THE EVOLUTION OF CITY CAR: REIMAGINE ‘CITY CAR’ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง

ไลฟ์สไตล์ของคนสร้างความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีให้กับทุกอย่างรอบตัว สิ่งหนึ่งที่อยู่กับพวกเราทุกวันและสะท้อนเส้นทางที่ถูกพัฒนาให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตมากที่สุดก็คือ “รถยนต์” 

ปัจจุบัน คำจำกัดความของรถยนต์แต่ละเซกเมนต์ แม้จะบอกจุดประสงค์การใช้งานที่เหมือนเดิม แต่ทุกอย่างก็ยังได้รับการพัฒนาอยู่เสมอ เช่น City Car รถเพื่อคนเมืองที่เริ่มเป็นที่รู้จักในประเทศตั้งแต่ปี 1981 ทุกวันนี้ได้ผ่านการพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้คนมาไกลกว่าที่เราจะคาดคิด ทุกอย่างมักเริ่มต้นขึ้นไลฟ์สไตล์ของเราทั้งนั้น

UNLOCKMEN ขอชวนทุกคนไปตามดู 3 ไลฟ์สไตล์จากผลสำรวจพฤติกรรมคนเมืองที่เชื่อมโยงกับการสร้างวิวัฒนาการของการพัฒนารถ City Car ที่เราอาจคาดไม่ถึงมาก่อนต่อไปนี้ แล้วคุณจะแปลกใจว่าพวกเราทุกคนนี่แหละที่อยู่เบื้องหลังของการพัฒนาในวันนี้

Better Performance: ไลฟ์สไตล์ของคนในโลกปัจจุบันมีแต่จะเร่งรีบขึ้นทุกวัน ในหนึ่งวันเรามีหน้าที่ทั้ง Work และ Play ที่มากขึ้น จากผลสำรวจของ McCann เผยว่าวันนี้คนเมืองค้นพบตัวเองได้ไวขึ้นเพราะสังคมออนไลน์เชื่อมทุกคนเข้าหากัน แบ่งปันสิ่งที่หลงใหลร่วมกัน จึงทำให้รูปแบบการใช้ชีวิตของเราในแต่ละวันไม่ได้มีแค่แบบเดียว

ถ้าสังเกตตารางชีวิตของเราหรือคนรอบข้างจะเห็นว่าคนเมืองใส่ใจกับการใช้ชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เริ่มจากช่วงเช้าเราไปทำงาน กลางวันอาจต้องออกไปประชุมกับลูกค้า จบจากชีวิต 9 to 5 เราก็ยังบริหารชีวิตต่อไปทั้งนัดกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนและครอบครัว หรือปันเวลาในหนึ่งอาทิตย์ไปยิมเพื่อรักษาสุขภาพ การบาลานซ์ทั้งหมดให้ลงตัวจึงมาจากการบริหารเวลา 24 ชั่วโมงให้คุ้มค่าที่สุด และปัจจัยสำคัญอย่างการเดินทางก็กลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ตัดเกรดเรื่องนี้เสมอ

The 101 percent co. ltd ระบุตัวเลขผลสำรวจความคิดเห็นของคนเมืองในสังคมไทยปี 2020 พบว่าคนเมืองใช้รถยนต์ส่วนตัวสูงสุด คิดเป็น 36% ของทั้งหมด รถ City Car จึงได้รับการพัฒนาให้มีสมรรถนะที่ดีขึ้น ขนาดกะทัดรัด เพื่อความคล่องตัวที่มากกว่า ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นให้เท่าทันความต้องการของเรา

Bigger Space: จากการสำรวจเทรนด์การใช้ชีวิตคนเมืองชี้ว่า หนึ่งในเทรนด์ไลฟ์สไตล์วิถีคนเมืองคือ “การปล่อยพลัง” คนเมืองชอบหากิจกรรมทำเพราะอยู่ในสังคมที่ตื่นตัวทางสติปัญญา เชื่อมต่อกับโลกภายนอกตลอดเวลา สอดคล้องกับวัฒนธรรมที่เปลี่ยนแปลงจากยุค 1990 ที่คนหันมานิยมใช้วิถีชีวิตที่เรียกว่า “วัฒนธรรมข้างถนน” (Street Level Culture) มากขึ้น ไม่ติดอยู่กับที่ และนิยมทำกิจกรรมใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นการดูศิลปะ คาเฟ่ ที่สำคัญเทคโนโลยีที่พัฒนายังทำให้เราไม่ติดที่ เดินทางได้ตลอด ไม่ต้องเข้าออฟฟิศตลอดเวลา

