เวลาใช้งานคีย์บอร์ด ปัญหาที่เราพบเจอกันบ่อย คือ มันมีขนาดที่ใหญ่เกินไปจนขาดพื้นที่ในการวางเม้าส์ แถมคีย์บอร์ดบางยี่ห้อยังทำให้เราเกิดอาการปวดมือได้ง่ายอีกด้วย ตอนนี้มีสตาร์ทอัพที่พยายามแก้ไขปัญหาเหล่านี้ โดยการทำให้คีย์บอร์ดสามารถพกพาไดง่ายขึ้น และใช้งานได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น MoErgo สตาร์ทอัพในประเทศ New Zealand ได้พัฒนา Glove 80 ซึ่งเป็นคีย์บอร์ดแบบแยก (split keyboard) ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากถุงมือ โดยคีย์บอร์ดอันนี้มาในดีไซน์แบบเออร์โกโนมิคส์ (ergonomic) และเลย์เอาท์ (layout) ที่สอดคล้องกับรูปมือมนุษย์ ผู้พัฒนาเผยว่า พวกเขาใช้เวลาพัฒนาคีย์บอร์ดนี้มานานกว่า 6 ปี โดยมีการทำ comparative A/B testing มากกว่า 500 ครั้ง จน Glove 80 ออกมาเป็นคีย์บอร์ดที่มีปุ่มกดที่เหมาะสมกับปลายนิ้วมือของเรา มันมาพร้อมกับปุ่มกด 80 คีย์ (ข้างละ 40 คีย์) และมีรูปร่างเหมือนถุงมือ พร้อมด้วยที่พักฝ่ามือ และขาคียบอร์ดแบบปรับแต่งได้ เพื่อให้คีย์บอร์ดสามารถปรับแต่งได้ตามใจผู้ใช้งานมากที่สุด นอกจากนี้ ดีไซน์ของคีย์บอร์ดยังช่วยให้ ข้อมือ แขน และไหล่อยู่ในตำแหน่งที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด เวลาใช้งานจึงเกิดความเหนื่อยล้าน้อยลง
ยิ่งเทคโนโลยีพัฒนามากขึ้นเท่าไหร่ ความสะดวกสบายยิ่งมีมากขึ้น และตอนนี้ทาง LG ได้นำเสนอคอนเซ็ปท์อุปกรณ์ใหม่ที่ช่วยให้การรับชมภาพเคลื่อนไหวมีความบันเทิงเริงรมย์มากขึ้น LG DISPLAY เปิดตัว “Media Chair” คอนเซ็ปท์เก้าอี้อัจฉริยะที่ถูกออกแบบมาเพื่อการผ่อนคลายอย่างสมบูรณ์แบบ โดยเก้าอี้ตัวนี้จะมาในดีไซน์แบบครึ่งวงกลม (semi-circular) และประกอบไปด้วย หน้าจอ OLED ขนาด 55 นิ้วที่มีรัศมีความโค้งแบบ 1,500 R และภายในเทคโนโลยี Cinematic Sound ที่พัฒนาโดยบริษัทเอง ซึ่งทำให้หน้าจอสามารถสั่นไหวและส่งเสียงได้ โดยไม่ต้องมีลำโพงตัวนอกมาเสริม นอกจากนี้ หน้าจอของเก้าอี้ยังมาพร้อมกับ ฟังก์ชันจุดหมุน (pivot function) ที่สามารถเปิดใช้งานได้ผ่านปุ่มที่อยู่บริเวณที่พักแขนด้านขวา ซึ่งมีหน้าที่ในการหมุนหน้าจอทั้งในมุมแนวตั้งและแนวนอน ทำให้ผู้ใช้งานสามารถปรับมุมมองหน้าจอให้เหมาะกับสิ่งที่เราต้องการจะชมได้ นอกจากนีัตัวหน้าจอยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี self-emitting pixels จำนวนหลายล้าน และ backlight แยกที่ทำงานร่วมกันและทำให้เกิดภาพที่มีคุณภาพสูง ทาง LG จะจัดแสดงเทคโนโลยีนี้ในงาน CES 2022 ที่จัดขึ้นในเดือนมกราคมนี้ ที่เมืองลาสเวกัส รวมกับอุปกรณ์อื่น เช่น Virtual Ride สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ CES
