Life

THE PROFILE: “PIERRE-EMERICK AUBAMEYANG” การจุติใหม่อีกครั้งกับ BARCELONA โชคชะตาที่ลิขิตไว้แล้ว

By: JEDDY March 24, 2022

ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง ชื่อของกองหน้าทีมชาติกาบองกลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้งหลังจากระเบิดฟอร์มซัดเบิ้ลช่วยให้ Barcelona บุกไปถล่ม Real Madrid ยับเยินคาบ้านถึง 4-0 สิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นภาพแห่งความสุขอันล้นปรี่ของนักเตะรวมไปถึงแฟนบอลด้วยเช่นกัน แต่หากย้อนไปไม่กี่เดือนก่อนชื่อเราคงคิดไม่ออกแน่ ๆ ว่าภาพเหล่านี้จะเกิดขึ้นมาได้อย่างไร

ก่อนที่โอบาเมย็องจะยกเลิกสัญญากับทีม Arsenal ช่วงนั้นสถานการณ์ของเขาดูไม่ค่อยจะสู้ดีซักเท่าไหร่ สืบเนื่องมาจากปัญหาเรื่องระเบียบวินัยส่งผลให้เกิดความไม่ลงรอยกับ มิเกล อาร์เตตา ผู้จัดการทีมชาวสแปนิช

หากมองจากสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านั้นรวมไปถึงอายุอานามที่ใกล้ 33 ปีเข้าไปทุกที คงไม่มีใครกล้าฟันธงว่าโอบาเมย็องจะสามารถงัดฟอร์มอันสุดยอดออกมาได้อีกครั้ง แต่ถ้าลองมองย้อนกลับไปนับตั้งแต่จุดเริ่มต้นการค้าแข้ง สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาอาจจะไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจแต่อย่างใด


ฟุตบอลอยู่ใน D.N.A.

โอบาเมย็อง ถูกถ่ายทอดความชื่นชอบกีฬาฟุตบอลที่น่าจะฝังลงลึกถึงชั้น DNA นั่นก็เพราะคุณพ่อของเขาก็เป็นนักฟุตบอลอาชีพเช่นกัน เคยติดทีมชาติกาบองและมีผลงานกับอีกหลาย ๆ สโมสร เท่านั้นยังไม่พอ พี่น้องของเขาทั้งคาติลินาและวิลลี่ ต่างก็เป็นนักฟุตบอลกันทั้งหมด 

โอบาเมย็อง ลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 1989 ณ เมืองลาวาล ประเทศฝรั่งเศส การใช้ชิวตของเขากลับไม่ได้ปักหลักอยู่ที่ฝรั่งเศสหรือกาบอง แต่กลายเป็นเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เนื่องจากคุณพ่อของเขาได้ประกอบอาชีพเป็นแมวมองให้กับทีม A.C. Milan หลังจากแขวนสตั๊ด ส่วนคุณแม่ของเขาคือ มาร์การิตา เครสโป ประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว ด้วยความพร้อมและฐานะของครอบครัวทำให้โอบาเมย็องดูจะได้ใช้ชีวิตที่สุขสบายหากเทียบกับนักเตะชาวแอฟริกันอื่น ๆ ที่ต้องต่อสู้อย่างหนักหน่วงเพื่อเดินบนเส้นทางนักฟุตบอลอาชีพ

Aubameyang กับคุณพ่อ


ปฎิเสธโอกาสร่วมทีม BARCELONA 

แม้ชีวิตวัยเด็กในช่วงแรกจะไม่ได้อยู่ในประเทศฝรั่งเศส แต่จุดเริ่มต้นการเป็นนักเตะเยาวชนกลับเป็นที่นี่ โอบาเมย็องเริ่มเข้าสู่โลกของฟุตบอลเมื่อปี 1995 ด้วยวัยเพียง 6 ขวบกับทีม ASL L’Huisserie ก่อนจะโยกย้ายไป Nice, Laval, Bastia และมาลงเอยที่ A.C. Milan ในปี 2007 และก็เป็นที่นี่ที่ฝีเท้าของเขาเริ่มฉายแสงออกมา โดยเฉพาะผลงานในศึก Inaugural Champions Youth Cup ที่ประเทศมาเลเซีย โอบาเมย็องซัดไป 7 ประตู จากการลงสนาม 6 นัด และมีช่วยให้ทีมได้อันดับ 4 ในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว

ด้วยผลงานอันร้อนแรงทำให้โอบาเมย็องได้รับการทาบทามจาก Barcelona เพื่อขอซื้อตัวเขาไปปลุกปั้นต่อ แต่ด้วยความรักที่ยังคงมีต่อทีม A.C. Milan ทำให้เขาเลือกจะปฎิเสธโอกาสนั้นไป และขอยืนหยัดสู่ในอิตาลีต่อไป

