Life

‘ตูน BODY SLAM’ UNLOCKMEN OF THE YEAR 2017 ที่สุดของผู้ชายไร้ขอบเขต เต็มที่ทุกศักยภาพ

By: HYENA December 26, 2017

ถือว่าเป็นข่าวดีรับปีใหม่กันเลยทีเดียวสำหรับยอดเงินบริจาคโครงการ ‘ก้าวคนละก้าวเพื่อ’ ที่มียอดทะลุ 1,200 กว่าล้านบาท จากการที่ได้ ‘นาย อาทิวราห์ คงมาลัย’ หรือ ‘ตูน’ นักร้องนำวง ‘BodySlam’ และทีมงานออกวิ่งจากเบตง – แม่สาย จุดใต้สุดไปจุดเหนือสุดของประเทศ รวมระยะทางสุทธิ 2,215.40 กิโลเมตร เพื่อชวนคนไทยร่วมใจกันบริจาคเงินช่วยเหลือโรงพยาบาล 11 แห่ง ทั่วประเทศ​ ซึ่งสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ไปเมื่อวานนี้ โดยโครงการนี้ถือเป็นการทำเพื่อสังคมอย่างแท้จริง

ด้วยการริเริ่มความคิดที่จะเติมเต็มสิ่งสำคัญที่ยังคงขาดแคลน อย่างอุปกรณ์การแพทย์ให้กับชาวไทย  เพื่อที่ทุกพื้นที่ของประเทศไทย และโรงพยาบาลในแต่ภูมิภาคจะได้มีเครื่องมือทางการแพทย์เอาไว้รักษาผู้ป่วยอย่างทั่วถึง และมีประสิทธิภาพมากขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ก็เคยทำไปแล้วครั้งหนึ่งแล้ว  ในชื่อโครงการว่า “ก้าวคนละก้าวเพื่อโรงพยาบาลบางสะพาน” ด้วยระยะทางกว่า 400 กิโล จากจังหวัด กรุงเทพฯ ไปจนถึงจังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งก็สามารถระดมทุนจากคนไทยทั่วประเทศได้ถึง 85 ล้านบาท และนำเงินไปบริจาคให้ได้สำเร็จเช่นกัน

การวิ่งของเขาทั้ง 2 ครั้ง ถือเป็นการวิ่งที่ยิ่งใหญ่ และคงจะไม่มีใครไม่พูดถึงอย่างแน่นอน มันไม่ใช่เพราะเรื่องระยะทางที่ยาวไกล หรือจะเป็นเรื่องยอดบริจาคที่ได้มาว่ามากมายเท่าไหร่ แต่คนจะจดจำการกระทำที่เสียสละด้วยหัวใจอันยิ่งใหญ่ ซึ่งต่อจากนี้ไปในวันข้างหน้า สิ่งที่เขารวมไปถึงทีมงานก้าวคนละก้าวได้ทำเอาไว้ทั้งหมดนี้ จะสามารถช่วยชีวิตคนอีกมากมายทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย

ดังนั้น เราจึงมีความจะตั้งใจขอยกย่องการกระทำที่เปรียบดังวีรบุรุษ และขอชื่นชมจากใจ ในฐานะที่เป็นผู้ชายคนหนึ่ง ที่ลุกขึ้นมาปลดปล่อยศักยภาพตัวเองออกมาอย่างไร้ขีดจำกัด เพื่อสังคมอย่างแท้จริง จึงขอยกให้ ‘ตูน Body Slam’ เป็น UNLOCKMEN OF THE YEAR 2017 ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ชายที่มีศักยภาพรอบด้านอย่างไร้ขอบเขต เต็มที่กับทุกสิ่งที่ทำ อีกทั้งยังทำได้ดีจนประสบความสำเร็จในทุก ๆ อย่างอีกด้วย

วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่า สำหรับ ‘ตูน Body Slam’ ที่เราขอยกให้เป็น UNLOCKMEN OF THE YEAR ในปีนี้นั้น ชีวิตของเขามีเรื่องราวอะไรบ้าง ที่เขาทำมันออกมาได้อย่างมีศักยภาพสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของ การงาน การศึกษา หรือแม้กระทั่งแนวทางการใช้ชีวิต ก็เป็นสิ่งที่ผู้ชายหลายคนน่าเอาเป็นแบบอย่าง แล้วคุณจะรู้ว่าศักยภาพที่แท้จริงของผู้ชายคนนี้นั้น ไม่ได้มีแค่ตอนที่เขาร้องเพลงอยู่บนเวที หรือเพิ่งจะมีก็ตอนที่เขากำลังกลายเป็นกระแสหลังจากที่ออกมาวิ่ง มันไม่ใช่การอวยตามกระแส แต่มันมีอะไรดี ๆ รอบด้านที่ผู้ชายคนนี้ได้ถ่ายทอดออกมาตลอดระยะเวลาที่พวกเราได้รู้จักกับชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า ‘ตูน’ Body Slam มาให้ได้อ่านกัน