เมื่อโลกเริ่มเจริญก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ ก็พัฒนาไปตามระดับความชาญฉลาดของมนุษย์ แม้ในอดีตใครหลายคนจะคิดว่าเทคโนโลยีเป็นเรื่องไกลตัว และคงไม่จำเป็นต้องเรียนรู้หรือปรับตัวให้ตามเท่าทัน แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจุบัน ‘เทคโนโลยี’ ที่นำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์มาพัฒนาต่อยอด เริ่มแทรกตัวเข้ามาในชีวิตประจำวันของเรา และการใช้งานเทคโนโลยีก็กลายเป็นอีกกิจวัตรของผู้ชายหลายคนไปเสียแล้ว นั่นแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีไม่เคยเป็นเรื่องไกลตัว แถมเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกับชีวิตเราจนไม่อาจเลี่ยงได้ วันนี้ UNLOCKMEN เลยอยากนำไฮไลต์ของงานเทคโนโลยีระดับโลกอย่าง ‘CES 2020’ มาฝากหนุ่ม ๆ ทุกคน งาน CES (Consumer Electronics Show) หรือ CES 2020 เป็นงานจัดแสดงนิทรรศการผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีและอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก ที่เพิ่งจัดไปเมื่อวันที่ 7-10 มกราคม 2020 ณ เมืองเนวาดาของรัฐลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งปีนี้นับเป็นปีที่ 53 ตั้งแต่จัดงาน CES ครั้งแรกเมื่อปี 1957 ในงาน CES 2020 มีบริษัทชั้นนำระดับโลกกว่า 4,500 บริษัท นำเทรนด์เทคโนโลยีและนวัตกรรมล้ำสมัยที่พวกเขาพัฒนามาจัดแสดงให้ปรากฏต่อทุกสายตาของคนทั่วโลก เพื่อบอกถึงทิศทางของเทคโนโลยีที่กำลังจะเปลี่ยนโลกและเปลี่ยนอนาคตของคุณให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป Samsung Ballie หุ่นยนต์ผู้ช่วยสุดเจ๋งในบ้าน
แม้ในหนึ่งวันเราจะใช้เวลาอยู่ที่ทำงานมากกว่าที่ห้อง แต่เชื่อว่าเมื่อกลับห้องไปหนุ่ม ๆ ส่วนใหญ่คงทิ้งตัวนอนแหมะอยู่บนเตียงและแทบไม่อยากก้าวขาออกนอกเขตฟูกเลยแม้แต่น้อย ก็ทำไงได้ล่ะ เตียงมันทั้งนุ่ม สบาย และกว้างขวางมากเสียจนมีพื้นที่ให้เราเกลือกกลิ้งเรือนร่างกำยำ พลิกไปพลิกมา และเปลี่ยนแปลงอิริยาบถได้แทบทุกท่าตามใจนึก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม ‘เตียง’ ถึงตอบโจทย์ผู้ชายเราตั้งแต่กิจกรรมทางเพศไปจนถึงกิจกรรมยามว่าง ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าและพัฒนาอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยก็ยิ่งช่วยยกระดับและรังสรรค์นวัตกรรมเตียงให้มีอะไรมากกว่าแค่เป็นพื้นที่นอนเพื่อฆ่าเวลาแก้เบื่อ Fabio Vinella ดีไซเนอร์หนุ่มร่วมมือกับทีมสถาปนิกชาวอิตาลีออกแบบเตียง HIBED ของแบรนด์ Hi-Interiors ซึ่งเป็นเตียงที่มีแอปพลิเคชันเป็นของตัวเอง ผนวกเฟอร์นิเจอร์ในบ้านและอุปกรณ์อัจฉริยะเข้ากับชีวิตประจำวันของผู้ชายเรา ตัวโครงสร้างเตียงใช้โครงเหล็กพร้อมพื้นผิวไม้ให้ความรู้สึกอบอุ่น ดีไซน์เตียงคล้าย ๆ กระโจมแต่ปราศจากผ้าม่านบดบัง ส่วนบริเวณปลายเท้าติดตั้งหน้าจอโพรเจกเตอร์ 4K และลำโพงขนาด 70 นิ้วที่พับเก็บได้แบบไม่เกะกะ นอกจากอรรถรสที่ได้รับชมภาพยนตร์และซีรีส์เรื่องโปรด เตียง HIBED