เมื่อคน ๆ เดียวสามารถมีได้ทั้งงานอดิเรก เป็นฟรีแลนซ์ หรือทำงานประจำแล้วมีอาชีพเสริม กิจกรรมอย่างการตั้งวงเล่นดนตรี เก็บกระเป๋าเดินทางไปชิลล์สุดสัปดาห์ใกล้ ๆ ไปเที่ยวแกลลอรี ขายของออนไลน์หรือเปิดท้ายขายของตาม Pop Up Market สุดชิคจึงกลายเป็นไลฟ์สไตล์หลักที่คนเมืองให้คุณค่าไปโดยปริยาย จึงไม่แปลกที่เราจะใช้เวลาบน “รถยนต์” มากขึ้นกว่าเดิมไม่ต่างจากบ้านหลังที่สอง

ด้วยพื้นที่เมืองที่จำกัดแต่ความต้องการไม่จำกัดตาม รถ City Car จึงออกแบบให้ขนาดภายนอกดูกะทัดรัด แต่สร้างพื้นที่ภายในห้องโดยสารทั้งด้านผู้ขับขี่ตอนหน้า และผู้โดยสารตอนหลัง ให้นั่งได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นให้เหมาะกับสรีระและท่วงท่าจากการใช้งานจริง รวมทั้งเสริมพื้นที่สัมภาระ พัฒนาให้จุกว่าเก่าเพื่อจบทุกความต้องการของเรา จะเป็นเครื่องดนตรีสุดโปรด กระเป๋าเสื้อผ้า หรือสินค้าขายของ แค่เปิดท้ายใส่เข้าไปก็จบทุกอย่างได้ภายใน City Car คันเดียว

More Connectivity: ยุคที่ผู้คนต่างทำอะไรหลายอย่างแบบ Multifunction การเป็นหนึ่งเดียวกับรถยนต์โดยไม่ต้องปล่อยมือจากพวงมาลัยหรือละสายตาจากท้องถนนถือเป็นหัวใจสำคัญ

ลำพังการทำอะไรหลายอย่างก็ว่าเยอะแล้ว ยิ่งเมื่อรวมเข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างเรา ๆ ที่วันนี้ขาดอินเทอร์เน็ตไม่ได้ เพราะล่าสุดผลสำรวจของ “Global Digital 2019” ระบุว่า “คนไทย” ใช้เน็ต 9 ชั่วโมงต่อวัน-มือถือมี 99 แอปฯ ยิ่งยืนยันว่าการเชื่อมต่อทุกพื้นที่มันสำคัญกับเราขนาดไหน

เราใช้มันเพื่อเสพข่าวสาร แหล่งความบันเทิง เป็นช่องทางการติดต่อสื่อสาร รวมทั้งหาโอกาสหาลู่ทางการรายได้ในอนาคต การย่นระยะการเดินทางจึงไม่ได้มีแค่เรื่องของการเดินทางที่เป็นรูปธรรมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเดินทางของข้อมูลที่ส่งจากตัวตนเสมือนของเราในโลกดิจิทัลด้วย

City Car จึงพัฒนาการเชื่อมต่อเพื่อรองรับทั้งโทรศัพท์ แผนที่ และสร้างความสุนทรีย์ด้วยเสียงเพลงให้ผู้ขับขี่ได้ดีไม่แพ้รถยนต์ในเซกเมนต์ที่ใหญ่กว่า ทั้งหมดนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังพ่วงมากับความปลอดภัย เพราะทุกครั้งที่ขับขี่เราต่างต้องรับผิดชอบทั้งตัวเองและผู้คนบนท้องถนนด้วย

เพราะหัวใจของเมืองคือความมินิมัลที่อัดแน่นรายละเอียดและฟังก์ชันกว่าเดิม City Car จึงได้รับการพัฒนามาพร้อมกับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงเพื่อการตอบโจทย์ชีวิตที่มากกว่ายิ่งขึ้นเรื่อย ๆ