์ ที่สะท้อนผ่านอารมณ์สัมผัสแห่งสตรีทสไตล์ ประกอบด้วยฐานหน้าปัดสีขาวแบบด้านที่นับเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งต่างๆ ซึ่งก่อร่างขึ้นกลายเป็นความสวยงามอันเป็นหัวใจ และเหนือขึ้นไปนั้นยังบรรจุไว้ด้วยเข็มชี้บอกเวลา มาร์กเกอร์ และเครื่องหมายขีดแบบนำมาติดที่เป็นสีดำ ด้วยลุคสไตล์โมโนโครมที่ตัดกันอย่างชัดเจนยังได้มอบซึ่งความสมบูรณ์ลงตัวจากการเล่น
งดงามสมการรอคอย! เมื่อ “มิโด” (MIDO) แบรนด์นาฬิกาชั้นนำจากสวิตเซอร์แลนด์ ในเครือเดอะ สวอท์ช กรุ๊ป เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) ประกาศเปิดตัวเรือนเวลาหรูรุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น “คอมมานเดอร์” (Commander) นาฬิกาเรือนสุดท้ายที่เหล่านักสะสมต่างรอคอยจากคอลเลกชั่น “ทเวนตี้ เยียร์ส อินสไปร์ บาย อาคิเทคเจอร์” (20Years Inspired By Architecture) ซึ่งเป็นการออกแบบนาฬิการุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น เพื่อเป็นการรำลึกถึงสุดยอดสถาปัตยกรรมชื่อก้องโลกที่ถูกนำมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบนาฬิกาของแบรนด์ “มิโด”(MIDO) ในตลอด 20 ปีที่ผ่านมา “มิโด” (MIDO) แบรนด์นาฬิกาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี นับตั้งแต่ จอร์จ แชแรน (GEORGES SCHAEREN) เริ่มก่อตั้งบริษัท MIDO G.SCHAEREN & CO. AG ขึ้นที่เมืองโซโลธูร์น ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ตั้งแต่ ค.ศ. 1918 ภายใต้ปรัชญาของการสร้างสรรค์แบรนด์ให้อยู่เหนือกาลเวลาด้วยแนวคิดการออกแบบที่ร่วมสมัย ผ่านการคัดเลือกวัสดุคุณภาพเยี่ยมที่มีความหรูหรา ทนทาน
Rolex จริงจังกับการเป็นเจ้าแห่งนาฬิกาดำน้ำ นับตั้งแต่ Submariner (1953) พัฒนาไปเป็น Sea-Dweller (1967), Deepsea (2008) มาจนถึง Deepsea Challenge ในวันนี้ กลับมาคว้าเจ้าของสถิติ Production Diving Watch ที่ดำน้ำได้ลึกที่สุดในโลก ด้วย Deepsea ตัวเรือน Titanium case ครั้งแรกของ Rolex กับรหัส reference 126067 หลังจากเคยส่ง experimental watch ลงไปกับเรือดำน้ำใต้ Maraiana Trench จุดที่ลึกที่สุดในโลกกับ James Cameron มาแล้วในปี 2012 Rolex Deepsea Challenge 2022 หน้าปัดขนาด 50mm หนา 23mm เป็นกระจก Sapphire crystal glass ถึง 9.5mm กลไก
อีกครั้งกับความร่วมมือ TAG Heuer x Nintendo ทั้งสองได้ร่วมมือกันสร้างสรรค์เรือนเวลาสองรุ่นสุด limited ในรูปแบบของโครโนกราฟ TAG Heuer Formula 1 สำหรับนักสะสมเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองไปกับ Mario Kart แฟนๆที่หลงใหลความสดใสและกล้าหาญของ Super Mario จะได้เห็นตัวละครโปรดของพวกเขาโลดแล่นอีกครั้ง คอลเล็กชั่นที่เปี่ยมด้วยจิตวิญญาณแห่งการแข่งขันอันเป็นสัญลักษณ์ของ TAG Heuer และการออกแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ทั้งสองสิ่งเกิดขึ้นจากการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างทีม TAG Heuer และ Nintendo เพื่อปรับแต่งในทุกรายละเอียด โดยทั้งสองแบรนด์ได้ร่วมแบ่งปันแนวคิดที่เป็นเอกลักษณ์ของทั้งคู่ ในคอลเลคชัน TAG Heuer Formula 1 และชุด Mario Kart ได้แก่ อะดรีนาลีน ความเร็ว การแข่งขัน ไปจนถึงชัยชนะ “เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะเปิดเผยสองผลงานล่าสุดที่เกิดจากความร่วมมือของเรากับทาง Nintendo “TAG Heuer Formula 1 X Mario Kart Limited Editions” (Chronograph และ Chronograph Tourbillon) ผสมผสานไปด้วยการเล่นสนุกๆ ซึ่งจะทำให้แฟน ๆ ของ Mario Kart ทั่วโลกพึงพอใจด้วยการจับเวลาที่ละเอียดและมีประสิทธิภาพสูง” Frédéric Arnault