STUDY

สิ่งหนึ่งที่ ตูน ได้แสดงศักยภาพออกมา จนทำให้หลายคนที่มีความคิดอคติกับอาชีพนักดนตรีจะต้องเปลี่ยนไป  เพราะหลายคนมักจะปิดกั้น และบั่นทอนเรื่องของความรู้การศึกษาของนักดนตรีลง ถ้าหากใครเป็นนักดนตรี ก็คงจะไม่ค่อยมีการศึกษา หรือไม่ค่อยใส่ใจในเรื่องของการเรียนเท่าไหร่ และในหลาย ๆ ครั้ง นักดนตรียังถูกมองว่า เป็นพวกขี้เหล้าเมายาบ้าปาร์ตี้ ซึ่งเขาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามันไม่จำเป็นเสมอไป

เพราะในด้านของการศึกษานั้น เขาเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนชายล้วนชื่อดังย่านปากคลองตลาด นั่นก็คือ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย อันเป็นโรงเรียนในฝันของเด็กผู้ชายที่ฝักใฝ่ในการศึกษาหลายต่อหลายคน เมื่อจบม.6 แล้ว ก็ยังเข้ารับการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยอันได้ชื่อว่าเป็นเป็นอันดับ 1 ของประเทศอย่าง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในคณะนิติศาสตร์ด้วยคะแนนยอดเยี่ยม และจบออกมาพร้อมกับเกียรตินิยมอันดับ 1 เลยทีเดียว

เรื่องการเรียน สำหรับเด็กคนหนึ่งจะให้ได้ดีอย่างที่พ่อแม่หลายคนอยากจะให้เป็นนั้น บางทีมันอาจจะไม่ใช่ว่าต้องก้มหน้าก้มตาอ่านตำราเรียนอย่างเดียวเสมอไป พ่อแม่บางคนถึงขั้นตีกรอบไม่ยอมให้ลูกทำกิจกรรมเลย แต่เมื่อลองดูสิ่งที่ ตูน ได้ทำมาตลอดช่วงระยะเวลาที่ต้องอยู่ในขอบรั้วของการศึกษา เขาก็ยังเล่นดนตรี มีกิจกรรมมากมายไปพร้อม ๆ กันได้ แล้วก็สามารถทำได้ดีทั้ง 2 อย่างไปพร้อม ๆ กัน อย่างเช่นในครั้งหนึ่ง ที่เขาเข้าร่วมประกวดดนตรีฮ็อตเวฟมิวสิคอววอร์ด เขาก็สามารถคว้าตำแหน่งชนะเลิศในการประกวดครั้งนั้นมาได้สำเร็จ ภายใต้ชื่อ วง ละอ่อน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ สำหรับอาชีพนักดนตรีในเวลานั้น

WORK

เราเชื่อว่า เมื่อย้อนกลับไปในตอนที่ทุกคนได้ยินชื่อวง BodySlam หรือ ได้ยินเสียงร้องของ ตูน ครั้งแรก  คงไม่มีใครรู้ว่า เขาเป็นใคร ชื่ออะไร และมีที่มาอย่างไรอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคนทั่วไปมารู้ทีหลังว่า จริง ๆ แล้ว ตูน BodySlam นั้น เป็นหลานของนักร้องเพื่อชีวิตชื่อดังอย่าง แอ๊ด คาราบาว แต่การที่เป็นหลานของ แอ๊ด คาราบาว ที่ถือว่ารุ่นใหญ่สุด ๆ ในวงการดนตรีบ้านเรา กลับไม่ได้ถูกนำมันมาใช้เพื่อเปิดทาง หรือโฆษณาให้เขากลายเป็นซุปเปอร์สตาร์ในทันทีแบบที่ลูกหลานคนดังคนอื่นเขาทำกัน แต่เลือกที่จะใช้พยายามของตัวเอง ในการทำงานอย่างหนัก สั่งสมประสบการณ์พัฒนาจนกลายเป็นที่ยอมรับในฐานนะศิลปินอันดับหนึ่งของประเทศไทย อย่างที่ไม่มีใครกล้าเถียง

