เมื่อพลาสติกเป็นวาระแห่งชาติและหลอดกลายเป็นอาวุธทิ่มแทงสัตว์ทะเลให้เจ็บปวด ร้านกาแฟขวัญใจคอคาเฟอีนเจ้าใหญ่อย่างสตาร์บัคส์เลยขอออกโรงรักษ์โลก เลิกผลิต เลิกใช้หลอดเขียวที่เป็นสี CI ให้เกลี้ยงภายใน พ.ศ. 2563 เพราะถ้าทำได้จริง ปริมาณหลอดจะหายจากระบบไปถึง 1,000 ล้านหลอดต่อปี แม้สำหรับเราก็แค่ไม่รับหลอด มันคงไม่ยากอะไร แต่สตาร์บัคส์ก็ยังอยากตอบโจทย์คนติดหลอดด้วยการดีไซน์ฝาแก้วพลาสติกให้พอดีกับรูปปากไว้แทนที่หลอด และเรียกเจ้าแก้วรูปแบบใหม่นี้ว่า “Sippy cup” ซึ่งแม้ฝาที่ทำออกมาเป็นพลาสติก แต่ก็ถือเป็นสัญญาณดี ๆ ที่องค์กรสิ่งแวดล้อมทั้งหลายเห็นด้วย เนื่องจากปกติฝาแก้วที่เราใช้ต้องเจาะด้านบนสำหรับใส่หลอดทำให้มีเศษแผ่นพลาสติกทิ้งอยู่แล้ว แถมใช้หลอดด้วยก็เท่ากับมีขยะเพิ่มสองเท่า การเปลี่ยนมาลดบางส่วนจึงถือว่าดีกว่าไม่ลดเลย ปัจจุบันสตาร์บัคส์เริ่มนโยบายนี้ไป 8,000 สาขาจาก 28,000 สาขาทั่วโลก หลอดสีเขียวที่เป็นสัญลักษณ์ของสตาร์บัคส์คงค่อย ๆ หายไป แล้วแทนที่ด้วยสิ่งนี้แทน ตามที่ประกาศไว้ ฝาแก้วรูปแบบใหม่ แม้ตอนนี้ยังไม่มีในเมืองไทยแต่พวกเราก็ไม่ต้องรอให้ถึงตอนนั้น หนุ่ม ๆ คนไหนที่กินสตาร์บัคส์บ่อย ๆ ลงทุนเปลี่ยนมาเป็นผู้นำซื้อแก้วแบบรีฟีลงดใช้ทั้งหลอดและแก้วพลาสติกไปเลยจะคูลกว่า SOURCE
ความซวยเวลามันพุ่งเข้ามาหา มันจะวิ่งเข้ามาแบบถี่ ๆ แต่สำหรับปีหมาปีนี้ ถือว่าเป็นปีมหาโหด “หมาดุไล่กัดนางเงือก” เพราะร้านเจ้าดังอย่างสตาร์บัคที่มีลูกค้าทั่วโลก เจอตบหน้าขวาซ้ายด้วยข่าวเสีย ๆ หาย ๆ ด้วยสารพัดเรื่องใหญ่หลายประเด็น จนต้องเร่งออกมาแก้ปัญหา เรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาชนิดมือเป็นระวิง และเพื่อให้การจิบกาแฟของหนุ่ม ๆ เข้มข้นขึ้นกว่าที่เคย เราขอ RECAP เรื่องชง ๆ ขม ๆ ที่สาวก Starbucks ต้องรู้กันดังต่อไปนี้ เดือน 3 เป็นมะเร็ง เดือน 4 เหยียดผิว เดือน 6 หุ้นดิ่ง MARCH : STARBUCK VS CANCER สตาร์บัคเริ่มต้นปีชงล็อตใหญ่ตั้งแต่มีนาคมที่ผ่านมา เพราะจู่ ๆ สภาศึกษาและวิจัยสารพิษ (CERT) ก็ลุกมาฟ้องศาลลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐฯ แจ้งข้อหาเรื่องการแปะฉลากเตือนโรคมะเร็ง ถ้าคิดไม่ออกให้คิดว่าเป็นแบบไหนให้คิดถึงซองบุหรี่ที่มีภาพชวนเศร้าทั้งหลาย แต่อันนี้พี่จะให้แปะไว้บนแก้วกาแฟที่ลูกค้ากิน ความกระอักกระอ่วนที่จะต้องบอกใครว่าตัวเองเป็นผู้ร้ายสร้างมะเร็งว่าหนักแล้ว แต่นั่นก็ยังไม่แย่เท่ากับค่าปรับมหาโหดที่โดนฟ้อง 2,500 ดอลลาร์