ยังมีความสามารถในการวิเคราะห์และติดตามรูปแบบการนอนหลับ เพื่อให้หนุ่ม ๆ มีตารางการนอนที่เหมาะสม ซึ่งพวกคุณสามารถตรวจสอบคะแนนการนอนได้ทุกเช้าที่ตื่น เตียงมีระบบ Biometric Parameters ที่พร้อมรายงานคุณภาพอากาศและตรวจวัดอุณหภูมิภายในห้องนอน ทั้งยังวิเคราะห์ระดับเสียงรบกวนหรือแม้แต่น้ำหนักตัวของผู้ใช้ได้อีกด้วย บริเวณหัวเตียงและฐานเตียงสอดแทรกชุดไฟ built-in เพื่อสร้างแสงสว่างในยามค่ำคืนและเอื้อประโยชน์ต่อหนุ่มหนอนหนังสือให้ท่องโลกตัวอักษรได้อย่างสะดวกสบาย เพิ่มระบบการเตือนอัจฉริยะที่จะคอยแจ้งข่าวสารและสภาพอากาศประจำวันให้กับผู้ใช้ เรียกได้ว่าเป็นเตียงนอนที่ครบครัน ทันสมัย และมีฟังก์ชันเจ๋ง ๆ เหมาะกับผู้ชายยุคใหม่อย่างเราเป็นที่สุด ‘HIBED’ ถือเป็นตัวการันตีว่าอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอันน่าทึ่ง ในรอบหลายศตวรรษของประวัติศาสตร์โดยได้แรงหนุนจากเทคโนโลยีการเชื่อมต่อและนวัตกรรมล้ำสมัยที่ช่วยให้ชีวิตของผู้ชายเราสะดวกสบายขึ้นกว่าเดิม
ทุกวันนี้เรื่องการเขียนด้วยปากกาดินสอ ถ้าไม่นับการเซ็นบัตรเครดิตก็แทบไม่ค่อยได้ใช้งานกันเท่าไหร่ เนื่องจากนวัตกรรมส่วนใหญ่มันอำนวยความสะดวกให้เราเหลือเกิน ทั้งการเขียนผ่านเสียง หรือการขยับนิ้วพิมพ์แล้วมีโปรแกรมช่วยสะกดเดาข้อความให้ก่อนที่เราจะพิมพ์เสร็จ ประกอบกับการรณรงค์ paperless เพื่อช่วยเรื่องภาวะโลกร้อนด้วย สิ่งเหล่านี้จึงเป็นเหตุผลให้นักวิทยาศาสตร์ชาวจีนอยากเข้ามาพัฒนานวัตกรรมกระดาษมหัศจรรย์ขึ้น ล่าสุดวารสาร ACS Applied Materials and Interfaces ได้ตีพิมพ์เรื่องนวัตกรรมกระดาษมหัศจรรย์ รีเฟรชตัวเองให้เขียนได้ไม่หยุดและไม่ต้องขยำลงถัง โดยเป็นผลงานการวิจัยของทีมนักวิจัยชาวจีน นำโดย Luzhuo Chen หนึ่งในผู้นำทีมวิจัยจาก Fujian Normal University ใช้หลักการที่เราคล้ายกับหมึกลบได้ โดยเอาเรื่องอุณหภูมิมาเป็นกุญแจสำคัญในการประดิษฐ์ ด้วยการนำกระดาษธรรมดามาเคลือบด้านหนึ่งด้วยสาร thermochromic (สารที่เปลี่ยนสีเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยน) ย้อมสีน้ำเงิน นำมาเคลือบกระดาษด้านหนึ่ง และเคลือบผิวด้านอื่น ๆ ด้วยผงหมึกสีดำจากเทคนิค Photothermal ที่ใช้วิธีซับแสงเป็นพลังงานความร้อน หลักการใช้งานจะเป็นการใช้กระดาษใบนี้ร่วมกับ heat-emitting pen (ปากกาความร้อนหรือปากกาแสง) จากนั้นเมื่อหมึกได้รับความร้อนจะเปลี่ยนสีบริเวณที่ถูกย้อมให้สว่างขึ้น เผยให้เห็นผิวกระดาษสีขาวด้านล่าง ซึ่งในอนาคตมันจะสามารถใช้งานได้กับเครื่องปรินต์แสง ทำให้เราประหยัดหมึกไปในคราวเดียว ทีเด็ดที่มันทำได้เหนือกว่านวัตกรรมในอดีตก็อยู่ที่การจัดการให้อยู่ได้นานและจำนวนครั้งที่ใช้งานได้ซึ่งพอเห็นแล้วออฟฟิศเราก็อยากอุดหนุนเหมือนกัน เพราะนักวิจัยเขาประดิษฐ์ให้มันสามารถเก็บไว้ระยะเวลานานสุด ๆ โดยกว่าข้อความหรือภาพจะลบเลือนกลับไปเป็นสีฟ้าทั้งแผ่นจะต้องเจอกับอุณหภูมิที่เย็นถึง 14 องศาฟาเรนไฮน์ หรือ 10 องศาเซลเซียส ซึ่งแน่นอนว่าเราเก็บไว้ในออฟฟิศได้สบาย ๆ