แต่แล้วก็ดูเหมือนว่าจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด เพราะเมื่อโอบาเมย็องถูกดันขึ้นสู่ชุดใหญ่ของทีมปีศาจแดงดำ แต่เขากลับไม่ได้รับการไว้วางใจให้ลงสนามเลยแม้แต่นัดเดียว


ระเบิดฟอร์มเก่งที่ Saint-Etienne

หลังจากที่เป็นส่วนเกินของ A.C. Milan ทำให้เส้นทางอาชีพนักฟุตบอลของโอบาเมย็องต้องเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง เพราะเขาถูกปล่อยตัวไปให้สโมสรจากลีกเอิงยืมตัวไม่ว่าจะเป็น Dijon (2008-2009), Lille (2009-2010) และ Monaco (2010-2011) แม้ว่าจะไม่ได้ลงเล่นให้กับทีมที่ตัวเองต้องการ แต่ในมุมกลับกันมันคือเวทีพิสูจน์ฝีเท้าของกองหน้าชาวกาบองว่าจะเหมาะสมกับ A.C. Milan ขนาดไหน 

ตลอดระยะเวลาที่ถูกยืมตัว โอบาเมย็องกลับทำผลงานได้ไม่น่าประทับใจ โดยมีโอกาสลงเล่นรวมทั้งหมด 86 นัด และทำได้เพียง 14 ประตูเท่านั้น ดูเหมือนว่าฟอร์มการเล่นในระดับเยาวชนที่เคยโดดเด่นจะถูกกลบฝังลงไปตามอายุของเจ้าตัวที่ค่อย ๆ เติบโตขึ้น แต่ไฟที่กำลังจะดับมอดก็มีคนมาช่วยจุดอีกครั้ง เมื่อสโมสร Saint-Etienne ตัดสินใจยืมตัวเขาไปใช้งานต่อจาก Monaco จนสุดท้ายเขาก็ได้เซ็นสัญญากับสโมสรถาวรในฤดูกาลถัดมา 

ท่ามกลางคำถามที่สงสัยในฝีเท้าของเขา ทุกสิ่งทุกอย่างก็ถูกกลบด้วยฟอร์มการเล่นอันสุดยอดของโอบาเมย็อง เขาตอบแทนความไว้วางใจของสโมสรด้วยการยิงไปทั้งหมด 39 ประตู จากการลงเล่นทั้งหมด 83 นัด และมีส่วนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ French League Cup มาครองได้สำเร็จในฤดูกาล 2012–13 


ก้าวสู่กองหน้าเวิร์ลคลาสกับ BORUSSIA DORTMUND

หลังดึงฟอร์มการเล่นอันสุดยอดออกมาได้สำเร็จ ทำให้ชื่อของโอบาเมย็องกลับมาเป็นที่สนใจในตลาดนักเตะอีกครั้ง โดยทีมแรกที่ยื่นขอเสนอเข้ามาคือ Newcastle United จากเกาะอังกฤษ ว่ากันว่ามีการตกลงเบื้องต้นได้แล้ว แต่คุณพ่อของเขาได้เข้ามาเบรกกลางคันเพราะมีข้อเสนอจาก Borussia Dortmund เข้ามาด้วยเช่นกัน และคุณพ่อมองว่าที่นี่จะทำให้ลูกชายของเขาก้าวมาเป็นกองหน้าระดับโลกได้อย่างแน่นอน เพราะมีชายที่ชี่อว่าเจอร์เกน คลอปป์ คุมทีมอยู่นั่นเอง

และการตัดสินใจครั้งนี้ก็เป็นการตัดสินใจที่น่าจะดีที่สุดในชีวิตของโอบาเมย็อง เพราะเขาสามารถระเบิดฟอร์มอันร้อนแรงออกมาได้แบบที่กองหลังทุกทีมต้องหวาดกลัว เพราะเขามีทั้งสปีดอันจัดจ้านราวกับรถซุปเปอร์คาร์พร้อมฉีกแนวรับให้ขาดเป็นชิ้น ๆ  มีเทคนิคการไปกับบอลที่ยอดเยี่ยม และที่สำคัญมีวิชั่นในการจบสกอร์ที่หวังผลได้ มันราวกับว่าระเบิดเวลาที่อัดอั้นอยู่ในตัวได้ระเบิดออกมากลายเป็นพลุไฟที่สาดสีส่องสว่างไปทั่วโลกแห่งฟุตบอล ส่วนหนึ่งต้องยกเครดิตให้กับคลอปป์ที่ปลุกแพชชั่นของเจ้าตัวให้ลุกโชน