การประสบความสำเร็จสูงสุดในฐานะวงดนตรีอันดับหนึ่งของประเทศไทยในยุคนี้ ไม่ใช่แค่มีฝีมือก็จะเป็นกันได้ แต่มันยังคงเกี่ยวกับเรื่องของความคงเส้นคงวา และการพัฒนาที่ไม่หยุดหย่อนอีกด้วย และแน่นอนว่า การทำงานซึ่งเปรียบเสมือนการเป็นคนของประชาชน และเป็นแบบอย่างให้กับเด็กวัยรุ่นนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

แต่เท่าที่ผ่านมา เขาเป็นศิลปินที่โด่งดังในประเทศไทยคนหนึ่ง ที่เรียกได้ว่า ตั้งแต่เริ่มต้นเข้าวงการมาจนกระทั่งปัจจุบัน ยังไม่มีข่าวในเชิงลบออกมาให้แม้แต่ครั้งเดียว แต่กลายเป็นว่า เขาใช้ผลงาน และการที่ทุกคนรู้จักเขาในฐานะคนดัง มาเป็นแรงขับเคลื่อนในการพัฒนาสังคมให้ก้าวไปข้างหน้าอยู่หลายครั้งหลายหน

ในแง่ของการทำงานก็ยังมีบางอย่างที่หลายคนยังไม่รู้ว่า จริง ๆ แล้ว เขาได้ซ่อนอะไรเซอร์ไพรส์ในด้านของความสามารถที่มีเอาไว้อยู่ด้วย อย่างเช่น ก่อนที่เขาจะก้าวขามาเป็น Rock Star ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในวงการเพลงบ้านเรา เขายังเคยเป็นสจ๊วตของสายการบิน กัมพูชาแอร์ไลน์อยู่ถึง 2 ปี นอกจากนี้ ด้วยศักยภาพของเจ้าตัวที่เรียนจบนิติศาสตร์ และได้รับเกียรตินิยมอันดับหนึ่งจากมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์มานั้น ถ้าหากจะให้หันหน้าเข้าสู่อาชีพสายนักกฎหมาย เราก็เชื่อว่า หนทางที่รออยู่ข้างหน้า เขาก็จะทำได้ดี และมีศักยภาพเช่นเดียวกับทุกสิ่งที่เขาเคยทำมาตลอดอย่างแน่นอน

SPORT

หลายข่าวลือที่ครั้งหนึ่งเคยกลายเป็นที่พูดกันไปต่าง ๆ นา ๆ สำหรับร่างกายของเขาที่ดูซูบผอมลงอย่างถนัดตา ทำให้มีหลายคนตั้งข้อสงสัยว่า มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่นักร้อง Rock Star อย่างเขาจะพึ่งพายาเสพติด แต่ความเป็นจริงเท่าที่รู้มา นักร้องที่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่การงาน ที่ต้องใช้เสียงอยู่ตลอดเวลาอย่างเขานั้น อย่าว่าแต่ยาเลย เพราะเท่าที่รู้มาบุหรี่ก็รู้สึกว่าจะไม่แตะเลยด้วยซ้ำ และเจ้าตัวเองก็ยังเคยออกมาอธิบายอย่างใจเย็นทั้งที่โดนกล่าวหาว่า ที่ร่างกายของตัวเองดู Lean ขึ้นอย่างถนัดตานั้น เป็นเพราะว่า เป็นคนที่เสพติดการออกกำลังกาย และชอบเล่นกีฬา ซึ่งทำให้เอาคนที่บอกว่าเขาเล่นยา ต้องหน้าหงายไปแบบหงอย ๆ

นอกจากจะเป็นคนที่ชื่นชอบการเล่นกีฬาแล้ว ก็ยังเป็นแฟนกีฬาตัวยงที่เวลาว่างมักจะนั่งชมการแข่งขันกีฬาทั้งในบ้านเรา และในต่างประเทศอยู่เป็นประจำ จนกระทั่งใคร ๆ ในประเทศก็รู้ว่า ตูน BodySlam นั้น เป็นแฟนบอลของท็อตแนมฮอตสเปอร์ชนิดที่เข้าเส้นขนาดกรีดแขนเลือดคงหยดลงมาเป็น ไก่กุ๊ก ๆ กันเลยทีเดียว แต่ก็ใช่ว่า เขาจะสนใจแต่กีฬาต่างชาติจนขาดความใสใจในกีฬาบ้านเรา เพราะมีหลายครั้ง ที่เรามักจะเห็นเขาใส่เสื้อนักฟุตบอลทีมชาติไทย ขึ้นเล่นโลดแล่นอยู่บนเวที เพื่อเป็นส่งกำลังใจให้กับนักกีฬาของไทย และเป็นเหมือนการปลุกกระแสให้คนทั่วไป หันกลับมาสนใจฟุตบอลไทยอีกด้วย

