Things to consider before investing : เริ่มต้นลงทุน ต้องรู้อะไรบ้าง

“You have to learn to be an investor if you want to become wealthy” คำพูดสอนสั่งของปู่ Warren Buffet ที่สอนให้เรารู้ว่า ถ้าเราอยากที่จะประสบความสำเร็จ มีความมั่งคั่งในชีวิต เราต้องเรียนรู้ที่จะเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งต้องบอกว่ามันไม่ง่ายเลย ที่จะรวย มั่งคั่ง ประสบความเสร็จได้ ง่าย ๆ อย่างที่เห็นบนแผงหนังสือรวยหุ้นที่เค้าว่ากัน แต่ถ้ามัวอยู่เฉย ๆ ไม่ทำอะไร เงินมันก็ไม่อาจงอกเงยขึ้นมาได้ หลายคนติดว่าแล้วจะเริ่มยังไง มันยากวุ่นวายเหลือเกิน วันนี้ทีมงาน UNLOCKMEN จึงอยากมาแชร์ไอเดียเริ่มต้นเตรียมพร้อมลงทุนให้เงินงอกเงยไปพร้อมกัน

Credit Image : Wallsdesk.com

ก่อนอื่นเลย หลายคนอาจคิดว่า แค่มีเงินก้อนแรกก็ลงทุนได้แล้ว สบายใจได้ แต่ปู่ Warren Buffet ยังสอนเอาไว้อีกว่า “Risk comes from not knowing what you’re doing” ความเสี่ยงที่โหดร้ายที่สุดคือ ไม่รู้ว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่ ดังนั้น ก่อนที่คุณจะเริ่มลงทุน สิ่งแรกที่คุณต้องรู้คือ รู้จักตนเอง

“รู้จักตนเอง”

สิ่งที่สำคัญเป็นอันดับแรก ก่อนที่คุณจะเริ่มต้นลงทุนคือ คุณต้องรู้จักตนเองให้ดีเสียก่อน คุณต้องรู้ว่า คุณสามารถรับความเสี่ยงได้มากน้อยเพียงไหน เหมาะกับการลงทุนประเภทใด หลายคนอาจบอกว่า มีเงินหนึ่งร้อยบาท ฉันกล้ารับความเสี่ยงได้ครึ่งหนึ่งเลย 50% สบาย ๆ แค่ 50 บาท แต่ถ้าคุณมีเงินล้านหล่ะ คุณสามารถทำใจยอมรับกับการหายไปของเงินห้าแสนได้จริงหรือ

“ต้องการลงทุนเพื่ออะไร”

เวลาทำอะไร เราควรมีเป้าหมาย วัตถุประสงค์ในการทำสิ่งนั้น การลงทุนก็เช่นกัน ก่อนที่จะเริ่มลงทุน คุณต้องรู้ว่าคุณมีเป้าหมายว่าคุณจะลงทุนเพื่ออะไร  ระยะเวลาในการลงทุนเป็นอย่างไร วางแผนเพื่อเป้าหมายระยะสั้นหรือระยะยาว

เป้าหมายระยะสั้น เป็นการวางแผนการเงินระยะสั้น ๆ ไม่เกิน 1 ปี เหมือนเป็นการให้รางวัลชีวิตของตัวเอง เพราะบางครั้งการตั้งเป้าหมายระยะยาวอย่างเดียวอาจทำให้เราท้อได้ หากเป้าหมายยังไม่สำเร็จ เราจึงควรมีเป้าหมายระยะสั้นด้วย เพื่อเป็นการสร้างกำลังใจให้ทำตามแผนการต่อไป ยกตัวอย่างเช่น การวางแผนเก็บเงินเพื่อไปท่องเท่ียวต่างประเทศ ซื้อโทรศัพท์ใหม่ ชอปปิงของที่เราอยากได้เป็นรางวัลให้ตัวเอง เป็นต้น

เป้าหมายระยะยาว คือการวางแผนการเงินสำหรับในอนาคต โดยที่เป้าหมายมีระยะเวลาตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป ซึ่งอาจจะเป็น 3 ปี 5 ปี 10 ปี หรือมากกว่านั้น ซึ่งเป้าหมายระยะยาวนี้ ถือเป็นเป้าหมายหลัก ที่เราต้องมีการ เตรียมพร้อมการวางแผนการเงินเป็นอย่างดี พร้อมหาวิธีการลงทุนที่เหมาะสมในการบรรลุเป้าหมายนั้น ๆ ซึ่งเป้าหมายระยะยาวของแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน บางคนอยากมีรถหรู บางคนอยากมีบ้านใหญ่ ๆ มีคอนโดใจกลางเมือง มีแผนการเก็บเงินแต่งงานมีครอบครัว มีแผนการส่งลูกไปเรียนเมืองนอก อยากมีอิสรภาพทางการเงิน ยิ่งเป้าหมายเรายิ่งใหญ่มากแค่ไหน เราก็ต้องมีการวางแผนการออม การลงทุนที่รัดกุมเท่านั้น ถึงจะพาเราบรรลุเป้าหมายได้

ก่อนที่จะวางเป้าหมายกัน เราลองทำแบบทดสอบแผนการลงทุนเพื่ออนาคตและค้นหาพอร์ตที่ใช่ตัวคุณที่  คลิกทำแบบทดสอบ

“ลงทุนในอะไรดี”

