อีกหนึ่งทีมชาติในศึกฟุตบอลโลกที่มีคนเชียร์ในบ้านเราจำนวนไม่น้อย คงหนีไม่พ้น “อิตาลี” เจ้าของแชมป์โลก 4 สมัย และแชมป์ฟุตบอลยุโรปอีก 2 สมัย อีกทั้งยังเป็นประเทศที่มีลีกอันแข็งแกร่งนามว่า “กัลโช่ เซเรียอา” ที่มีสโมสรยักษ์ใหญ่ ได้แก่ Juventus, Inter Milan, A.C. Milan, Roma, Lazio และ Napoli นอกจากนั้นแล้วทีมชาติอิตาลียังมีประวัติศาสตร์ฟุตบอลมาอย่างยาวนาน ผลิตนักเตะระดับตำนานมามากมาย เช่น Paolo Maldini, Franco Baresi, Roberto Baggio, Giuseppe Meazza, Paolo Rossi หรือ Dino Zoff เป็นต้น และยังมีเหล่าตำนานอีก 1 ชุดที่เราจะไม่พูดถึงไม่ได้ นั่นคือชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2006 ณ ประเทศเยอรมนีนั่นเอง อิตาลี 2006 ที่อุดมไปด้วย นักเตะเก๋าประสบการณ์ ชุดนักเตะของทีมชาติอิตาลีที่ถูกคัดตัวไปโม้แข้งในศึกฟุตบอลโลกปี 2006 ภายใต้การคุมทีมของ Marcello Lippi
ย้อนกลับไปยังช่วงสมัยสโมสร Barcelona ครองโลก ในยุคที่ Pep Guardiloa (2008-2012) นั่งบัญชาการคุมทีม ต้องยอมรับเลยว่าลูกทีมของพวกเขาในตอนนั้นที่นำโดย Xavi Hernandez, Andres Iniesta, Sergio Busquets, Gerard Pique, Carles Puyol รวมไปถึง Lionel Messi มีทีมเวิร์กที่ยอดเยี่ยม มีทักษะอันเหนือชั้นขั้นเวิร์ลคลาส เมื่อองค์ประกอบทุกอย่างมารวมตัวกัน ทำให้ทีมดังแห่งแคว้นกาตาลุญญาไร้เทียมทาน ยากที่ทีมใดจะมาต่อกรได้ แถมเจอแทคติกการต่อบอลแบบตีกี-ตากา เข้าไปอีก ยิ่งทำให้คู่ต่อสู้ถึงกับจนปัญญาที่จะเข้าไปแย่งบอล สไตล์การเล่นดังกล่าวมันไม่ได้เกิดขึ้นแต่ในทีม Barcelona เท่านั้น แต่มันยังส่งอิทธิพลโดยตรงไปสู่ทีมชาติสเปน ในยุคการคุมทีมของ Vicente Del Bosque ในช่วงระหว่างที่คุมทีมกระทิงดุปี 2008-2016 แต่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคงต้องยกให้ฟุตบอลโลกปี 2010 ที่พวกเขาสามารถคว้าแชมป์โลกได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ พลาดท่าตั้งแต่นัดแรก สเปนทะลุเข้ามาสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย และถูกจับมารวมอยู่ในกลุ่ม H ร่วมกับทีมชาติชิลี, สวิตเซอร์แลนด์ และฮอนดูรัส ซึ่งหากดูจากรายชื่อทั้งหมดและพิจารณากันจริง ๆ ใคร ๆ ก็ต้องมองว่าทีมชาติสเปนจะต้องผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้อย่างสบายแน่นอน
ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วกับฟุตบอลโลกปี 2022 ซึ่งปีนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่จะจัดขึ้นในดินแดนย่านตะวันออกกลาง ประเทศกาตาร์ มีทีมชาติที่ผ่านการคัดเลือกเข้ามาทั้งหมด 32 ทีมเช่นเดิม นำโดยขาประจำอย่างบราซิล, อาร์เจนตินา, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อังกฤษ, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และอีกมากมาย แต่ที่ขาดไปคือทีมชาติอิตาลี ที่กระเด็นตกรอบคัดเลือกไปอย่างน่าเสียดาย สำหรับเกมแรกของฟุตบอลโลกในครั้งนี้จะเริ่มต้นนัดแรกในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2022 เป็นการพบกันระหว่างกาตาร์ปะทะเอกวาดอร์ ส่วนนัดชิงชนะเลิศจะเกิดขึ้นในวันที่ 18 ธันวาคม 2022 ณ สนาม Lusail Iconic Stadium ที่สามารถจุคนดูได้ถึง 80,000 ที่นั่ง แต่ก่อนจะได้ไปสนุกกับมหกรรมกีฬาที่ทั่วโลกรอคอย ทาง Unlockmen ขอเรียกน้ำย่อยด้วยการพาทุกคนย้อนไปสู่ฟุตบอลโลก ปี 2022 ที่ประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพจัดร่วมกัน ซึ่งฟุตบอลโลกในครั้งนั้นเต็มไปด้วยเรื่องราวที่ถูกพูดถึงมากมาย และเป็นเรื่องราวที่โลกลูกหนังไม่มีวันลืมได้ลงอย่างเด็ดขาด จะมีเหตุการณ์อะไรบ้าง เรานั่งไทม์แมชชีนย้อนไปดูพร้อม ๆ กันเลยครับ ฝรั่งเศสตกรอบแรก / เซเนกัล ม้ามืดตัวจริง ก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มขึ้น ทีมตราไก่ฝรั่งเศสถูกยกให้เป็นตัวเต็งคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2002 เนื่องจากศักดิ์ศรีของการเป็นแชมป์เก่าเมื่อปี 1998