THE ICONIC CARS: TOYOTA 2000 GT ดีไซน์ที่ถูกปัดทิ้ง สู่ต้นแบบรถยนต์ยุคใหม่แห่งแดนอาทิตย์อุทัย

วงการรถยนต์คือหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ไม่เคยหยุดนิ่งและเดินหน้าสร้างสิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา โลกใบนี้จึงมีรถยนต์หลายรุ่นที่ประสบความสำเร็จและกลายมาเป็นต้นแบบให้กับรถยนต์ในยุคต่อมา

แต่ถ้าพูดถึงรถยนต์จากญี่ปุ่น ประเทศซึ่งปัจจุบันเรารู้ต่างดีว่า พวกเขาคือหนึ่งในมหาอำนาจของวงการรถยนต์โลก แต่ทว่าจุดเริ่มต้นในการสร้างรถยนต์สมรรถนะสูงของพวกเขา เริ่มขึ้นในช่วงเวลาไหน วันนี้ THE ICONIC CAR จะพาทุกคนไปทำความรู้จักช่วงเวลาดังกล่าว รวมถึงหนึ่งในรถยนต์ที่มีอิทธิพลเป็นอย่างมากในเวลานั้น ชื่อของมันคือ Toyota 2000GT

silodrome

ย้อนกลับไปในปี 1960 ญี่ปุ่นก้าวเข้าสู่ช่วงเริ่มสร้างประเทศใหม่หลังยอมแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ช่วงเวลานั้นเป็นยุคแห่งความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมการผลิตทุกชนิด แน่นอนว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ก็เช่นกัน แต่ญี่ปุ่นในเวลานั้นไม่ได้เน้นเรื่องสมรรถนะเท่ากับการใช้งานที่เหมาะสม พูดง่าย ๆ คือ ณ ตอนนั้นพวกเขาไม่มีโมเดล 2 ประตูแรง ๆ เหมือนกับค่ายรถยนต์ทางฝั่งยุโรปแต่อย่างใด

ยกตัวอย่าง รถของโตโยต้าในตระกูล Toyopet ซึ่งถือเป็นรุ่นแรกที่นำเข้าไปขายในสหรัฐอเมริกา แต่กลับได้รับฉายาว่า Toymotor เปรียบกับรถยนต์ของเล่น ทำให้เป็นการบ้านที่ต้องพัฒนารถยนต์คันใหม่เพื่อจะลบคำสบประมาทที่เคยได้รับ

ToyoPet ในอดีต

ขณะเดียวกันกระแสความสนใจรถยนต์และการแข่งรถในประเทศญี่ปุ่นก็เพิ่มสูงขึ้น เป็นผลพวงมาจากความสำเร็จของ Japanese Grand Prix ครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นในปี 1963 และ 1964 เพราะอีเวนต์ในตำนานแห่งสนามซูซูกะ ทำให้คนทั่วญี่ปุ่นเริ่มหลงใหลในความเร็วกันมากขึ้น และมีส่วนทำให้ตลาดรถยนต์ในประเทศเริ่มพัฒนาโมเดลใหม่ ๆ ออกมา

ในเวลานั้น ยามาฮ่า มีไอเดียรถยนต์ที่อยากพัฒนา พวกเขาจึงต่อสายตรงถึงมหาอำนาจของวงการ 4 ล้ออย่างนิสสันให้มาสานต่อโปรเจกต์ร่วมกันเพื่อสร้างรถยนต์ต้นแบบ ในเวลานั้น Prototype คันแรกถูกสร้างขึ้นโดยเป็นการร่วมทำงานระหว่าง Albrecht Graf Von Goertz นักออกแบบรถชาวสหรัฐอเมริกา และวิศวกรจากนิสสันอย่าง Fumio Yoshida และ Kazuo kimura

Prototype คันนี้ใช้ชื่อว่า YAMAHA A550X  เป็นรถยนต์ที่มีรูปร่างคล้ายเจเนอเรชันที่ 2 ของมัสเซิลคาร์ Corvette Stringray แต่ดูเหมือนนิสสันจะไม่ถูกผลลัพธ์ที่ได้เท่าไหร่นัก พวกเขาจึงขอถอนตัวออกจากโปรเจกต์ในครั้งนั้น และเดินหน้าพัฒนารถยนต์ตระกูล Fairlady Z ของตัวเองในเวลาต่อมา

แต่ยามาฮ่ายังก็ไม่ล้มเลิกความพยายาม ในที่สุดพวกเขาก็ติดต่อไปหาค่ายโตโยต้าเพื่อขายโปรเจกต์นี้ต่อ ประจวบเหมาะกับจังหวะะที่โตโยต้าก็มองโปรเจกต์ดังกล่าวไว้แล้วว่าเป็นเรื่องน่าลงทุนและน่าจะมีอนาคตที่สดใส พวกเขาจึงสร้างทีมขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะเพื่อต่อยอดพัฒนารถยนต์ต้นแบบให้เสร็จสมบูรณ์

