พอจะเข้าสู่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2022 วงที่เรารักก็พร้อมใจกัน Come Back ปล่อยอัลบั้มใหม่หรือเพลงใหม่กันรัว ๆ และหลาย ๆ วง ก็พากันมาทัวร์เยือนเมืองไทย ตอกย้ำคอนเซปต์ #กรุงเทพเมืองคอนเสิร์ต ให้หนักแน่นกันไปเล้ยยย เดือน 8 แล้วคุณพี่ก็ยังคงทยอยประกาศทัวร์กันอย่างต่อเนื่อง เป็นเศร้าไม่มีเงินแล้ว : ( ในการปล่อยเพลงใหม่ในแต่ละครั้ง นอกจากความน่าสนใจในผลงานเพลงที่เติบโตขึ้น บ้างก็เปลี่ยนแปลงไปเลย อีกสิ่งที่มาควบคู่กันทุกครั้งคือ ‘ลุค’ ที่ต้องปรับทุกครั้งที่ปล่อยเพลงใหม่ UNLOCKMEN ขอแคปเจอร์ลุคจากเหล่าฟรอนต์แมนที่เราหลงใหล เป็นแรงบันดาลใจช่วยให้อยากแต่งตัวสนุกในชีวิตจริงกัน Alex Turner (Arctic Monkeys, The Last Shadow Puppet) การกลับมาที่ซีนดนตรี Indy Rock รอคอย กับวงที่เป็นหัวแถวและผู้นำทางดนตรีแห่งยุคสมัย Arctic Monkey ที่ประกาศอัลบั้มใหม่ชื่อ The Car พร้อมกับกำหนดปล่อยให้ฟังพร้อมกันทั้งอัลบั้มในวันที่ 21 ตุลาคมนี้แล้ว เย้! สิ่งที่น่าสนใจทุกครั้งของ Arctic Monkey คือการปรับเปลี่ยนแปลงลุคของฟรอนต์แมน
แฟชั่นเป็นสิ่งที่ผ่านมาแล้วผ่านไป บางครั้งก็วนกลับมาใหม่ตามฤดูกาล ตามกระแสสังคม หรือไอเทมที่อยู่ ๆ ก็ฮิตขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเพราะคนดังผู้ทรงอิทธิพลจากวงการต่าง ๆ เลือกสิ่งนั้นขึ้นมาสวมใส่ หลายคนที่ตามแฟชั่นมานานหรือใครก็ตามที่แวะเวียนมาสู่โลกแฟชั่นเพื่อมองหาไอเทมที่เข้าตาต่างต้องเจอเหมือนกันคือ ภาพถ่ายคอลเลกชันต่าง ๆ ที่มีนางแบบหรือนายแบบยืนนิ่งไม่ไหวติง บางครั้งก็มีฉากหลังเป็นกำแพงสีขาว บางคอลเลกชันก็ขนกันออกไปยืนถือกระเป๋านิ่ง ๆ ริมถนน แม้ว่าการให้นางแบบนายแบบสวมใส่เครื่องแต่งกายประจำซีซันจะทำให้เห็นไอเทมชัด แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าพอเห็นบ่อย ๆ เราก็รู้สึกเบื่อ Gucci ก็คงจะเบื่อการถ่ายภาพแฟชั่นแบบเดิม ๆ เหมือนกับ UNLOCKMEN ทำให้แคมเปญถ่ายภาพประจำคอลเลกชัน Spring/Summer 2020 พยายามจะสร้างสีสันและความสนุกสนานให้กับวงการแฟชั่นด้วยการนำม้ามาร่วมเป็นแบบในภาพถ่ายแฟชั่น การถ่ายภาพครั้งนี้แบรนด์สัญชาติอิตาลีชื่อดังเลือกใช้โลเคชันเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะอย่าง Los Angeles เมืองที่มีอากาศอบอุ่นและแดดจ้าเหมาะกับคอลเลกชัน Gucci Retro Spring/Summer 2020 ตระเวนไปตามถนนหนทาง แวะถ่ายภาพใน Chateau Marmont โรงแรมชื่อดัง คาร์แคร์ ปั๊มน้ำมัน ชายหาด และลานจอดรถ เพื่อถ่ายแฟชั่นทั่วเมืองโดยใช้สถานที่ที่ผู้คนทั่วไปเข้าถึงได้จริง ๆ เพราะแฟชั่นคือเรื่องของทุกคนไม่ใช่แค่ใครคนใดคนหนึ่ง ถ่ายภาพทั้งหมดในคอลเลกชัน Gucci Retro ที่วางคอนเซ็ปต์โดยครีเอทีฟไดเรกเตอร์ชื่อดัง Alessandro Michele ถูกเล่าเรื่องในมุมมองของ