ใหญ่กว่าแล้วไง มีข้อดีอะไรใน iPhone 14 Plus ที่น่าสนใจบ้าง จากผู้ใช้งาน iPhone 14 และ iPhone 14 Pro Max เรามีข้อสรุปมาให้เผื่อใครกำลังตัดสินใจอยู่ – iPhone 14 Plus เหมาะสำหรับคนที่เน้นใช้งาน iPhone แบบทั่วไป ใช้ดู YouTube ถ่ายรูปในชีวิตประจำวัน ไม่ได้ต้องเน้นฟังก์ชันกล้องความละเอียดสูง หรือ Dynamic Island – หน้าจอใหญ่ 6.7 นิ้วเทียบเท่า 14 Pro Max ดูหนังเล่นเกมได้เต็มตาดีมากกว่า 14 และมีความละเอียดมากขึ้นเป็น 2778 x 1284 resoluton แม้จะได้ refresh rate 60Hz (vs 120Hz for Pro Max) แต่ก็ถือว่าลื่นเหลือเฟือ – iPhone
ชายผู้เคยบอกว่า AI นั้นน่ากลัวและเป็นภัยต่อมนุษยชาติ เมื่อคืนพึ่งจะเปิดตัวผลงานเทคโนโลยีชิ้นล่าสุดที่กำลังพัฒนาโดย Tesla มีนามว่า “Optimus” AI Robot ที่เปิดตัวอย่างสวยงามบนเวทีงาน Tesla AI Day ใน Silicon Valley มันสามารถเดินและเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมโบกมือทักทายผู้คนในงานได้อย่างคล่องแคล่ว Elon Musk ตั้งใจพัฒนา Optimus ขึ้นมาเพื่อใช้ทำงาน routine ในโรงงาน Tesla ซึ่งคาดว่าจะสามารถวางขายเพื่อใช้แทนแรงงานมนุษย์ได้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ด้วยราคาราว 750,000 บาทต่อตัว ซึ่งถือไม่แพงเลยหากมันช่วย automated บางขั้นตอนในการผลิตให้สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีป่วย ไม่มีลา ไม่มีจับกลุ่มด่านินทาเพื่อนร่วมงานให้เกิดดราม่าในองค์กร และไม่ต้องกลัวว่าวันนึง Optimus จะชวนกันกลายร่างเป็น The Terminator robot แล้วหันยึดครองโลกมนุษย์ เพราะ Elon Musk จะจำกัดขีดความสามารถของมัน เช่น จำกัดความเร็วในการวิ่งไม่เกิน 5 mph พร้อมปุ่มสำหรับปิดฉุกเฉินแบบ hardwired
Franck Muller ร่วมฉลองครบรอบ 50 ปี กับบริษัท Cortina Watch หนึ่งในบริษัทด้านการค้าปลีกนาฬิกาและเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของสิงคโปร์ โดยได้เปิดตัวคอลเล็กชั่นนาฬิการุ่นพิเศษ Vanguard Revolution 3 Skeleton ซึ่งประกอบไปด้วย 5 รุ่นย่อย ที่ได้รับการออกแบบอย่างมีเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นรุ่นที่ผลิตออกมาในจำนวนจำกัด นอกจากนี้ในเดือนที่ผ่านมายังได้มีการจัดแสดงคอลเล็กชั่นนาฬิกาที่เป็นสุดยอดของการประดิษฐ์นาฬิกาจากอัญมณีชั้นสูง และเรียกได้ว่าเป็นตัวแทนแห่งความหรูหราของ Haute Horlogeries ซึ่งเป็นการนำเอารุ่นพิเศษอย่าง ทูร์บิญอง (Tourbillions) แบบสามเข็ม ประดับด้วยอัญมณีล้ำค่า และได้นำเอาเพชรพลอยที่ได้คัดสรรมาอย่างดีเยี่ยมเพื่อให้เกิดประสบการณ์ที่น่าค้นหา นาฬิกา Vanguard Revolution 3 Skeleton อันเป็นเอกลักษณ์ทั้ง 5 รุ่นนี้ ได้รับการรังสรรค์อย่างพิถีพิถันโดยช่างฝีมือระดับปรมาจารย์ที่ Watchland ในเจนีวา เพื่อรำลึกถึงความร่วมมืออันล้ำค่าระหว่าง Franck Muller และ Cortina Watch รวมถึงความคิดสร้างสรรค์ที่โดดเด่นและจิตวิญญาณแห่งการบุกเบิกของ Franck Muller โดย มร. เจเรมี ลิม CEO ของ