ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการดื่มของมึนเมาเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ขาดสติสัมปชัญญะ กามารมณ์พลุ่งพล่าน และฉุดความยับยั้งชั่งใจให้ดิ่งลงเหว จนผู้ชายหลายคนเผลอทำอะไรไปโดยไม่คิด ราวได้ปลดแอกตัวเองออกจากคุกที่เรียกว่ากฎและบรรทัดฐานทางสังคมที่เป็นกรอบ แต่ในบรรดานักดื่มหลากหลายระดับ มีผู้ชายไม่น้อยที่อุทานวลี “เมาแล้วเงี่ย…ว่ะ” จนชินปาก เผลอคิดว่าฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ไปกระตุกต่อมความใคร่อยากให้กำเริบ และปลุกเร้ามังกรน้อยใต้กางเกงให้พองตัวชูคอผงาดโด่ตามมา ในทางตรงกันข้ามหนุ่มบางคนกลับรู้สึกว่าการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปเป็นอุปสรรคต่อเซ็กซ์ของพวกเขา จากที่เจ้าโลกเคยเกรี้ยวกราดและสู้มือ กลายเป็นมังกรน้อยผู้หลับใหลที่ไม่มีวี่แววจะตื่น ร้ายกว่านั้นคือเบียร์ เหล้า ไวน์ และของมึนเมาอีกหลายขนาน ทำให้ผู้ชายไปไม่ถึงจุดสุดยอดและไม่ได้สำเร็จความใคร่ตามที่พวกเขาต้องการ คงไม่มีคำใดใช้นิยามเหตุการณ์นี้ได้ดีไปกว่า “Whisky Dick” ศัพท์สแลงอธิบายความอ่อนแอของบุรุษ ที่ยกแก้วเหล้ากระดกดื่มไม่ยั้ง แต่เมื่อเกิดอารมณ์ทางเพศต้องการงัดกระบี่ฟาดฟันร่ายรำบนเตียง กระบี่เล่มเดียวเล่มนั้นของพวกเขากลับไร้คม ‘Whisky Dick’ ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (จากแอลกอฮอล์) Whisky Dick ไม่ใช่คำศัพท์ทางการแพทย์ หากเป็นวลีที่ปรากฏขึ้นครั้งแรกในวรรณกรรมของกวีอังกฤษ William Shakespeare ใช้นิยามอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศอันเนื่องมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ Dr. Koushik Shaw ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินปัสสาวะจาก The Austin Urology Institute เชื่อว่าความหมายบางส่วนของ Whisky Dick ยังคงเดิมเหมือนในอดีต แต่บริบทในปัจจุบันซ่อนความรู้สึกที่หนักอึ้งขึ้นไปอีก เพราะ Whisky Dick ถูกใช้ขยี้ความหงุดหงิดและอับอายของผู้ชายต่อหน้าสาว ๆ