การได้ซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดใครสักคนเป็นที่สุดแห่งความอบอุ่นอย่างหนึ่งที่มนุษย์จะได้รับจากใครสักคนได้ โดยเฉพาะในอ้อมกอดของใครสักคนที่ใส่ใจเรา ในอ้อมกอดนั้นเราจะรู้สึกสุขสงบอย่างประหลาด แต่ไม่ว่าจะโหยหามันสักแค่ไหน ผู้ชายอย่างเราก็เจออ้อมกอดสุดพิเศษที่ว่านั้นได้ไม่บ่อยนัก โชคยังดีที่บางทีการโอบกอดก็ไม่ได้มาจากผู้คน แต่มาจากบาร์แจ๊สบรรยากาศดี ๆ กับเครื่องดื่มจากความใส่ใจสักแก้ว และโชคเข้าข้างเราเข้าไปอีกที่เรามาเจอ The WoodShed บาร์แจ๊สที่รู้สึกอบอุ่นราวกับถูกโอบกอดแค่เพียงก้าวเท้าเข้ามาในร้าน ความอบอุ่นใน The WoodShed ไม่ได้มาจากความบังเอิญ แต่เกิดจากความใส่ใจรายละเอียดตั้งแต่การเลือกวัสดุ ไม้ทุกชิ้นที่ประกอบกันขึ้นเป็นผนังคือไม้เก่าที่ผ่านสายลม แสงแดด และกาลเวลาจึงมีลวดลายเฉพาะตัวที่ไม้ใหม่ให้ไม่ได้ ที่สำคัญไม้ทุกชิ้นผ่านการคัดเลือกมาอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ประกอบกันแล้วให้ความรู้สึกลงตัวตั้งแต่ก้าวเข้ามาในร้าน The WoodShed ตกแต่งด้วยสไตล์รัสติก (Rustic Style) ที่เผยความงามตามธรรมชาติของวัสดุที่ใช้ โดยหลายคนอาจรู้จักสไตล์นี้ในชื่อ Country Style เนื่องจากชาวบ้านในชนบทของอเมริกานิยมนำไม้ซุงท่อนใหญ่มาใช้สร้างบ้าน ผสมผสานกับรูปแบบของโรงนาและโรงเก็บไม้ จนออกมาเป็นรัสติกสไตล์ในที่สุด จึงไม่แปลกใจเลยที่เรารู้สึกถึงความเรียบง่ายของ The WoodShed ได้ตั้งแต่ก้าวแรก เพราะความเรียบง่ายสไตล์ชนบท แต่ทั้งหมดมาจากความพิถีพิถัน กลิ่นไม้ดิบที่ผ่านกาลเวลาจาง ๆ ในอากาศ รวมถึงหลอดไฟสีส้มนวลตาดวงเล็ก ๆ ที่ห้อยตัวลงมาจากเพดานให้ความรู้สึกราวกับดวงดาวระยับดวงน้อย ๆ ที่ส่องแสงอบอุ่นไม่กวนสายตาตลอดระยะเวลาที่เรานั่งดื่มอยู่ที่นี่ ในขณะที่แสงเทียนตลับวาววามก็ให้ความรู้สึกราวกับว่าเรากำลังล้อมวงดื่มกินในบ้านไม้ของเพื่อนในชนบทอันสงบเงียบสักแห่ง ไม่ใช่แค่เพียงบรรยากาศชวนให้ซุกตัวอยู่นานเท่านานเท่านั้น แต่เครื่องดื่มทุกชนิดใน The WoodShed มาในคอนเซ็ปต์ Craft