คำถามต่อไปที่หลายคนมักถามคือ แล้วเราจะลงทุนอะไรดี คนส่วนมากที่รับความเสี่ยงได้น้อยก็จะเริ่มจากเอาเงินไปฝากธนาคาร ได้ดอกเบี้ยน้อยแต่ปลอดภัย ซื้อพันธบัตรรัฐบาล ซื้อสลากออมสินที่ได้ฝากเงินแถมได้ลุ้นเงินรางวัลด้วย บางคนอาจซื้อทองแท่งเก็บไว้เป็นมรดก และที่หลายคนให้ความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็คือการลงทุนในตลาดหุ้น อาจจะเพราะได้ยินมาว่าผลตอบแทนสูงแซงตลาด สามารถทำกำไรเป็นกอบเป็นกำได้ไม่ยาก และมีผลตอบแทนสูง

แต่เดี๋ยวก่อน การลงทุนในตลาดหุ้นอาจสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยได้จริง แต่ก็มีความเสี่ยงสูงมากเช่นกัน อย่างที่เราได้ยินบ่อย ๆ ว่า HIGH RISK HIGH RETURN ดังนั้นก่อนจะเริ่มก้าวเท้าเข้าตลาดหุ้น คุณต้องศึกษาข้อมูลบริษัทในตลาดหุ้นให้เข้าใจแต่ละธุรกิจให้ดีเสียก่อนที่จะเริ่มลงทุนในบริษัทนั้น ๆ ไม่งั้นก็เปรียบเสมือนการเดินเข้าสนามรบแบบมือเปล่าเท้าเปลือย โอกาสรอดชีวิตอาจจะไม่มากนัก โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่ไร้ประสบการณ์ ควรที่จะเริ่มต้นเรียนรู้ก่อนเข้าสนามรบ ทีมงานเคยรวมเว็บไซต์การเงินที่นักลงทุนมือใหม่ควรศึกษามาให้ไว้แล้วที่นี่

ศึกษาอย่างเดียวยังไม่พอ คุณจะเข้าถึงการลงทุนในตลาดหุ้นอย่างแท้จริงก็ต่อเมื่อคุณเริ่มต้นเทรดด้วยเงินตัวเองจริง ๆ แล้วเท่านั้น คำถามต่อไปคือจะเปิดพอร์ตการลงทุนต้องเริ่มอย่างไร  จะเลือกโบรกเกอร์ไหนดี เราควรพิจารณาอะไรบ้าง โดยสิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงคือ ความปลอดภัย ซึ่งการเช็คความน่าเชื่อถือก็ทำได้ไม่ยาก เพราะโบรคเกอร์หรือบริษัทหลักทรัพย์ที่ถูกต้องจะมีใบอนุญาตสำหรับการประกอบกิจการ และเป็นสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

สิ่งที่ต้องพิจารณาต่อไป คือ ค่าคอมมิชชันของโบรคเกอร์นั้น ๆ เนื่องจากการซื้อขายหุ้นทุกครั้งจะมีค่าคอมมิชชันที่คุณต้องจ่ายไป การดูแลบริการ Customer Service รวมถึงการดูแลเรื่องการฝาก-ถอนเงินต้องไม่ยุ่งยาก มีบทวิเคราะห์ให้นักลงทุนได้ทำการศึกษาข้อมูลของแต่ละบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ก่อนที่จะเริ่มลงทุน ซึ่งการเลือกโบรกเกอร์ที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ เปรียบเสมือนการมีเพื่อนร่วมรบที่ไว้ใจได้เลยทีเดียว

เมื่อเปิดพอร์ตเรียบร้อยแล้ว  เราแนะนำว่าก่อนที่จะทำการสั่งซื้อขายหุ้นลงสนามจริง คุณต้องศึกษาให้ดีก่อนว่าบริษัทที่จะลงทุนเป็นบริษัทที่ลงทุนเกี่ยวกับอะไร  อยู่อุตสาหกรรมไหน  มีงบการเงิน P/E , P/BV กำไรขาดทุนเป็นอย่างไร ทิศทางของธุรกิจมีแนวโน้มไปทางไหน หรือมีความสนใจในธุรกิจกลุ่มไหนเป็นพิเศษ ก็ใช้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีได้เช่นกัน สามารถเข้าไปอ่านข้อมูลเบื้องต้น รวมถึงผลประกอบการของแต่ละบริษัทได้ที่ ข้อมูลรายบริษัท/หลักทรัพย์   ซึ่งในขั้นตอนนี้เราแนะนำให้ศึกษาอย่างละเอียดก่อนที่จะลงทุน  อย่าเล่นหุ้นตามเค้าบอก แต่ไม่รู้ว่าบริษัทนั้นทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไรกันแน่ และอย่าลืมศึกษาราคาหุ้น ณ ตอนที่ตัดสินใจลงทุนด้วยว่า สมเหตุสมผลหรือไม่กับผลประกอบการของบริษัทได้ที่แสดงในรายงาน

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลเบื้องต้นที่เราอยากให้คุณศึกษาให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน  เพราะการลงทุนในตลาดหุ้นนั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อมันเกี่ยวกับเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ในกระเป๋า ย่อมมีผลกับอารมณ์และการตัดสินใจ ซึ่งไม่เหมือนตอนเดาเล่นแน่นอน หากไม่ศึกษาให้ดี อาจจะไม่สามารถเอาชนะตลาดหุ้นได้อย่างที่แพลนเอาไว้ อย่าลืมว่า  “การลงทุนมีความเสี่ยง แต่การไม่ลงทุนมีความเสี่ยงกว่า และจะเสี่ยงที่สุดหากไม่ศึกษาก่อนลงทุน”

ปรึกษาเรื่องการลงทุนได้ที่ SBI Thai Online