กลุ่มคาราวานขี่มอเตอร์ไซค์ไปตามที่ต่าง ๆ หรือนักดนตรีพังก์ที่ออกจากบ้านมาร้องเพลงในบาร์เล็ก ๆ ทุกคืนวันเสาร์ แก๊งยากูซ่าผู้ถูกเกลียดชัง ทั้งหมดคือกลุ่ม Subcultute หรือวัฒนธรรมย่อยที่ซ่อนตัวอยู่ในสังคม เกิดขึ้นจากการรวมกลุ่มผู้คนความชอบเดียวกัน แถมการรวมกลุ่มพวกเขามักโดดเด่นและมีเอกลักษณ์จนคนจำได้ เหตุผลที่ UNLOCKMEN พูดถึงชาวพังก์ แก๊งบิ๊กไบค์ และกลุ่มแยงกี้กับยากูซ่า ที่ดูแล้วไม่น่าจะมีความเกี่ยวข้องใด ๆ กันมากนักเป็นเพราะพวกเราได้เจอกับแบรนด์เครื่องหนังสัญชาติญี่ปุ่นชื่อว่า “Blackmeans” ที่ร่วมสืบทอดวัฒนธรรมย่อยเหล่านี้ให้ได้ไปต่อในกระแสสังคม ผ่านการออกแบบเครื่องหนังที่ถือเป็นไอเทมยอดฮิตสำหรับชาวแก๊งทั้งสาม แจ็กเกตหนังคือไอเทมประจำตัวของหนุ่ม ๆ ผู้ชื่นชอบการขี่มอเตอร์ไซค์ระยะไกล อาจเป็นเพราะแจ็กเกตหนังแขนยาวสามารถกันแดด ป้องกันผิวหนังเวลาเกิดอุบัติเหตุได้มากกว่าผ้าชนิดอื่น ๆ แถมยังสามารถสลักรูปประจำกลุ่มไว้กลางหลังได้เหมือนอย่างแก๊ง Hell Angels อันโด่งดัง ส่วนชาวพังก์ก็มักสวมเสื้อกั๊กหนัง ปลอกคอหนัง และกำไลข้อมือหนังออกไปพบปะกับคนคอเดียวกันในบาร์เหล้า ส่วนยากูซ่ากับแก๊งแยงกี้ก็มักมีเสื้อหนังประจำกลุ่มแบบเดียวกับกลุ่มบิ๊กไบค์ เครื่องแต่งกายคือสิ่งเติมเต็มความพึงพอใจทำให้ผู้คนจดจำพวกเขาได้ การให้ความสำคัญกับแฟชั่นจึงเป็นเรื่องสำคัญทำให้คนทั่วไปเข้าใจสิ่งที่พวกเขาพยายามจะสื่อ Yujiro Komatsu (ยูจิโร่ โคมัตสึ) เป็นชายที่ชื่นชอบเครื่องหนังมาก เขาไม่ได้บอกว่าตัวเองเป็นชาวพังก์ เป็นสมาชิกแก๊งยากูซ่า หรือว่าขี่บิ๊กไบค์แต่เขาเป็นแค่คนหลงรักเครื่องหนังและเห็นชาวพังก์มาตั้งแต่ 10 ขวบ แถมยังรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรให้ความชอบของตัวเองตอบโจทย์ของคนหลายกลุ่มได้ในเวลาเดียวกัน นอกจากความชอบส่วนตัวยูจิโร่ยังได้แรงบันดาลใจที่ทำให้ก้าวสู่โลกแฟชั่นจากการเห็น John Lennon สวมเสื้อ “Sukajan” ในปี
คุณยังจดจำการ์ตูนเรื่องโปรดได้ไหม? ยังจำรถยนต์ในฝันเมื่อตอนเป็นเด็กได้หรือเปล่า? TOFUYA Studio เกิดขึ้นจากการรวมตัวของ คุณบุ๊ง ศิวกร Owner: Garage Cube/คาเฟ่ตึกแถว/นักจัดหานักแสดงสายงานโฆษณา, คุณกี้และคุณบอย Owner: Inner Car Dress Up, คุณวิท, คุณนัท ช่างภาพ และสมาชิกอีกหลายคนที่หลงใหลในสิ่งเดียวกันคือวัฒนธรรมญี่ปุ่น ไม่ว่าจะการ์ตูน ภาพยนตร์ สถานที่สักแห่งในความทรงจำ รวมไปถึงรถซิ่งยุค 90 หากเราไม่บอกคุณว่าที่นี่คือ ประเทศไทย คุณคงคิดว่าภาพที่เห็นอยู่นี้คือ ประเทศญี่ปุ่น จากพื้นที่ที่เคยเป็นปั๊มน้ำมันร้าง ถูกเนรมิตให้กลายเป็นปั๊มน้ำมันสุดวินเทจที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของญี่ปุ่น