ในยุคที่งานไม่ได้หาง่าย ๆ แถมหลายองค์กรยังปลดคนออกเพื่อความคล่องตัว การสมัครงานแล้วโดนปฏิเสธจึงอาจเกิดขึ้นได้กับใครหลาย ๆ คน บางคนโดนปฏิเสธเพราะคุณสมบัติไม่ถึง เพราะตำแหน่งในองค์กรไม่ว่าง หรือเพราะความต้องการไม่ตรงกัน สิ่งเหล่านี้ถือเป็นการปฏิเสธที่ผู้ชายอย่างเราเข้าใจได้ แต่เมื่อโดนปฏิเสธไม่รับเข้าทำงานด้วยเหตุผล “คุณดีเกินไป” หรือ OVERQUALIFIED เรามักจะงงเป็นไก่ตาแตก คิดว่าจะมีแค่คนรักเท่านั้นที่บอกปฏิเสธเราด้วยเหตุผลนี้ อ้าว แต่ที่ทำงานไม่ต้องการคนดี ๆ หรอกเหรอ? ดีเกินไปมันเกินไปอย่างไร? ความหมายที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่ใต้คำว่า OVERQUALIFIED คืออะไรกันแน่ UNLOCKMEN พาสำรวจความหมายที่ซ่อนอยู่ใต้คำว่า “ดีเกินไป” ที่องค์กรใช้ปฏิเสธไม่รับเราเข้าทำงาน ไม่ได้ดีเกินไป แต่เราจ่ายคุณไม่ไหว บางทีคำว่าดีเกินไป หรือ OVERQUALIFIED นั้นไม่ได้หมายความว่าเรามีคุณสมบัติที่สมบูรณ์แบบเกินที่เขาต้องการแต่อย่างใด แต่อาจหมายความว่าคุณสมบัติเรานั้นก็ตรงกับประกาศรับสมัครของตำแหน่งนั้นทุกประการ แต่เขาไม่สามารถจ่ายค่าคุณสมบัติที่เราเรียกไปได้ไหว แล้วจริง ๆ เขาต้องการอะไร? เขาต้องการคนที่คุณสมบัติเท่านี้แต่เรียกค่าตอบแทนต่ำกว่าเรา รวมถึงยินดีรับคนที่คุณสมบัติไม่ถึง (แต่บอกว่าจะทำตามคุณสมบัตินั้นให้ถึง) และเรียกค่าตอบแทนต่ำกว่า ดังนั้นไม่ต้องมัวกังวลว่าเราดีเกินไป หรือสิ่งที่เรามีมันแย่ แต่แค่ความต้องการเขากับเราเรื่องค่าตอบแทนต่อคุณสมบัติที่เหมาะสมนั้นไม่ตรงกัน แม้ประสบการณ์และการเรียนรู้จะสำคัญกว่าค่าตอบแทน แต่การทำงานในองค์กรที่ไม่เห็นคุณค่าของความสามารถเรา ก็เป็นสิ่งที่ไม่คุ้มเสี่ยง เพราะหมายความว่าทัศนคติขององค์กรอาจไม่ได้ให้ความสำคัญกับความสามารถคนทำงานมากพอ และนั่นอาจทำให้คุณทุกข์ทรมานมากกว่ามีความสุข คุณดีพอนะ แต่เรากลัวว่าคุณจะจากเราไปไว คำว่าดีเกินไปจากบางองค์กร คือการบอกว่าเรานี่แหละดีมาก เหมาะสมที่สุด