“THE FIRST STEP IS THE HARDEST.” ก้าวแรกยากที่สุด ยังเป็นประโยคที่ใช้ได้จริงกับคนที่อยู่ในทุกวงการเพราะไม่ว่าพวกเราจะแตกต่างกันแค่ไหน สุดท้ายเราทุกคนต้องเผชิญหน้ากับสิ่งเดียวกันคือการตัดสินใจเพื่อ “เลือก” ที่จะ “ทำ” หรือ “ไม่ทำ” อะไรบางอย่างเสมอ เช่นเดียวกับการตัดสินใจสร้างธุรกิจเป็นของตัวเองซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนฝันไว้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะไปถึงเพราะต้องผ่านขั้นตอนยุ่งยากมากมายโดยเฉพาะเรื่องการเงิน ครั้งนี้ UNLOCKMEN ขอชวนทุกท่านมาร่วมพูดคุยกับกลุ่มคนที่มีส่วนสำคัญต่อการทำธุรกิจของเราทุกคนอย่างธนาคาร ที่ล่าสุดสามารถคว้าความสำเร็จระดับโลกในวงการธนาคารมาครองจากการสร้างสรรค์ “Start Biz” นวัตกรรมแอปพลิเคชันชวนทึ่ง! ล้างระบบการทำธุรกรรมจากปึกเอกสารมาใช้ลายเซ็นแค่ลายเซ็นเดียวลงบน iPad (อย่าเซ็นเยอะ กลัวนิ้วล็อก) ความยิ่งใหญ่ครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ แต่เกิดจากความกล้า บ้าพลัง ใส่ใจลูกค้า และกัดไม่ปล่อยของทีมงาน ซึ่งก่อตัวขึ้นจากแนวคิดที่เราทุกคนต้องหลงรัก นี่คือโฉมหน้าของเสาหลักทีมผู้สร้างนวัตกรรมใหม่ทางการเงินครั้งแรกในระดับโลกที่เรามีโอกาสร่วมพูดคุยด้วยทั้ง 5 คน ทีมที่รวมตัวกันจากต่างฝ่ายเพื่อร่วมงานด้วยคอนเซปต์ Agile และสร้างความสำเร็จระดับโลกที่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้ในครั้งนี้จาก SCB 1. คุณอาทิตย์ ศรีอัมพร (ตี้) – Commercial Banking Solutions Team 2. คุณบุณณพัฒน์ แก้วสถิตย์ (จอม)
เวลา Scroll down อัปเดตชิ้นงานดีไซน์ทางอินเทอร์เน็ตไปเรื่อย ๆ UNLOCKMEN มักเจอนวัตกรรมใหม่มีประโยชน์ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์มันส์ ๆ เสมอ แต่กับเจ้าชิ้นนี้เราสะดุดตาก่อนไปอ่านหัวข้อว่ามันใช้ทำอะไรด้วยซ้ำ เพราะหน้าตาชวนเดจาวูของมันให้เราคิดถึงหนังญี่ปุ่นเลือดสาดชวนหนีตายอย่าง battle royal ที่ชวนเสียวรอบคอทุกที แต่เมื่อกดเข้าไปดัน contrast กับภาพติดตาเดิมแบบดำเป็นขาว เพราะไม่ได้เอาไว้ระเบิด ดันกลายเป็นของช่วยชีวิตสุดเท่หน้าตาเฉย ที่สำคัญยังมีความโปร่งใส่แล้วคอไม่ตัน แถมยังเคลมว่าเป็น WORLD’S TINIEST LIFE-JACKET หรือชูชีพมินิไซส์ที่พกไปที่ไหน ๆ ก็ได้ไม่ต้องรอสูบลมและยังมีความสุดยอดซ่อนอยู่อีกหลายชั้น Rainer Fakesch, T. Storti และ C. Rummel คือดีไซเนอร์ผู้ออกแบบ Ploota ให้แฮคไลฟ์สไตล์ผู้ชายที่ชอบเที่ยวทะเลจากคุณสมบัติน่าทึ่ง 4 สิ่ง ต่อไปนี้ มีระบบเซ็นเซอร์ฉลาด ตั้งเวลาหรือกดใช้งานเมื่อไรก็ได้ มันส์สะใจทุกกิจกรรม ใส่ไปว่ายน้ำ ดำดูปะการังก็ไม่ดีดขึ้นมาเองให้ลอยเท้งเต้ง 2. กู้ภัยด้วยไซส์พกพา เล็กกว่าชูชีพทั่วไป 50 เท่า 3. เบาไม่ถ่วงคอ เพราะหนักแค่เกือบ 3 ขีด (280