แล้วระยะเวลา 3 ปีของโปรเจกต์ดัดแปลงหนึ่งในเกมที่ดีที่สุดของโลกชื่อ The Last Of Us ระหว่าง HBO กับ Naughty Dog ก็จบลงเสียที ถ้าจะบอกว่านี่คือหนึ่งในซีรีส์ซึ่งดัดแปลงจากวิดีโอเกมที่มีแฟนคลับรอคอยมากที่สุดครั้งหนึ่งของโลกก็ไม่ผิดเลย เพราะตลอด 10 ปีของ The Last Of Us นั้น ไม่เคยเป็นเส้นทางที่ใช้คำว่า ‘กลาง ๆ’ ได้สักครั้ง นี่คือเกมที่มีผู้เล่นทุกรูปแบบ เกลียดมาก / ชอบมาก / เกลียดระบบการเล่นชอบเนื้อเรื่อง / เกลียดเนื้อเรื่องชอบระบบการเล่น และเป็นการที่ผู้คนจำนวนมากออกมาถกเถียงในประเด็นต่าง ๆ มากมายแม้ว่าเกมจะจบไปตั้งแต่ปี 2020 พร้อมรางวัล Game Of The Year ประจำปีไปแล้วก็ตาม ในฐานะที่เป็นนักเขียนของ UNLOCKMEN และแฟนคลับเดนตายคนหนึ่งของ The Last Of Us ถึงขนาดว่าเล่นเกมนี้จบแล้วไม่สามารถหาเกมที่ดีกว่ามาเล่นได้อยู่พักใหญ่ เราจะขอพูดถึงเวอร์ชั่นซีรีส์ที่เพิ่งปล่อยตอน Pilot
หลังจากที่ระบบสตรีมมิ่งในอินเทอร์เน็ตเข้ามาแทนที่โทรทัศน์ ก็ทำเอาไลฟ์สไตล์ของผู้ชายเราผูกโยงกับหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือจอสมาร์ตโฟนมากกว่าจอแก้วที่ดูมาตั้งแต่เด็ก ๆ แม้การมาของวิดีโอสตรีมมิ่งจะไม่ได้ร้ายแรงขนาดทำลายธุรกิจโทรทัศน์ได้ แต่มันก็เข้ามาแย่งส่วนแบ่งการตลาดไปโดยที่วงการจอแก้วยากจะต่อกร ถ้าบอกว่าธุรกิจแนวนี้กำลังมาแรงก็คงไม่แปลกนัก เพราะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีสตรีมมิ่งวิดีโอเกิดขึ้นมากมายและผู้คนก็นิยมอย่างล้นหลาม ทั้ง LINE TV, Netflix, Roku, Disney และเจ้าอื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วน พวกเขาต่างต่อสู้ฟาดฟันกันเพื่อนำเสนอคอนเทนต์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะซีรีส์ ภาพยนตร์ แอนิเมชัน หรือแม้แต่ภาพยนตร์สารคดีก็ตาม แต่ไม่นานมานี้ความมั่นคงของค่ายยักษ์แห่งวงการสตรีมมิ่งวิดีโอก็ต้องสั่นคลอนอีกครั้ง เมื่อ Apple ประกาศเปิดตัว Apple TV+ พร้อมชูจุดขาย “Cheaper Streaming Service” หรือ “บริการสตรีมมิ่งที่ถูกกว่า” จากบริษัทผลิตฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์สุดแข็งแกร่งของโลก เตรียมมุ่งหน้าเข้าเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจวิดีโอสตรีมมิ่งอย่างเต็มตัว ผลที่ตามมาคือทำให้หุ้นของ Netflix ลดลงถึง 3.25% หุ้น Disney ลด 2.76% และหุ้นของ Roku ลดลงมากถึง 12.62% การต่อสู้กับคู่แข่งตัวฉกาจ แม้ Apple จะมีรากฐานที่แข็งแรง แต่คงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับน้องใหม่ที่ต้องสู้รบกับพี่ ๆ ยักษ์ใหญ่ที่คร่ำหวอดในวงการนี้มาก่อนหลายปี ไหนจะ Disney
เรียกความสนใจจากผู้ชายได้เสมอสำหรับกีฬามวย เพราะความรู้สึกของการได้เห็นยอดฝีมือสองคนยืนตะบันหน้าแลกหมัดกันบนเวทีสามารถสร้างความเลือดร้อนและตื่นเต้นให้กับเราได้ตลอดเวลา ทำให้ทุกวันนี้อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับวงการหมัดมวยก็จะมีเม็ดเงินมหาศาลไหลเข้ามาเสมอ ทั้งค่าตัวนักชก ค่าโปรโมเตอร์ หรือส่วนแบ่งต่าง ๆ จากการแข่งขัน แต่ดูเหมือนว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคนดูอย่างการถ่ายทอดสด Boxing เริ่มมีอาการซบเซากว่าที่เราคิด ทำให้ช่องยิงสดมวยในตำนานอย่าง HBO ยังต้องโยนผ้าขาว ถอยฉากหลบออกมาก่อนจะโดนหมัดน็อคขาดทุนไปมากกว่านี้ HBO BOXING มีความผูกพันกับวงการมวยสากลอาชีพมาเป็นเวลายาวนานกว่า 45 ปี ครั้งแรกที่พวกเขาตัดสินใจซื้อลิขสิทธ์การแข่งขันถ่ายทอดสดทางเคเบิ้ลทีวีในสหรัฐอเมริกานั้น ต้องย้อนกลับไปถึงปี 1973 เลยทีเดียว โดยครั้งนั้นเป็นการขึ้นตะบันหน้ากันของสองยอดฝีมือในรุ่น Heavyweight ระหว่าง Joe Frazier กับ George Foreman’s และเป็นฝ่ายหลังที่ชนะน็อคไปได้ เหตุการณ์ครั้งนั้นเองกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นตำนานอันยิ่งใหญ่ของ HBO BOXING ก่อนจะพัฒนาตัวเองมาสู่การเป็นผู้จัดพร้อมกับถ่ายทอดเองเหมือนในทุกวันนี้ แต่ทว่าความมั่งคั่งมักไม่ค่อยอยู่กับใครนาน แม้ว่าคุณจะเคยอยู่จุดสูงสุดของวงการก็ตาม เพราะ HBO ได้จัดงานแถลงข่าวขึ้นโดยให้ Peter Nelson รองประธานฝ่ายบริหารของ HBO Sport มาเป็นคนแจ้งข่าวใหญ่ครั้งนี้ บอกว่าพวกเขามีแผนจะยุติการถ่ายทอดสดกีฬามวยสากลอาชีพในปี 2019 โดย Peter ให้เหตุผลว่าหลังจากที่บริษัทได้ทำการสำรวจและวิจัยเกี่ยวกับสถิติผู้เข้าชมมาสักระยะหนึ่ง พบว่ามวยไม่ใช่ปัจจัยหลักของการสมัครเป็นสมาชิกอีกต่อไปแล้ว ทำให้ HBO