โลกของธุรกิจมีมากกว่าตัวเงิน สำหรับคนที่ไม่ชอบเรื่องตัวเลขหรือต้นทุนเลยอาจจะมองว่าน่าปวดหัว แต่ความจริงมันยังมีหลายมิติที่น่าสนใจ โดยเฉพาะแง่ของการตลาดและการโฆษณา เพราะมันคือแหล่งรวมความคิดสร้างสรรค์ล้วน ๆ ซึ่งถ้าเรารู้ทันและเข้าใจมัน เราก็จะไม่ตกเป็นเหยื่อและนำความคิดสร้างสรรค์เหล่านั้นไปต่อยอดได้ ช่วงนี้ไม่ว่าจะแบรนด์ไหนก็เริ่มบุกตลาด AI และ AR กันเป็นแถบ อย่างล่าสุดที่เราเพิ่งนำเสนอกันไปก็เป็น Application วัดขนาดเท้าของ Nike อย่าง “Nike Fit” เพื่อแก้ปัญหาเรื่องการซื้อรองเท้าแต่ขนาดไม่ตรงกับความจริง แต่ล่าสุดเราเพิ่งไปพบรูปแบบการตลาดของ AI ที่น่าสนใจ เรียกได้ว่าน่าจะเป็นปรากฏการณ์ใหม่เขย่าวงการด้วยการใช้ AI กับ “สุนัข” เพื่อเพิ่มยอดขายอย่างจริงจัง ร้านขายสัตว์เลี้ยงประเทศบราซิลในเครือ Petz แหวกแนวเปิดชอปปิงออนไลน์สำหรับสุนัขอย่างแท้จริง โดยเรียกมันว่า Pet-Commerce หรือการซื้อของออนไลน์ที่เลือกจากความต้องการของสัตว์เลี้ยงเอง โดยใช้ AI ดักจับความสนใจของสุนัขผ่านกล้องของอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟน แท็ปเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ การเลือกซื้อของระหว่างสุนัขกับระบบ AI จะใช้วิธีการ access เข้าเว็บไซต์ก่อนโดยให้สุนัขนั่งอยู่ที่หน้าตักเราหรือจุดไหนก็ได้ที่มองเห็นกล้องหน้า จากนั้นให้เราเลือก Pet Commerce หน้าจอจะแสดงคลิปสินค้าแบบแรนดอม ไม่ว่าจะเป็นกระดูก บอลยาง ฯลฯ ขั้นตอนนี้เอง
มนุษย์มีประวัติศาสตร์การใช้ชีวิตร่วมกับสัตว์เลี้ยงมาอย่างยาวนาน ซึ่งหลักฐานเก่าแก่ที่สุดของความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ และสัตว์เลี้ยง คือการขุดค้นพบซากโครงกระดูกของมนุษย์ ที่ถูกฝังร่วมกับโครงกระดูกของลูกสุนัขจิ้งจอกอายุกว่า 12,000 ปี ที่ประเทศอิสราเอล เป็นสิ่งยืนยันความผูกพันของมนุษย์ และสัตว์เลี้ยงที่มีอยู่อย่างยาวนานได้เป็นอย่างดี ในปัจจุบันสัตว์เลี้ยงยังคงอยู่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตมนุษย์ ด้วยเหตุผลดี ๆ มากมาย ในการที่จะเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงสักตัว ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงเอาไว้เฝ้าบ้าน, เป็นเพื่อนเล่นแก้เหงา, เลี้ยงสัตว์สวยงามเอาไว้นั่งดูเพื่อผ่อนคลาย และอื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วน นอกจากนี้ยังมีผลการวิจัยถึงประโยชน์ของการที่มนุษย์มีปฏิสัมพันธ์กับสัตว์เลี้ยง กับผลดีที่ตอบโจทย์คนเมือง ซึ่งต้องผจญกับวิถีชีวิตเร่งรีบ ความเครียด ความกดดันจากการทำงานตลอดทั้งวัน อ้างอิงจากผลการวิจัยของ NIH (National Institutes of Health) ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ได้ทำการศึกษาคู่สมรสจำนวน 240 คู่ พบว่าเมื่อเจอสถานการณ์กดดันที่ส่งผลต่อความเครียด คู่ที่มีสัตว์เลี้ยงจะมีความผ่อนคลาย มีอัตราการเต้นของหัวใจ และความดันเลือดต่ำกว่าคู่ที่ไม่ได้เลี้ยงสัตว์ นอกจากนี้ขณะที่ใช้ชีวิตอยู่กับสัตว์เลี้ยง มนุษย์ยังสามารถตอบสนองต่อความเครียดได้อย่างอ่อนโยน และสามารถดึงตัวเองออกจากความเครียดได้ดีกว่าการอยู่กับคนรัก หรืออยู่กับเพื่อนเสียด้วยซ้ำ จากผลวิจัยที่กล่าวมาคงเห็นได้ว่าการมีสัตว์เลี้ยง ดูจะเป็นทางออกที่ดีในการช่วยบำบัดความเครียดออกจากสมอง ซึ่งคงไม่ใช่ปัญหาอะไรสำหรับใครที่พักอาศัยในบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม ทาวน์เฮาส์ ซึ่งไม่มีกฎข้อห้ามในการเลี้ยงสัตว์ แต่สำหรับคนเมืองที่จำเป็นต้องเลือกอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมเพื่อความสะดวกในการเดินทางไปทำงาน นั้นแทบจะทำให้ความหวังในการเลี้ยงสัตว์ดูเหมือนเป็นเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบกัน ด้วยกฎระเบียบของคอนโดมิเนียมอาคารชุดส่วนใหญ่ที่มักจะไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ แต่ก็ใช่ว่าความหวังที่จะเลี้ยงสัตว์ของคนเมืองซึ่งจำเป็นต้องอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมจะหมดไป เพราะล่าสุดเราได้ไปเจอกับโครงการ