World

วัยรุ่นใช้แอพติดตามมือถือหายตามล่าหัวขโมย แต่กลับโดนยิงเสียชีวิต

By: unlockmen June 18, 2015

ยุคนี้โทรศัพท์มือถือแทบทุกยี่ห้อ มีระบบรองรับในการติดตามตัวเครื่องในกรณีที่เราทำโทรศัพท์หายหรือถูกขโมย แต่ด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ อาจเป็นเพราะระบบของเจ้าหน้าที่ที่ล่าช้า ปัจจุบันนี้หลายๆ คนเมื่อทำโทรศัพท์มือถือหายจึงมักเลือกที่จะทำการไล่ติดตามคนร้ายด้วยตัวเองโดยใช้แอพพลิเคชั่นติดตามตัวดังกล่าว ซึ่งเราก็เห็นได้จากในหลายๆ คลิปที่ถูกบันทึกเหตุการณ์มาลงโซเชี่ยล แต่รู้ไหมครับ การที่เราทำแบบนั้น ถือเป็นการเสี่ยงอันตรายโดยที่เราไม่รู้ตัว และอาจนำภัยมาถึงชีวิตเรา เหมือนอย่างในคดีที่เราหยิบมาฝากกันวันนี้

เจ้าหน้าที่ตำรวจในประเทศแคนาดาได้ทำการประกาศเตือนประชาชนที่มักจะตามหา Smartphone ที่โดนขโมยไปด้วยตัวเองผ่าน tracking application ต่างๆเช่น Find My Phone เพื่อตามหาดูว่าโทรศัพท์อยู่ในตำแหน่งไหน หลังจากเกิดเหตุวัยรุ่นชาวแคนาดาออกล่าโจรขโมยโทรศัพท์มือถือผ่านระบบติดตามดังกล่าวด้วยตัวเองแต่กลับถูกอีกฝ่ายยิงเสียชีวิต

unnamed7

ล่าสุด นาย Jeremy Ryan Cook อายุ 18 วัยรุ่นชาวแคนาดา ถูกยิงเสียชีวิตในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาที่เมืองออนตาริโอ้ในประเทศแคนาดา โดยจากรายงานของตำรวจ Cook ได้ลืมโทรศัพท์มือถือของตัวเองไว้ในแท็กซี่ที่เขาใช้บริการ  จึงได้เริ่มทำการใช้ระบบนี้ติดตามโทรศัพท์มือถือตัวเองเพื่อจะไปเจรจาเอาโทรศัพท์ของเขาคืน จนกระทั่งเขาได้ติดตามไปจนถึงลานจอดรถแห่งหนึ่ง จนแน่ใจว่าโทรศัพท์มือถือของเขาอยู่ในรถ Mazda อยู่ เขาจึงได้เข้าไปเจรจา โดยในรถคันนั้นมีกลุ่มชายฉกรรจ์นั่งกันอยู่ถึงสามคน

รายงานระบุว่าหลังจากที่เจรจาไปสักพักก็เกิดมีปากเสียง ทำให้คู่กรณีพยายามจะขับรถหนี แต่เหยื่อได้พยายามยื้อยุดฝั่งประตูข้างคนขับ จนถูกหนึ่งในกลุ่มชายฉกรรจ์ใช้ปืนยิงจนเสียชีวิต ซึ่งข่าวนี้เป็นที่สนใจของสื่อต่างๆ เป็นอย่างมากโดยตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กำลังเร่งออกตามล่าผู้ต้องสงสัยทั้งสามคน

image

Ken Steeves โฆษกสำนักงานตำรวจประจำเมือง ได้กล่าวถึงกรณีนี้ว่า การใช้แอพพลิเคชั่นตามหา Smartphone เป็นสิ่งที่วัยรุ่นใจกล้าหลายคนมักจะทำด้วยตัวเอง แทนที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งไม่ผิดกฏหมายแต่อย่างใด แต่ควรใช้อย่างระมัดระวัง เพราะมีความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุร้ายได้ แม้ใน 2-3 ปีที่ผ่านมาจะมีผู้ใช้แอพพลิเคชั่นนี้ตามหา Smartphone จนเจอมากมาย และเกิดเหตุการณ์รุนแรงเพียงไม่กี่เคสเท่านั้น แต่ทางที่ดีควรจะแจ้งตำรวจให้จัดการแทนจะดีกว่า ก่อนจะทิ้งท้ายว่า “มันไม่ใช่แอพหรอกที่อันตราย แต่เป็นบุคคลที่เราจะไปเจอต่างหากที่อันตราย”

จริงๆแล้วเรื่องนี้เราก็พอจะเข้าใจได้ เพราะปกติเจ้าหน้าที่ตำรวจมักจะไม่ค่อยสนใจคดีเล็กๆอย่างการตามหา Smartphone ทั้งๆที่มีตำแหน่งให้ครบถ้วน แต่จากคดีนี้ น่าจะทำให้ตำรวจในหลายประเทศหันมาให้ความสนใจกันมากขึ้น ส่วนในเมืองไทยใครลองแจ้งความได้ผลยังไงมาบอกกันบ้างนะครับ หวังว่าพี่ตำรวจจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ สาธุ

Source : Cnn.com

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line