การเข้ามาสู่ทีม Dortmund ของโอบาเมย็อง เขาได้มาเติมเต็มการจากไปของโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ สามารถประสานงานกับแนวรุกเพื่อนร่วมทีมอย่างมาร์โก รอยส์, ชินจิ คากาวะ, คริสเตียน พูลิซิช และเฮนริค มคิตาร์ยาน ได้อย่างลงตัว 

ตลอดระยะเวลาในถิ่น Signal Iduna Park โอบาเมย็องลงเล่นไปทั้งสิ้น 213 นัด ยิงได้มากถึง 141 ประตู ช่วยให้ทีมเสือเหลืองคว้าแชมป์ DFB-Pokal มาครองได้ในฤดูกาล 2016-2017 ซึ่งในฤดูกาลนี้เขาสามารถคว้ารางวัลดาวซัลโวของบุนเดสลีกามานอนกอด รวมไปถึงติดทีมยอดเยี่ยมของลีก เท่านั้นยังไม่พอโอบาเมย็องยังเคยได้รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของลีกในฤดูกาล 2015–2016 ด้วยเช่นกัน

ถึงแม้ถ้วยรางวัลกับสโมสรอาจจะได้น้อย แต่เกียรติประวัติส่วนตัวถือว่าเยอะมากเลยทีเดียว จนกระทั่งฤดูกาล 2017-2018 การเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นกับโอบาเมย็องอีกครั้ง


หักปากกาเซียนกับการย้ายสู่ทีม ARSENAL

ด้วยฝีเท้าและผลงานของโอบาเมย็อง การย้ายไปสู่ทีมระดับลุ้นแชมป์คงไม่ใช่เรื่องยาก แต่จริง ๆ แล้วความฝันของคือต้องการเป็นนักเตะของทีม Real Madrid แต่มันก็ไม่เกิดขึ้นเพราะทีมราชันย์ชุดขาวไม่มีความคิดที่จะดึงตัวเขาไปร่วมทีมแต่อย่างใด สุดท้ายในช่วงเปิดตลาดนักเตะรอบ 2 ของฤดูกาล 2017-2018 โอบาเมย็องกลับทำสิ่งที่ช็อกคนทั้งโลกด้วยการย้ายไปร่วมทีม Arsenal ด้วยค่าตัว 56 ล้านปอนด์ ซึ่งได้กลายเป็นสถิติค่าตัวสูงสูดของสโมสรอีกด้วย

จริงอยู่ที่ทีม Arsenal เคยยิ่งใหญ่ แต่ในช่วงที่โอบาเมย็องเป็นช่วงที่ทีมผลงานของทีมดร็อปลงไปมาก ขนาดลุ้นท็อปโฟร์ยังยากเลย อีกทั้งตามปกติแล้วทีมปืนใหญ่เป็นทีมที่ได้ขึ้นชื่อว่าขี้เหนียว การยอมควักเงินมากมายถึงขนาดนี้ก็เป็นสิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับคอบอลไปด้วยเช่นกัน

การมาของโอบาเมย็องทำให้เขาได้กลายเป็นศูนย์กลางของทีม Arsenal ไปโดยทันที และด้วยโครงสร้างของทีมที่ไม่ได้แข็งแกร่งมาก ทำให้บทบาทของโอบาเมย็องก็ถูกปรับเปลี่ยนตามไปด้วย

จากเดิมที่เป็นกองหน้ารอจบสกอร์ แต่ที่นี่เขาต้องลงมาล้วงบอล ทำเกม ขึ้นเกมให้ทีมในหลาย ๆ ครั้ง เป็นเดอะแบกของทีมไปโดยปริยาย

ถึงแม้จะทำหน้าที่มากขึ้น แต่ผลงานการสร้างสกอร์ก็ยังคงยอดเยี่ยม เพราะตลอด 4 ฤดูกาลครึ่งที่อยู่ในถิ่น Emirates Stadium เขาสามารถทำประตูได้มากถึง 92 ประตู จากการลงเล่น 163 นัด ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ F.A. Cup มาครองได้ในฤดูกาล 2019-2020 และแชมป์ Community Shield ปี 2020 พ่วงด้วยตำแหน่งดาวซัลโวในฤดูกาล 2018-2019 และได้ติดทีมยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2019-2020 ถึงแม้เขาจะกลายเป็นฮีโร่ของเหล่าเดอะกันเนอร์ส แต่แล้วจุดบาดหมางที่นำไปสู่จุดจบชีวิตในลอนดอนก็เกิดขึ้น