นอกจากฟุตบอล และการวิ่งที่เราเห็นกันอยู่ในตอนนี้  เขายังมีความสามารถด้านกีฬาอยู่อีกหนึ่งประเภทที่หาตัวจับได้ยาก และจริงจังถึงขั้นเข้าสมัครลงแข่งขันในระดับประเทศเลยทีเดียว นั่นก็คือ Table Tenis หรือ ปิงปอง นั่นเอง เพราะเท่าที่ผ่านมา ความจริงจังที่ถ่ายทอดออกมาผ่านสีหน้าในเวลาแข่งขัน และความขยันในการฝึกซ้อมทันทีที่มีเวลาว่างจากการทัวร์คอนเสิร์ต ก็จะมาสมัครลงแข่งขันในรายการระดับประเทศอยู่เป็นประจำ

อย่างเช่น รายการเทเบิ้ลเทนนิสชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ที่เข้าได้สมัครเข้าไปถึง 3 ครั้ง ในปี 2554, 2555 และ 2557 ซึ่งในปีสุดท้าย เขายังได้ลงแข่งขันให้กับทีมจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นทีมของจังหวัดบ้านเกิดที่ตัวเองเติบโตมา อย่างตั้งใจเป็นพิเศษ และคงหวังที่จะเอาชัยชนะไปให้เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณในถิ่นกำเนิดอีกด้วยตามสไตล์ความเป็นผู้ชายที่น่ายกย่องคนนี้ เนื่องจากปีนั้นเอง จังหวัดสุพรรณบุรีได้เป็นเจ้าภาพในการจัดงานนั่นเอง

LOVE

ในทุก ๆ ด้านของชีวิตที่เราได้เรียบเรียงมา จะเห็นได้ว่า ทุกการกระทำนั้น ผ่านทั้งกระบวนการคิด พินิจพิจารณาเพื่อให้สิ่งที่ได้ทำลงไปนั้นมีความหมาย และเกิดประโยชน์ที่สุดแทบจะทุกเรื่อง แม้กระทั่งเรื่องส่วนตัว อย่าง ความรัก ก็เช่นกัน เขาเป็นผู้ชายที่น่าเอาเยี่ยงอย่างในเรื่องของการตีค่าของความรักออกมาได้อย่างสุภาพ และสมบูรณ์แบบ

อย่างที่รู้กันดีอยู่ว่า ตูน Body Slam ทำให้ผู้ชายหลาย ๆ คนต้องอิจฉา และทำให้คนที่มองว่า คนดังคบกับดารามันจะไปได้สักแค่ไหน ถ้าไม่ใช่เรื่องของผลประโยชน์ที่ส่วนใหญ่ จะเป็นการเรียกเรตติ้งเพื่อให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้เกาะชายชื่อเสียงพาให้ตัวเองดังขึ้นตาม ๆ กันไปสุดท้ายก็เลิกรา แต่สำหรับการคบหาดูใจกันระหว่างเขา และแฟนสาว ก้อย-รัชวิร วงศ์วิริยะ ซึ่งก็เป็นดาราชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า มันเป็นเรื่องของความรัก ความเข้าใจ ไม่ได้มีประเด็นอื่นใดมาเกี่ยวข้อง ด้วยการแสดงออกอย่างลูกผู้ชายจนกลายเป็นเรื่องราวความรักที่นับวันยิ่งดูจะแน่นแฟ้นตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปี

นอกจากนี้เขายังหักปากกาเซียนมั่วสร้างข่าวโคมลอยทั้งหลาย ที่เอะอะก็มักจะมองว่า ศิลปิน นักร้อง คนดังส่วนใหญ่จะต้องเจ้าชู้เปลี่ยนคู่ไปเรื่อย ด้วยความสุภาพ และให้เกียรติกับผู้หญิงที่ตัวเองเลือกที่จะคบหาดูใจ และอยากจะใช้เวลาทั้งหมดเพื่อศึกษาใครเพียงทีละคน ไม่ใช่รู้สึกว่าตัวเองดังมีสิทธิ์เลือก ก็หว่านแหไป สุดท้ายค่อยมาดูว่า ใครคือคนที่ถูกใจที่สุดแบบที่ผู้ชายบางคนอาจจะทำ

