แม้ปีใหม่จะวนมาทุก ๆ 365 วัน แต่เมื่อวันที่ 1 มกราคมใกล้มาถึงทีไร ผู้ชายอย่างเราก็ยังตื้นเต้นและรอคอยสิ่งใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาทักทายอยู่เสมอ เพราะปีใหม่คล้ายเป็นหมุดหมายว่า “ได้เวลาเปลี่ยนแปลง” อีกครั้งหนึ่ง อะไรจะดีไปกว่าการได้ “ปลุกความคิด” ตัวเองให้ตื่น พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของโลกที่กำลังหมุนเร็วขึ้นทุกวัน และเพื่อเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รับมือทุกอุปสรรคได้แกร่งกว่าเดิม รวมถึงเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่มีความสุขกว่าเดิมด้วย Principles: Life and Work แม้แต่มหาเศรษฐีที่เก่งระดับโลกอย่าง Bill Gate ยังยกย่องว่าหนังสือเล่มนี้ “เปลี่ยนชีวิต” เขา เพราะ Principles: Life and Work ได้ให้คำแนะนำและแนวทางสุดล้ำค่าที่เขานำไปใช้ในชีวิตได้จริง Principles: Life and Work ว่าด้วยหลักคิดสุดแข็งแกร่งที่ผู้ชายทุกคนสามารถนำไปปรับใช้กับการทำงานและชีวิต โดยยอดขายจากผู้อ่านทั่วโลกก็การันตีได้เป็นอย่างดีว่าหนังสือเล่มนี้เปลี่ยนชีวิตผู้คนมาแล้วจำนวนมาก นอกจากนั้นผู้เขียน Ray Dalio ยังถูกขนานนามว่าเป็น Steve Jobs แห่งโลกการลงทุนอีกด้วย ใครที่รู้สึกว่าชีวิตตัวเองปีนี้ช่างยุ่งเหยิงจัดการไม่ได้ และอยากเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ในปีหน้าอย่างมีหลักให้ยึดและพิสูจน์แล้วว่าทำได้จริง Principles: Life and Work
แม้ใคร ๆ จะบอกว่าวิธีการฝึกภาษาอังกฤษที่ดีที่สุดคือการใช้งานให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฝึกฟังยังพอไหว ให้ฝึกพูดก็พอถูไถ แต่พอถึงการอ่านหนังสือภาษาอังกฤษทีไร หัวใจลูกผู้ชายมันท้ออย่างบอกไม่ถูก เพราะอ่านไม่เคยจบเล่ม อ่านไป งงไป อ่านไปเปิดพจนานุกรมไป เศร้านัก! วันนี้ UNLOCKMEN นำ 5 เคล็ดลับอ่านหนังสือภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น แม้คุณจะไม่ค่อยเก่งภาษาอังกฤษมาฝากกัน รับรองว่าจะอ่านจบเล่มได้ง่ายขึ้นแน่นอน อย่าเริ่มต้นที่เล่มหนา แม้การอ่านหนังสือภาษาอังกฤษเล่มบาง ๆ จะดูไม่เท่ ไม่คูลเท่าอ่านเล่มหนา ๆ แต่เคล็ดลับแรกคือการเลือกเล่มที่บาง ๆ เข้าไว้ เพราะการอ่านเล่มบาง ๆ ให้จบ ถือเป็นจุดเริ่มต้นและกำลังใจที่ดี ซึ่งมีผลอย่างมากในการฝึกอ่านเล่มต่อ ๆ ไป โดยเฉพาะเมื่อเรายังไม่คล่องกับภาษาอังกฤษมาก การเลือกเล่มบาง ๆ ยิ่งทำให้เราเปลี่ยนเรื่องที่สนใจได้เร็วกว่าการต้องจดจ่อกับเล่มหนา ๆ ที่จะทำให้เราเบื่อได้ง่าย ไม่ใช่แค่บาง แต่เราต้องรักหนังสือภาษาอังกฤษเล่มนั้นด้วย จริง ๆ การอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ ไม่ต่างจากการทำสิ่งอื่นในชีวิต เราต้องเลือกเล่มที่เราจะรู้สึกสนุกไปกับมัน เพราะต่อให้มีคนแนะนำเล่มที่ดีที่สุดในโลก เล่มที่เป็นเบสต์เซลเลอร์ ก็ไม่มีความหมายอะไรเลย ถ้าคุณไม่รู้สึกสนุกจนอยากเปิดอ่านหน้าต่อไปด้วยตัวคุณเอง เพราะต่อให้คุณยังอ่านไม่ได้รู้เรื่องทุกคำ แต่ถ้าเนื้อเรื่องในหนังสือภาษาอังกฤษเล่มนั้นทำปฏิกิริยากับคุณเป็นพิเศษ มันช่วยให้คุณอ่านจบเล่นได้ง่ายขึ้นเหมือนกัน