ความหมาดบางกับ ARTETA สู่การจุติใหม่ที่ BARCELONA

อย่างที่ได้เกริ่นไปตอนต้น ช่วงท้ายกับทีม Arsenal ของโอบาเมย็องไม่ค่อยน่าจดจำซักเท่าไหร่ เขามีปัญหากับมิเกล อาร์เตตา ที่ว่ากันว่าน่าจะเป็นปัญหาของเรื่องระเบียบวินัย จนทำให้เขาถูกดร็อปจากการเป็นตัวจริง ซึ่งทางโอบาเมย็องเคยออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่า ปัญหาเดียวของเขาในทีมคือมิเกล อาร์เตตา จนสุดท้ายทางออกของปัญหาเรื่องนี้คือการตกลงยกเลิกสัญญาระหว่างนักเตะและสโมสร

หลังจากนั้นยอดทีมสเปนอย่าง Barcelona ก็ตัดสินใจติดต่อทาบทามให้เขาย้ายไปร่วมทีม แม้ว่าตอนเยาวชนโอบาเมย็องจะเคยปฎิเสธโอกาสย้ายไปร่วมทีม แต่รอบนี้เขาตัดสินใจเซย์เยสแบบไม่ต้องคิดเยอะ ทำให้เขาได้กลายมาเป็นศูนย์หน้าคนใหม่ของยอดทีมจากแคว้นคาตาลันในที่สุดเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์

โอบาเมย็อง ลงเล่นภายใต้การคุมทีมของซาบี้ เอร์นานเดซ ตำนานของสโมสร พร้อมด้วยนักเตะสายเลือดใหม่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นอันซุ ฟาติ, เปดรี้, เฟอร์ราน ตอร์เรส, เอริก การ์เซีย และอีกมากมาย

นับตั้งแต่ที่อดีตกองหน้า Arsenal ย้ายมาร่วมทีม Barcelona ยังไม่แพ้ใครเลย นับเฉพาะในลีก 7 เกมหลังสุด ชนะไปถึง 6 และเสมอไปอีก 1 ทำให้ทีมเกาะอันดับ 3 ของตารางมีอยู่ 54 คะแนน ยังพอมีโอกาสลุ้นแชมป์ขึ้นมาบ้าง ส่วนผลงานของโอบาเมย็องก็ยิงไปแล้ว 9 ประตูจากการลงเล่นเพียง 11 นัดทุกรายการ ซึ่ง 2 ประตูล่าสุดเกิดขึ้นในเกมเอล กลาสิโก้ กับทีม Real Madrid ทีมในฝันของเขาที่ไม่เคยสนใจคว้าตัวเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว

จะว่าไปที่สโมสร Barcelona ก็เปรียบเสมือลิขิตของโอบาเมย็อง แม้ว่าเขาจะไม่ได้มาร่วมทีมในตอนระดับเยาวชน แต่สุดท้ายโชคชะตาก็นำพาเขามาที่ถิ่นคัมป์นูจนได้ และที่สำคัญเขาได้กลายเป็นขวัญใจคนใหม่ของแฟนบอลที่นี่ไปแล้วด้วย


โอบาเมย็องกับแฮตทริกครบ 4 ลีกใหญ่ยุโรป

อีกหนึ่งสถิติที่น่าสนใจของ ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง คือเขาได้กลายเป็นผู้เล่นคนแรกในศตวรรษที่ 21 ที่สามารถทำแฮตทริกได้ครบ 4 ลีกใหญ่

เริ่มจาก ปี 2012 กับทีม Saint-Étienne ในเกมที่พบกับ Lorient (ลีกเอิง)

ปี 2013 กับทีม Borussia Dortmund ในเกมที่พบกับ Augsburg (บุนเดสลีกา)

ปี 2021 กับทีม Arsenal ในเกมที่พบกับ Leeds United (พรีเมียร์ลีก)

ปี 2022 กับทีม Barcelona ในเกมที่พบกับ Valencia (ลา ลีกา)


ท่าดีใจเอกลักษณ์ของโอบาเมย็อง

เรื่องแรกต้องยกให้เป็นเอกลักษณ์ท่าดีใจกับการตีลังกาอันสวยงาม หรือบางครั้งเจ้าตัวจะชอบเอาหน้ากากซุปเปอร์ฮีโร่มาใส่ เพราะลูก ๆ ชื่นชอบนั่นเอง ล่าสุดท่าดีใจเป็นท่าวิชาหายตัวของโกคูในเรื่อง Dragonball ซึ่งสร้างไวรัลให้กับโลกโซเชียลเนตเวิร์กได้ดีทีเดียว


 

JEDDY
WRITER: JEDDY
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line