ตามพฤติกรรมปกติของคนเรา เมื่อหวาดกลัวสิ่งใดมักจะหนีจากมันไปให้ไกล ไม่เอาตัวเองไปยุ่งเกี่ยวกับมันอีก เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ที่สามารถเข้าใจได้โดยไม่ต้องมีหลักการอะไรมาอธิบาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเช่นนั้นเสมอไป เพราะบางสิ่งยิ่งน่ากลัวเรายิ่งชอบ บางคนหนักถึงขั้นเสพติด แต่ยิ่งเสพก็ยิ่งกลัว เป็นความย้อนแย้งอันน่าฉงน แน่นอนว่าเรากำลังพูดถึง ‘เรื่องลี้ลับ’ หรือ ‘เรื่องผี’ อยู่นั่นเอง คุณเชื่อเรื่องผีหรือเปล่า? คุณเคยเจอผีมั้ย? 2 คำถามยอดฮิตที่เชื่อว่าแทบทุกคนต้องเคยเจอ ซึ่งแน่นอนว่าคำตอบก็จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือกลุ่มที่เชื่อกับกลุ่มที่มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องไร้สาระ ผีจะมีจริงได้ยังไง แต่สิ่งที่แปลกสำหรับเรื่องนี้คือบรรดาสื่อให้ความบันเทิงไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ หรือแม้กระทั่งเรื่องเล่าทางวิทยุที่เกี่ยวกับสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติกลับเป็นคนกลุ่มแรกที่ชอบเสพมันมากกว่า ทั้ง ๆ ที่เสพไปก็กลัวไป ส่วนคนกลุ่มหลังมักจะมองว่าเป็นเรื่องน่าเบื่อหรือปาหี่แหกตาเสียมากกว่า ทำไมคนจึงชอบเรื่องผีกันนักนะ? ทั้ง ๆ ที่อาการใจเต้นรัว เลือดสูบฉีด หรือนอนไม่หลับหลังจากเสพเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่น่าอภิรมย์เท่าไร คำถามนี้อาจจะไม่มีคำตอบที่แน่นอน เนื่องจากความชอบของแต่ละคนเป็นเรื่องปัจเจก เราไม่สามารถนำปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งไปตัดสินรสนิยมความชอบของทุกคนบนโลกได้ อย่างไรก็ตามก็มีหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่พอจะอธิบายเรื่องนี้ไว้อยู่บ้าง Astara March ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาได้เขียนบทความเกี่ยวกับความกลัวของมนุษย์ลงในวารสาร Inside Science โดยมีเนื้อหาใจความสำคัญดังนี้ เมื่อมนุษย์เผชิญหน้ากับสิ่งน่ากลัว สมองของเราจะหลั่งสารอะดรีนาลีนออกมา ซึ่งสารนี้จะส่งผลให้เรารู้สึกตื่นเต้น หัวใจเต้นเร็ว เลือดสูบฉีด เป็นการตอบสนองโดยอัตโนมัติของร่างกายไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอันตรายหรือไม่ เปรียบเทียบให้เห็นภาพง่าย ๆ ระหว่างงูและเรื่องผี ทั้ง 2 สิ่งสามารถทำให้สมองเราหลั่งอะดรีนาลีนได้ทั้งคู่
บางคนออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก บางคนควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนัก แต่ใครจะไปคิดว่าดูหนังก็ช่วยลดน้ำหนักได้! แต่ก็ใช่ว่าจะดูหนังอะไรก็ได้ เพราะงานวิจัยเขาชี้เฉพาะมาว่าต้องดูหนังสยองขวัญสั่นประสาทเท่านั้น University of Westminster ทำการทดลองโดยใช้กลุ่มตัวอย่าง 10 คน โดยให้ 10 คนนี้ดูหนังสยองขวัญ 10 เรื่องที่แตกต่างกันไป จากนั้นก็สังเกตอัตราการเต้นของหัวใจ การสูดเอาอ็อกซิเจนเข้าร่างกาย ผลปรากฏว่า The Shining ภาพยนตร์ปี 1980 นับเป็นภาพยนตร์สยองขวัญอันดับหนึ่ง (จาก 10 เรื่อง) ที่กลุ่มตัวอย่างดูแล้วสะดุ้งและกรีดร้องจนเผาผลาญแคลอรี่ไปได้ถึง 184 แคลอรี่ (ปกติคนเราเดิน 40 นาที จะเผาผลาญราว ๆ 140 แคลอรี่) ส่วนลำดับ 2 คือเรื่อง Jaws หนังฉลามกินคนสุดโหดที่เผาผลาญได้ 161 แคลอรี่ ในขณะที่เรื่อง The Exorcist ที่ไล่ผีกันจนเผาผลาญได้ 158 แคลอรี่ Richard Mackenzie ผู้ทำงานวิจัยนี้แก้ข้อสงสัยให้เราหายงงเป็นไก่ตาแตกว่าหนังสยองขวัญนั้นยิ่งเราดูแล้วรู้สึกเครียด กดดัน (ระยะเวลาสั้น