โครงการพัฒนา Toyota 2000GT เริ่มต้นในเดือนธันวาคม ปี 1964 โดยได้ Mr. Jiro Kawano ผู้จัดการของ Toyota Racing และทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงนักทดสอบขับรถมากประสบการณ์มาร่วมโปรเจกต์ โดยแนวคิดงานออกแบบภายนอกเป็นฝีมือของ Satoru Nozaki ที่หวังว่าจะสร้างรถยนต์ได้ดีหรือเทียบเท่าต้นแบบอย่าง Jaguar E-Type ซึ่งถือเป็นสุดยอดรถยนต์ของโลกในเวลานั้น

Toyota 2000GT เปิดตัวครั้งแรกในงาน Tokyo Motor Show ในปี 1965 ภายใต้สัญญาร่วมกันกับยามาฮ่า เป็นรถสปอร์ตแบบ 2-Doors Fastback ที่ดีไซน์เรียบเนียนทั่วทั้งคัน ผสานความคลาสสิคของงานออกแบบภายในด้วยลายไม้บริเวณแผงคอนโซลรวมถึงพวงมาลัย 3 ก้าน ที่แม้จะดูโบราณเมื่อเทียบกับรถสปอร์ตจากฝั่งยุโรปอย่าง Ferrari หรือ Jaguar  แต่ก็ให้ความสะดวกสบาย และแสดงถึงความ Minimal และเป็นส่วนนึงกับธรรมชาติของญี่ปุ่นในเวลานั้นได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตามเวลานั้นมันกลับได้รับคำวิจารณ์ว่ามีความคล้าย Jaguar E-Type มากเกินไป ทั้ง ๆ ที่จริงแล้วหากถอดตัวถังอลูมิเนียมออกมาดูจะรู้ว่าแทบไม่มีอะไรคล้ายกันเลย

ด้านขุมพลัง Toyota 2000GT มาพร้อมเครื่องยนต์ 6 สูบขนาด 2.0-litre in-line 6-cylinder engine เครื่องตัวแรงที่ยกมาจาก Toyota Crown ถูกปรับจูนใหม่ให้พลัง 148 แรงม้าและแรงบิดที่ 175 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์แมนนวล 5-Speed สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 209 กิโลเมตร/ชั่วโมง รวมถึงรุ่นพิเศษอีก 9 คันที่ใช้เป็นเครื่องยนต์ขนาด 2.3 ลิตรที่มาพร้อมเกียร์ออัตโนมัติ 3-Speed เป็นครั้งแรกของรถยนต์จากญี่ปุ่นที่ติดตั้ง Limited slip differential และ Power-assisted disc brakes

สมรรถนะของ Toyota 2000GT นี่เองที่ทำให้คนในวงการรถยนต์ทั่วโลกมองว่ารถยนต์จากประเทศญี่ปุ่นก็เป็นรถที่เร็วและมีคุณภาพ โดยระหว่างการทดสอบในช่วง Pre-Production ในปี 1967 นิตยสาร Road & Track นิยามรถยนต์คันนี้ว่า “เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ขับได้สนุกและน่าตื่นเต้นที่สุด” เปรียบเทียบกับ Porsche 911 และยกให้เป็นซูเปอร์คาร์คันแรกของดินแดนอาทิตย์อุทัยเลยทีเดียว

แต่แม้ว่าคุณภาพของ Toyota 2000GT จะได้รับการยอมรับจากทั่วโลก แต่ในแง่ตัวเลขการขายรถยนต์คันนี้กลับได้เสียงตอบรับที่ไม่ดีนัก เพราะในเวลานั้นแม้ทุกคนจะอยากครอบครอง 2000GT แต่ต้องผิดหวังเพราะมันดันวางขายในช่วงข้าวของแพง ทำให้ค่าตัวของมันสูงถึง 6,611 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งตอนนั้นเป็นราคาที่แพงยิ่งกว่า Jaguar E-Type และ Porsche 911 เสียอีก

ทำให้ยอดขายที่หวังไว้ 1,000 คัน ถูกขายออกไปเพียง 351 คัน ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นของหายากของนักสะสมไป รวมถึง 1 คันพิเศษแบบเปิดประทุนที่ปรากฏตัวในภาพยนตร์ James Bond ในภาค You Only Live Twice

อย่างไรก็ตามแม้ Toyota 2000GT จะไม่ได้ถูกจดจำในฐานะรถยนต์ที่หลายคนนึกถึงเป็นคันแรก ไม่สามารถทำกำไรจากยอดขายได้เป็นจำนวนมาก แต่มันก็ควรถูกจดจำในฐานะรถยนต์สมรรถนะสูงคันแรก ๆ จากแดนอาทิตย์อุทัยที่ได้รับการยอมรับในระดับโลกว่าสมรรถนะสุดยอด พิสูจน์ด้วยราคาค่าตัวในปัจจุบันที่ประมาณ 1.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และกำลังเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ๆ  ในฐานะ Iconic Car ที่ทุกคนอยากครอบครอง

Source: 1/2/3