THE RONALDO EFFECT ปรากฏการณ์สะเทือนโลกของยอดนักเตะหมายเลข 7 คนนี้มีอะไรบ้าง

เรียบร้อยโรงเรียนม้าลายไปแล้วสำหรับดีลสั่นสะเทือนวงการลูกหนังโลกของ Cristiano Ronaldo ที่ตกลงย้ายออกจากหนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Real Madrid ไปซบอก Juventus ทีมมหาอำนาจลูกหนังเมืองมักกะโรนีด้วยค่าตัวประมาณ 110 ล้านยูโร ขึ้นแท่นเป็นสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์ของ Serie A เป็นที่เรียบร้อย

ถึงจะไม่ใช่ค่าตัวนักเตะสูงสุดตลอดกาลของโลก (ตอนนี้อันดับ 1 เป็นของ Neymar มูลค่า 222 ล้านยูโร) แต่อย่าลืมว่านี่คือนักเตะอายุ 33 ปี ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับคนอื่นนี่คือช่วงปลายอาชีพค้าแข้งที่สภาพร่างกายโรยราแล้ว แต่ไม่ใช่สำหรับผู้ชายชื่อ Cristiano Ronaldo ความฟิตของเขายังสุดยอดไม่ต่างจากช่วงวัยรุ่น ยิงประตูได้เกิน 40 ประตูต่อเนื่องมาตลอดทุกปี พาทีมชาติโปรตุเกสคว้าแชมป์ฟุตบอลยูโร 2016 และล่าสุดก็ยังโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมในฟุตบอลโลก

ผู้ชายคนนี้สร้างปรากฏการณ์ให้ได้ทึ่งอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าตำนานของเขากับทีม Real Madrid จะจบลงแล้ว แต่เชื่อเหลือเกินว่าเขาต้องสานต่อตำนานของตัวเองที่เมือง Turin ได้แน่นอน ดังนั้นก่อนที่จะพบกับตำนานบทต่อไป ย้อนดูกันก่อนดีกว่าว่าที่ผ่านมาลูกผู้ชายนาม Cristiano Ronaldo ได้สร้างปรากฏการณ์อะไรไว้บนโลกนี้บ้าง

ทุบสถิติค่าตัวแพงที่สุดในโลกที่อยู่มากว่า 8 ปี

นับตั้งแต่ Zinedine Zidane สุดยอดจอมทัพเลือดน้ำหอม ตกลงย้ายตัวจาก Juventus สู่ Real Madrid ในปี 2001 ด้วยค่าตัวสถิติโลกในตอนนั้นมูลค่า 46.6 ล้านปอนด์ สถิตินี้ก็คงอยู่มากว่า 8 ปีโดยไม่มีวี่แววว่าจะมีใครมาโค่นลงได้ในเร็ววัน แต่แล้ววันหนึ่งสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อ Real Madrid จัดการทุบสถิติโลกของตัวเอง ทุ่มเงินกว่า 80 ล้านปอนด์กระชากลายเซ็น Cristiano Ronaldo ที่ตอนนั้นเพิ่งคว้ารางวัลบัลลงดอร์มาหมาด ๆ จากสโมสร Manchester United เป็นการทำลายสถิติค่าตัวของ Zidane ด้วยมูลค่าที่มากกว่าเกือบเท่าตัว

บัลลงดอร์มากที่สุดตลอดกาล

บัลลงดอร์คือรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมที่ค้าแข้งอยู่ในทวีปยุโรปประจำปี เป็นรางวัลที่มอบให้นักเตะที่โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมที่สุดในปีนั้น ๆ มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เริ่มต้นการมอบรางวัลครั้งแรกเมื่อปี 1956 ในช่วงเวลา 52 ปีตั้งแต่รางวัลบัลลงดอร์ครั้งแรกจนถึงปี 2008 (ปีที่ Cristiano Ronaldo ได้รางวัลนี้เป็นครั้งแรก) มีนักเตะที่ได้รางวัลนี้มากที่สุดจำนวน 3 คน ได้แก่ Michel Platini, Johan Cruyff, Marco van Basten เท่ากันที่คนละ 3 ครั้ง แต่เมื่อนักเตะชื่อ Cristiano Ronaldo (รวมถึง Lionel Messi) ถือกำเนิด สถิตินี้ก็กลายเป็นของเก่าตกยุค เมื่อเขาสามารถคว้ารางวัลบัลลงดอร์ได้ถึง 5 สมัย แบบไม่เกรงใจดาวเตะรุ่นพ่อ กลายเป็นนักเตะที่ได้รางวัลบัลลงดอร์มากที่สุดตลอดกาลร่วมกับ Lionel Messi

