แฟนคลับรู้กันดีว่าราชานิยายสยองขวัญ ‘สตีเวน คิง (Stephen King)’ เขียนเรื่องราวโดยการเอาปากกาจุ่มหมึกตรา ‘ชีวิตจริง’ ของตัวเองเสมอ อย่าง Carrie นิยายเล่มแรกที่เปลี่ยนชีวิต ในปี 1974 ได้แรงบันดาลใจมากจากเพื่อนผู้หญิงในโรงเรียนคนหนึ่งของคิง ที่มีแม่เป็นคนแปลก ๆ ให้ลูกแต่งตัวมาโรงเรียนด้วยชุดแบบเดียวกันตลอดทั้งเทอม และเมื่อเธอซื้อเสื้อผ้าใหม่ใส่มา กลับโดนเพื่อนทั้งโรงเรียนบูลลี่ หรือในเรื่องสั้น The Body (ที่ถูกทำเป็นหนัง coming of age ชื่อ Stand By Me ในปี 1986) ก็มาจากความทรงจำเรือนลางตอน 4 ขวบของคิง ที่เพื่อนของเขาถูกรถไฟชนจนเสียชีวิต และในปี 1983 เองก็ไม่ต่างกัน เมื่อคิงได้บังเอิญอ่านข่าวเกี่ยวกับรถผีสิงที่น่ากลัวที่สุดของอเมริกาตอนช่วงยุค 60s มันช่วยทำให้เขาประกอบรถของตัวเองขึ้นมาบ้าง-รถที่แฟนคลับหนังสือของเขาติดตาไม่มีลืมคันนั้นใช้ชื่อว่า Christine ส่วนรถต้นขั้วความสยองขวัญคือ The Golden Eagle รถที่ว่ากันว่าฆ่าคนไปกว่า 32 ศพ ! Chapter 1 The (3)
แล้วฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ก็ไม่เหมือนเดิมอีกเลย Chino Yumiko ต้องใช้ชีวิตในวัย 65 คนเดียว หลังจากที่สามีเสียชีวิตไปได้เกินเดือนแล้ว เธอใช้ชีวิตประจำวันราวกับว่าถูกตั้งโปรแกรมเอาไว้ ตื่นเช้าออกมารับแดด ตอนบ่ายทำกับข้าว แต่ทว่าวันหนึ่ง Yumiko กลับออกนอกโปรแกรมอย่างไม่รู้ตัว เธอหยิบวิดีโอม้วนเก่าที่เคยดูกับสามีเพื่อที่จะเปิดดูอีกครั้งก่อนที่จะพบว่าเครื่องเล่นได้เสียไปแล้ว วันแปลกประหลาดของ Yumiko ยังไม่จบลงแค่นั้น เธอตัดสินใจออกจากบ้านเข้าโรงหนังหลังจากที่ไม่ได้ไปมากว่า 20 ปี ที่นั่นเอง เธอได้เจอกับเด็กหนุ่มนักศึกษาเอกภาพยนตร์ชื่อ Kai ด้วยเคมีอะไรบางอย่าง เด็กหนุ่มชวน Yumiko ให้ทำหนังของตัวเอง สิ่งที่ทำคือ ตัดสินใจเรียนเอกภาพยนตร์ที่เดียวกับเขา เพื่อเข้าใจอะไรบางอย่างในชีวิตที่กำลังหลงทางอยู่ .. แล้วฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ก็ไม่เหมือนเดิมอีกเลย Umi ga Hashiru End Roll คือมังงะของอาจารย์ John Tarachine ที่ได้อันดับ 1 ที่ผู้หญิงอ่านมากที่สุด จากการจัดอันดับของหนังสือไกด์บุ๊ค Kono Manga ga Sugoi! จากปี 2022 ในปีเดียวกันมีมังงะตัวเต็งจากฝั่งผู้ชายอย่าง Look Back
หลังจากที่มอบเวลาพักผ่อนให้กับซีรีส์ Stranger Things จนหมดสิ้น ก็ต้องมาสะดุดกับการแนะนำภาพยนตร์เรื่องใหม่ของ Netflix ที่ชื่อว่า “Icantation มนตรา” ซึ่งถูกสร้างมาเป็นแนวสยองขวัญสั่นประสาท แถมยังเป็นหนังสัญชาติไต้หวันซะอีก ถือเป็นอะไรที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะโดยส่วนตัวแล้วไม่ค่อยได้มีโอกาสเสพภาพยนตร์จากดินแดนชานมไข่มุกซักเท่าไหร่ งานนี้จึงไม่รอช้าตัดสินใจกดดูทันทีโดยไม่ต้องคิดอะไรมาก “Icantation มนตรา” จริง ๆ แล้วถูกฉายในโรงภาพยนตร์ไต้หวันไปแล้วเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งสามารถทำรายได้แบบถล่มทลาย กลายเป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้กับ Kevin Ko ผู้กำกับที่รับหน้าที่เขียนบทและอีกหลายตำแหน่งควบคู่กันไป สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นจะถูกนำเรื่องโดย “หลี่รู่หนาน” คุณแม่ที่มีภารกิจปกป้องลูกสาวและต้องเผชิญกับอาถรรพ์คำสาปต่าง ๆ ที่คอยหลอกหลอนไม่ให้ได้พักได้ผ่อนกันเลยทีเดียว โดยภาพยนตร์ถูกถ่ายทำในแนว Found Footage (ตัวเดินเรื่องถือกล้องเอง) เพื่อเพิ่มความสมจริงให้กับผู้ชมได้เข้าถึงอารมณ์ความสยองขวัญมากยิ่งขึ้น ฉากต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นยอมรับว่าสร้างความรู้สึกหลอนได้พอสมควร โดยเฉพาะบรรยากาศ, โลเคชั่นในการถ่ายทำ และการสร้างตัวละครที่ดูมีความลึกลับน่าสะพรึงกลัวในสไตล์แบบเรื่องร่างทรง รวมไปถึงการใส่ซีนชวนแหวะชวนขนลุก และซีนโหดโหมดบรูทัล ก็ทำออกมาได้ดีทีเดียว อย่างไรก็ตามแก๊กต่าง ๆ หรือภาพรวมทุกอย่างไม่ได้มีความแปลกใหม่จากภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องอื่น ๆ แต่อย่างใด ที่รู้สึกแบบนั้นเพราะมุขที่ต้องการทำให้ตกใจมันก็ซ้ำจนเราชินชาไปซะแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้รู้สึกไม่อินขึ้นไปอีกก็คงจะเป็นในพาร์ตของเนื้อเรื่องที่ตัดไปตัดมาไม่มีความต่อเนื่องเท่าที่ควร อารมณ์เหมือนนั่งดู Reel ใน Facebook และอารมณ์ความซาบซึ้งของแม่และลูกที่ภาพยนตร์ต้องการสื่อก็ไม่สามารถทำให้เรารู้สึกถึงมันได้เช่นกัน