ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในสังคมยุคปัจจุบัน โรคซึมเศร้าเป็นโรคที่ทำให้คนตายได้มากพอ ๆ กับโรคร้ายอย่างมะเร็ง และโรคซึมเศร้าก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดการฆ่าตัวตาย รวมถึงเรื่องของการใช้ยาเสพติด ไม่ว่าจะด้วยสภาพทางเศรษฐกิจ หรือปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ สิ่งเหล่านี้ล้วนมีส่วนให้เกิดความเครียดทั้งนั้น ด้วยจำนวนผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากวันนึงคนรอบข้างเป็นโรคซึมเศร้าถึงขั้นคิดว่าตายไปน่าจะดีกว่า เราควรจะรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร ? เข้าใจว่าความรู้สึกอยากตายเกิดจากอะไร? บางคนเกิดมาจนถึงตอนนี้อาจไม่เคยเกิดความรู้สึกว่าอยากตายเลยสักครั้ง แต่สำหรับคนที่มีอาการซึมเศร้า เมื่อเจอปัญหาหนักเกินรับไหวก็จะเริ่มเกิดความคิดแบบนี้ขึ้นมา และจะถูกสะกิดให้คิดถึงมันได้แม้จะไม่มีปัจจัยอะไรมากระตุ้นก็ตาม เพราะความรู้สึกเป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้ และเปลี่ยนแปลงง่ายไม่ว่าจะด้วยเหตุผลทางสภาพแวดล้อม คนรอบข้าง หรือตัวเองก็ตาม ทุกอย่างล้วนสร้างความคิดที่วนเวียน จมอยู่ในช่วงเวลาแย่ ๆ ในหัวจนรู้สึกโดดเดี่ยวออกมาจากสังคม หากครั้งหนึ่งใครเคยได้ยินชื่อของ JD Schramm ที่ปรึกษาด้านธุรกิจการสื่อสารของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ก็คงจะนึกออกว่าเขาคือชายผู้ที่พยายามฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดสะพานแมนแฮตตัน เขาเลือกการตายเพื่อจบความเจ็บปวดจากโรคซึมเศร้า และสุดท้ายเขาก็ถูกช่วยชีวิตไว้ได้ทัน จึงได้เอาประสบการณ์เกือบตายในครั้งนี้มาเล่าใน Ted Talk JD บอกว่าเขาเข้าใจความคิดของคนที่ต้องการฆ่าตัวตายเป็นอย่างมาก เพราะความคิดแบบนี้ก็เคยเกิดขึ้นกับเขามาก่อนเหมือนกัน เขารู้ซึ้งถึงพลังของความเงียบเหงา และความหดหู่นั้นน่ากลัวกว่าที่คิด เพราะมันจะเปลี่ยนสิ่งรอบตัวเราให้กลายเป็นความทุกข์อันมืดดำ จนรู้ตัวอีกทีไม่ว่าอะไรก็ไม่สามารถทำให้มีความสุขได้อีกแล้ว และทางออกเดียวที่คิดว่าจะช่วยทำให้ความทุกข์หายไปก็คือการฆ่าตัวตาย JD สรุปว่าจิตใจเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ยาก และถ้าหากเริ่มมีความเครียดนึกถึงแต่เรื่องแย่ ๆ ก็ต้องหาวิธีรับมืออย่างทันท่วงทีก่อนที่มันจะบานปลายจนถึงขั้นเกิดความคิดที่จะจบชีวิตตัวเอง ทางด้านองค์กรต่างๆ ก็พยายามค้นหาคำตอบว่าสาเหตุที่ทำให้ผู้คนคิดฆ่าตัวตายเกิดจากอะไร ซึ่งศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ ฯ หรือ