ตรุษจีนในปี 2020 ถือว่ามาไวกว่าที่คิด ทำให้โลกแฟชั่นในตอนนี้ต่างเข็นคอลเลกชันพิเศษสำหรับเทศกาลตรุษจีนออกมาแข่งขันกันอย่างคึกคัก รวมถึงแบรนด์แฟชั่นไฮเอนด์จากอิตาลีอย่าง Gucci ที่ปล่อยหมัดเด็ดเก็บครบทั้งตรุษจีนและปีชวดในคอลเลกชันเดียว ด้วยการไป collaboration กับค่ายหนังชื่อดังอย่าง Disney การร่วมมือกันระหว่าง Gucci กับ Disney คือการยืมตัวการ์ตูนดังตลอดกาลของค่ายอย่าง Mickey Mouse มาอยู่บนไอเทมแฟชั่นคอลเลกชัน Gucci Chinese New Year ที่จะมาสร้างความสนุกสนานให้กับคอลเลกชันนี้มากขึ้นกว่าเดิม คอลเลกชันพิเศษที่ว่าคือสนีกเกอร์ทั้งหมด 5 คู่จาก Gucci ทั้งรองเท้าสไตล์วินเทจจากปี 1980 อย่าง Rhyton หุ้มข้อคู่หนา ความสูง 5 นิ้ว ที่สร้างสรรค์มาเพื่อผู้ชายโดยเฉพาะ รวมถึงสนีกเกอร์ยอดฮิตของแบรนด์รุ่น Ace ผลงานจากการประยุกต์อันน่าประทับใจของครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนปัจจุบันประจำแบรนด์อย่าง Alessandro Michele จนทำให้สนีกเกอร์ Gucci ขายดิบขายดี Mickey Mouse ที่ถูกประทับอยู่บนสนีกเกอร์จะมีอิริยาบถที่แตกต่างกันไป อย่างคู่ Rhyton และ Ace สีครีมเรียบหรู เดิมใช้สัญลักษณ์ของแบรนด์ประทับอยู่ด้านข้างรองเท้าถูกเปลี่ยนเป็นมิกกี้ที่กำลังนอนเท้าคาง คล้ายกับว่าเขากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่
สำหรับใครที่ตามกระแสแฟชั่นเมื่อปีก่อนก็จะทราบว่าแบรนด์ยอดนิยมที่ถูกค้นหาบน google มากเป็นอันดับหนึ่งของปี 2018 คือ Gucci หลังจากที่ได้รับความสนใจมาตลอดทั้งปี ปีนี้แบรนด์เครื่องแต่งกาย Hi-End พร้อมส่งไอเทมเท่ ๆ เข้าสู่ตลาดแฟชั่น Streetwear ด้วยการนำแรงบันดาลใจจากหมวกเบสบอล New York Yankees อันโด่งดังมาไว้บนผลิตภัณฑ์เครื่องหนังของแบรนด์ โลโก้ NY ที่ฮอตฮิตนั้นมีจุดเริ่มต้นมาจากทีมเบสบอล New York Yankees แต่ช่วงแรกกลุ่มคนที่ใส่หมวกหรือเครื่องแต่งกายที่มีสัญลักษณ์ของทีมก็มักจะเป็นแฟนคลับ ต่อมาโลโก้ของทีม NY Yankees ถูกพูดถึงมากในปี 1990 เพราะนักเรียกร้องสิทธิมนุษยชนผิวสีชื่อดัง Nelson Mandela เดินทางมายัง Yankee Stadium พร้อมกับสวมหมวกเบสบอลปักตัวอักษร NY และกล่าวสุนทรพจน์ที่กินใจผู้คน จากเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้ไม่ใช่แค่แฟน ๆ ของทีมเบสบอลนิวยอร์กแยงกี้เท่านั้นที่จะสวมใส่ไอเทมที่มีโลโก้ NY แต่คนอเมริกันส่วนมากต่างก็หาหมวกดังกล่าวมาใส่กันจนเป็นกลายแฟชั่นที่ใครหลายคนมองว่าเท่ แถมสัญลักษณ์ของทีมนิวยอร์กแยงกี้ก็ยังคงความนิยมไม่เคยเสื่อมคลายมาจนถึงปัจจุบัน เห็นได้จากแรปเปอร์หนุ่ม Jay-Z และศิลปินชื่อดังหลายคนก็ชื่นชอบการสวมหมวกทีมีสัญลักษณ์ NY ด้วยเช่นกัน เหตุผลที่ทำให้ Gucci ตัดสินใจนำโลโก้ของทีม New York Yankees
เพราะความเท่าเทียมและสีผิวเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องคอยระวังอยู่เสมอ ไม่เว้นแม้แต่แบรนด์แฟชั่นยอดนิยมอันดับ 1 (เพิ่งถูกจัดอันดับเสร็จไปหมาด ๆ ) อย่าง Gucci ก็ต้องเผชิญกับปัญหานี้เช่นกัน เพราะเสื้อสเว็ตเตอร์และผ้าปิดปากของแบรนด์ดันคล้ายคลึงกับการล้อเลียนชาวผิวสีในอดีต แฟชั่นที่สร้างความปั่นป่วนให้กับ Gucci ในครั้งนี้คือเสื้อสเว็ตเตอร์สีดำ Balaclava Knit Top Black ในคอลเลกชัน Fall Winter 2018 