ผู้ชายอย่างเราต่างหลงใหลในความสนุกและบรรยากาศของเทศกาลดนตรีคุณภาพ และในปีที่ผ่านมาหากใครมีโอกาสเดินทางไปร่วมสนุกกับงาน JAM FEST ซึ่งจัดขึ้นโดยค่ายเพลง What The Duck และ Jameson คงจะรู้สึกได้ถึงความสนุกสนาน รวมถึงได้ซึมซับประสบการณ์ทางดนตรีอันยอดเยี่ยม จนต้องเฝ้ารองานครั้งต่อไปที่จะเกิดขึ้น มาในปีนี้เทศกาลดนตรีอย่าง JAM FEST กลับมาอีกครั้งแบบยิ่งใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม แต่ก่อนที่เราจะได้พบกับความสนุกของ JAM FEST 2019 เรามาอุ่นเครื่องด้วยการทำความรู้จัก ความเป็นมา รวมถึงสิ่งพิเศษที่เราจะได้พบกันในงานครั้งนี้ ผ่านบทสนทนากับสองหัวเรือใหญ่ผู้อยู่เบื้องหลังอย่าง พี่มอย-สามขวัญ ต้นสมพงษ์ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งค่ายเพลง What The Duck และคุณเควนติน จ็อบ Managing Director จาก Pernod Ricard Thailand เริ่มกันที่คุณเควนติน จ็อบ ปีนี้เป็นปีที่เท่าไหร่ของการทำงานในประเทศไทยแล้ว หลังจากเข้ามาทำงานในเมืองไทย มองเห็นทิศทางและความท้าทายอะไรในตลาดเครื่องดื่มของเมืองไทยบ้าง คุณเควนติน: ผมเริ่มต้นทำงานกับทาง Pernod Ricard Thailand มาประมาณ 20 ปี ส่วนในประเทศไทยปีนี้เข้าสู่ปีที่ 3 แต่ก่อนหน้านี้เคยมีโอกาสมาประเทศไทยเมื่อ
เตรียมตัวพบกับ JAM FEST มิวสิคเฟสติวัลที่รวมเอาดนตรี ศิลปะ อาหาร เครื่องดื่ม แจ่ม ๆ มารวมไว้ในงานเดียวเพราะภายในงานประกอบไปด้วยโซนคอนเสิร์ตที่จะทำให้ทุกคนได้สนุกกันอย่างเต็มที่กับเวที 3 สไลต์ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนที่มาร่วมงานสามารถเลือกฟังเพลงแจ่ม ๆ ที่ตัวเองชอบได้ตามต้องการ เริ่มจากเวทีไฮไลท์ของงานกับ Main Stage ที่ทำมาเพื่อเอาใจคอเพลงยุค 90’s โดยเฉพาะด้วยการรวบรวมเอาศิลปินรุ่นเก๋าที่ทุกคนต้องรู้จัก อาทิ Monotone / Noi Pru / 2 Days ago Kids / Flure / Scrubb พร้อมวงน้องใหม่มากฝีมือไม่ว่าจะเป็น Whal & Dolph / The TOYS ft. Twopee / Fucking Hero ต่อด้วย Dood Stage เวทีรองที่รวมเอาศิลปินหน้าใหม่มาสร้างพื้นที่สำหรับคนรักเสียงเพลงนอกกระแสรวมถึงเปิดโอกาสให้กับนักดนตรีเลือดใหม่ได้ออกมาแสดงฝีมือกันอย่างเต็มที่ โดยทุกขั้นตอนตั้งแต่การคัดเลือกวงดนตรี ออกแบบเวที และระบบแสง สี เสียง