เพชฌฆาตตัวจริง

Cristiano Ronaldo คือนักทำลายสถิติตัวจริง ตั้งแต่เขาถือกำเนิดในฐานะนักฟุตบอลอาชีพ สถิติต่าง ๆ ในโลกลูกหนังก็โดนทำลายเป็นว่าเล่น โดยเฉพาะสถิติด้านการพังประตู ไม่ว่าจะเป็น

• สถิติยิงประตูสูงสุดให้กับทีมชาติโปรตุเกส ตอนนี้ CR7 ซัดไป 85 ประตู ทำลายสถิติเดิมของ Pauleta ดาวยิงรุ่นพี่ที่เคยทำไว้ 47 ประตูแบบไม่เห็นฝุ่น
• สถิติยิงประตูสูงสุดให้กับสโมสร Real Madrid โดยตลอด 9 ปีที่ค้าแข้งอยู่กับทีมราชันชุดขาว CR7 ยิงไป 450 ประตูรวมทุกรายการ ทำลายสถิติเดิมของ Raul ที่ 323  ประตูทั้ง ๆ ที่ลงสนามน้อยกว่าเกือบครึ่ง
• สถิติยิงประตูสูงสุดในรายการ  UEFA Champions League ที่ 120 ประตู และอันดับ 2 ที่ตามมาห่าง ๆ ที่ 100 ประตูก็ไม่ใช่ใครที่ไหน Lionel Messi คู่แข่งตลอดกาลของเขานั่นเอง

ยิงประตูสู่ธุรกิจ

การจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพได้นั้นต้องทุ่มเททั้งกายทั้งใจเต็มที่ ซึ่งอาจจะหมายความถึงการไม่ได้รับการศึกษาในระดับสูง นี่จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้นักฟุตบอลส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีความรู้ด้านอื่นมากนัก การหมดเนื้อหมดตัวหลังจากแขวนสตั๊ดเนื่องจากบริหารการเงินไม่เป็นเป็นสิ่งที่เราพบเห็นได้บ่อย ๆ ในวงการลูกหนัง แต่ไม่ใช่สำหรับ Cristiano Ronaldo แน่นอน เพราะตอนนี้นอกจากการเป็นนักฟุตบอลอาชีพแล้ว เขายังมีธุรกิจอีกมากมายหลายอย่าง และแต่ละอย่างก็ล้วนประสบความสำเร็จแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์แฟชั่น ‘CR7’, ธุรกิจฟิตเนส, โรงแรม  Pestana CR7, และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อีกมากมาย จึงไม่ต้องเป็นห่วงเลยว่าเขาจะถังแตกหลังแขวนสตั๊ด ตรงกันข้ามน่าจะล่ำซำขึ้นไปอีกด้วยซ้ำเนื่องจากสามารถโฟกัสธุรกิจได้เต็มที่

แค่ข่าวลือตลาดหุ้นก็ปั่นป่วน

ย้อนไปก่อนหน้านี้ 1 สัปดาห์ ในตอนนั้น Cristiano Ronaldo ยังไม่ได้ตกลงเซ็นสัญญากับ Juventus อย่างเป็นทางการ แต่ก็พอมีข่าวลือเล็ดลอดออกมาบ้างแล้ว ซึ่งแค่นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ตลาดหุ้นปั่นป่วน หุ้นของสโมสร Juventus พุ่งสูงขึ้น 9% ทันที ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 0.81 ยูโรต่อหุ้น จากราคาต่ำสุด 52 สัปดาห์อยู่ที่ 0.52 ยูโร

จากข่าวนี้ทำให้เราเห็นภาพได้อย่างชัดเจนว่า Cristiano Ronaldo มีอิทธิพลขนาดไหน ไม่ใช่แค่ฝีเท้าในสนามอย่างเดียวเท่านั้นแต่รวมถึงภาพลักษณ์ทางการตลาดอันมหาศาลอีกด้วย

เหล่านี้คือปรากฏการณ์ที่ Cristiano Ronaldo ได้สร้างเอาไว้ เรียกได้ว่าครบเครื่องทั้งในและนอกสนาม เป็นคนที่สามารถ UNLOCK ความสามารถของตัวเองได้ในทุก ๆ ด้าน ควรค่าแก่การยึดถือเพื่อเป็นแบบอย่างในการจะประสบความสำเร็จในชีวิต