ที่เมื่อปล่อยรูปออกมาก็เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว ด้วยดีไซน์ที่ต้องดึงคอเสื้อขึ้นไปปิดปากและผ้าที่อยู่พอดีกับรูปปากดันเป็นสีแดงที่ดูเหมือน Black face เหตุที่เสื้อสเว็ตเตอร์ซึ่งดูคล้ายคลึงกับ Black face สร้างผลเสียต่อกุชชีนั่นเป็นเพราะ Black face & Red lips คือสัญลักษณ์แสดงถึงช่วงเวลาแห่งการกดขี่เมื่อกว่าร้อยปีก่อนที่ห้ามคนผิวสีเล่นละครเวที แต่ถ้าเรื่องไหนมีตัวละครทาสผิวสีก็จะใช้คนผิวขาวเล่นแทนโดยการทาหน้าดำพร้อมกับทาปากแดง เป็นการแต่งหน้าล้อเลียนผู้คนผิวสีในสมัยนั้น และเมื่อใดก็ตามที่เห็นการทาหน้าดำปากแดงคนทั่วโลกโดยเฉพาะทางฝั่งยุโรปและอเมริกาก็จะรู้กันว่านี่คือการเหยียดสีผิว หลังจากที่เสื้อสเว็ตเตอร์ Balaclava Knit Top Black วางจำหน่ายช่วงปลายปึ 2018 จนถึงเดือนมกราคมปี 2019 ในราคาตัวละ 890 ดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยราว 28,000 บาท โลกโซเชียลก็วิจารณ์กันอย่างร้อนแรง หลายคนมองว่าถ้าออกแบบเสื้อให้เป็นสีดำล้วนตั้งแต่แรกก็จบแล้ว แต่ดันออกแบบผ้ารอบปากให้เป็นสีแดงที่ดูจงใจเกินไป แต่แบรนด์ออกมาตอบว่าพวกเขาดีไซน์มาเพื่อสดุดี
ผู้ชายไทยอย่างเรารู้ดีว่าปีนี้คือปีหมู แต่ใช่ว่าคนทั้งโลกจะรู้ไปกับเราด้วยเพราะชาติตะวันตกนั้นไม่ได้มีการนับปีตามปฏิทินนักษัตรเหมือนอย่างประเทศในทวีปเอเชียตะวันออก แต่ถ้าเป็นเรื่องของแฟชั่นนั้นย่อมไม่มีคำว่าขอบเขตหรือเชื้อชาติ เพราะ Gucci แบรนด์แฟชั่นระดับโลกก็อินกับปีหมูและออกคอลเลกชันเพื่อต้อนรับเทศกาลปีใหม่จีนด้วยการนำหมูมาอยู่ในงานดีไซน์ได้อย่างลงตัว Gucci ภายใต้การนำของ Alessandro Michele ดีไซเนอร์หนุ่มมากความสามารถที่มีแนวคิดไม่เหมือนใคร ได้หยิบตัวการ์ตูนชื่อดังตั้งแต่สมัย 1993 อย่าง Three Little Pigs หรือที่คนไทยรู้จักกันได้ในชื่อ ลูกหมูสามตัว จากค่ายการ์ตูนชื่อดังอย่าง Disney นิทานเก่าแก่ที่ยังคงอยู่ในทุกยุคทุกสมัยมาสร้างสรรค์เป็นผลงานแฟชั่นได้อย่างสนุกสนาน เพราะปีนี้คือปีหมู และ Alessandro Michele คือแฟนคลับตัวยงของ Disney เขาจึงไม่พลาดที่จะหยิบเรื่องราวของลูกหมูสามตัวที่บอกเล่าเรื่องราวของความขยันและขี้เกียจมาปัดฝุ่นใหม่อีกครั้งโดยการนำลูกหมูทั้งสามตัวมาอยู่บนเสื้อผ้าในคอลเลกชั่น Ready-to-Wear ทั้งเสื้อผ้าสำหรับสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีเพื่อต้อนรับเทศกาลปีใหม่จีนที่กำลังจะมาถึง สำหรับลายปัก Three Little Pigs หรือลูกหมูสามตัวจะถูกปักไว้บนไอเทมต่าง ๆ ของคอลเลกชันนี้ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าสตางค์ กระเป๋าสะพาย แว่นกันแดด ผ้าพันคอ หมวก นาฬิกาข้อมือ หรือกระเป๋าสุดคูลที่ผู้ชายคอแฟชั่นควรมีอย่าง Beanie Tote Bag รวมไปถึงเสื้อผ้าที่ขนกันมาทุกแบบทุกสไตล์ ทั้งเสื้อโปโล เสื้อเชิ้ต รวมถึงเสื้อแจ๊คเก็ตที่ปัก และไฮไลต์อย่างรองเท้าสนีกเกอร์ยอดฮิตของแบรนด์อย่าง Ace ที่เปลี่ยนความเรียบง่ายให้เป็นความเท่เฉพาะตัวด้วยเจ้าลูกหมูสามตัวที่แปะทับลายสัญลักษณ์แถบสามสีของ