คุณบุ๊ง: เราโตมากับการ์ตูน หนังที่เราดู อาหารการกิน การไปเที่ยว แล้วเราเก็บบรรยากาศแบบนี้ไว้ เราชอบสะสมของ มันก็เลยถูกซึมซับและหล่อหลอมมาในสิ่งที่เราชอบ ตอนเด็ก ๆ เราไม่ได้เป็นครอบครัวที่มีเงินเยอะเป็นชีวิตปกตินั่นแหละ มันเหมือนฝังใจ พอเราทำงานหาเงินเองได้เราก็จะตอบสนองตัวเองในสิ่งที่เราต้องการ มีโอกาสได้ไปญี่ปุ่น มีโอกาสได้ซื้อของเล่น มีโอกาสได้ซื้อของสะสม เริ่มเล่นคนเดียว แต่งโรงรถคนเดียว จากการเริ่มต้นสะสมของ เริ่มแต่งโรงรถที่บ้านตัวเอง โรงรถของบ้านเพื่อน การเปิดคาเฟ่แห่งแรก คุณบุ๊ง: พอทำให้เพื่อนหลาย
สิ่งที่เหมือนกันมากคือเราต่างมีความชอบเป็นของตัวเอง สิ่งที่ต่างกันมากคือไม้บรรทัดที่บางคนโยนใส่แล้วบอกว่าเรื่องที่เรากำลังทำ “ไร้สาระ” แต่ความซื่อสัตย์ของคนคอเดียวกันที่ลุกมาสนใจอะไรร่วมกัน จะเปลี่ยนมันให้เป็น “วัฒนธรรมย่อย” ในที่สุด เราสวมยูนิฟอร์มเดิมออกจากบ้าน เพื่อมาทำสิ่งเดิม ๆ ที่เคยทำในเมื่อวาน และจะทำต่อไปในวันพรุ่งนี้ ไทม์ไลน์ชีวิตที่มีหมวกหลายใบให้ใส่ตั้งแต่ก้าวออกจากบ้านยันกลับมาอยู่บ้าน บางครั้งก็ทำให้เรารู้สึกไม่เป็นตัวเองทั้งที่ใช้ชีวิตของตัวเองอยู่ เราเป็นพี่ เป็นน้อง เป็นเพื่อน เป็นหัวหน้า เป็นลูกน้อง เป็นนักเรียน เป็นครู เป็นที่ปรึกษา และยังเป็นอะไรอีกหลายอย่างที่เป็นส่วนหนึ่งของการเป็นเรา แต่ก็ยังรู้สึกอึดอัด เหนื่อยล้าและไม่พอใจเสมอ ทำไมเราถึงอยากจะเป็นอะไรเพิ่มอีก อะไรที่ไม่ใช่ตัวเราอยู่ดี การสวมวิญญาณเป็นคนอื่นและทำท่าทางลอกเลียนแบบนั้นมันสนุกตรงไหน คนกลุ่มนี้มาทำอะไร? ทำไมต้องเสียเงินเสียทองมาลงทุนกับสิ่งที่แต่งไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงแล้วก็ต้องถอดออก กลุ่มคนที่เอาจริงเอาจังกับการเป็นคนอื่น เป็นตัวการ์ตูนที่ไม่มีชีวิต เป็นฮีโร่ในเกมของโลกเสมือน หรือพยายามใกล้ชิดวัฒนธรรมที่ไม่ใช่บ้านเกิดเมืองนอนและหลงใหลมันสุดหัวใจ กลุ่มที่เราเรียกสิ่งที่พวกเขาหลงใหลและลงมือทำว่า “คอสเพลย์” บรรยากาศร้อน ๆ ริมท่าน้ำนนท์พร้อมแสงแดดที่ไม่มีทีท่าว่าจะยอมถอยให้กับหุ่นรบจากเกมและหนังต่างสัญชาติแนวซูเปอร์ฮีโร่ เป็นภาพชวนทึ่งและแปลกตาสำหรับเรา 4 ฮีโร่ตรงหน้ามาจาก “ชมรมเชียร์ C4 Team” กลุ่มคอสเพลย์ชายชาวไทยที่เพิ่งไปคว้ารางวัลชนะเลิศจากประเทศเกาหลี จะเป็นอย่างไรถ้าฮีโร่ผู้เรียกรอยยิ้ม ถอดหน้ากากกลับมาเป็นตัวเอง จะเป็นอย่างไรถ้าเขาทบทวนเรื่องราวก่อนสวมชุดที่ตั้งใจทำขึ้นทั้งหมดนี้ แชร์ให้เราฟังกัน นับจากนี้ไปจนสิ้นสุดบทความ คุณจะไม่ได้เห็นใบหน้าของคนที่อยู่ภายใต้ชุดเหล่านี้ แต่เราถอดเรื่องเล่าและเรื่องราวทุกด้าน จากปากของคนที่ได้จับเข่าคุยด้านในไว้ครบถ้วน ชีวิตผู้ชายเริ่มต้นจากหุ่นยนต์สักตัว