แน่นอนว่า การที่เรามองเห็นใครสักคนที่จะมีศักยภาพในระดับที่เราขอยกให้เป็น UNLOCKMEN OF THE YEAR ได้ คนคนนั้น จะต้องไม่ได้เจ๋งแค่ เรื่อง 2 เรื่อง แต่ต้องเป็นคนที่มีศักยภาพในทุก ๆ ด้าน และสามารถเป็นแบบอย่าง เป็นแรงจูงใจให้กับคนอื่น ๆ ได้ พัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น เรื่องที่ผู้ชายที่หล่อ รวย เก่ง มีดีพร้อมทุกอย่าง ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะยกย่องให้เป็นผู้ชายที่เจ๋งสุด ๆ กับชีวิตสุดวาบหวิวสไตล์เพลย์บอยนั้น เรากลับมองว่า มันไม่ใช่ความถูกต้องถูกหลักอนามันของการใช้ชีวิตแบบไร้ลิมิตในศักยภาพ  มันออกจะดูเป็นการเอาเปรียบ และไม่ให้เกียรติกับผู้หญิงด้วยซ้ำ ถ้าคิดจะเปลี่ยนผู้หญิงบ่อย ๆ ราวกับว่า ผู้หญิงไร้ความรู้สึกเช่น ผัก ปลา

ผู้ชายมากมายในสมัยนี้ มีค่านิยมที่แตกต่างออกไป และมองข้ามเรื่องความสำคัญของแก่นแท้ของความหมายของคำว่า ความรักที่แท้จริง และนั่นอาจจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้ คนรุ่นใหม่ ๆ เขาใจอะไรผิด ๆ จนเราต้องกลับมาย้อนคิดทบทวนดูใหม่ว่า ทำไมโลกสมัยนี้ ถึงได้ยกย่องผู้ชายที่เจ้าชู้เพลย์บอย เปลี่ยนคนควงไม่ซ้ำหน้า มากกว่าผู้ชาย ที่สุภาพรักจริง จะคบใครรักใครก็เลือกที่จะตั้งใจศึกษากันแค่คนเดียว?

นั่นทำให้เราได้เห็นอีกมุมหนึ่งในด้านความรักของ ตูน Body Slam ที่แสดงออกให้เห็นมาตลอดว่า ผู้ชายควรทำสิ่งใดให้กับคนที่ตัวเองรัก และควรที่จะมองความรักเป็นแบบไหน ซึ่งเราเองก็มองว่า ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา มันเป็นองค์ประกอบอย่างหนึ่งที่จะทำให้ผู้ชายคนหนึ่งเป็นผู้ชายที่ที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งแน่นอนว่า ตูน Body Slam  มีสิ่งนี้อยู่ในตัวของเขาอย่างครบถ้วน

ครั้งหนึ่งตูน เคยพูดถึงความรักของเขาเอาไว้กว่า “ผมรู้สึกดีกับก้อย รู้สึกดีที่ได้คุยกัน ได้รู้จักกันมากขึ้น ผมคุยกับเขาก็อยากศึกษาให้เต็มที่แค่คนเดียว ไม่ได้คุยหลายคนแล้วก็เลือก อย่างนั้นไม่เวิร์กแน่ ๆ คุยแค่คนเดียวรู้สึกว่าเราประทับใจ”

สิ่งเหล่านี้ สำหรับผู้ชายที่ถ้าหากว่า มีชื่อเสียง มีทุกอย่างเพรียบพร้อมเท่ากับตูน เราเชื่อว่า คงยากที่ผู้ชายคนไหนจะ สุภาพ จริงใจ และห่วงใยผู้หญิงที่ใช้ชีวิตอยู่ข้างได้อย่างเขาคนนี้  ซึ่งทางฝ่ายของ ก้อย-รัชวิน ก็เคยโพสรูปภาพพร้อมข้อความลงใน Instagram ของตัวเองเกี่ยวกับตูนเอาไว้ด้วยเช่นกันว่า

“เวลามีเพื่อนมาถามว่าพี่ตูนเป็นอย่างไร เราก็เล่าให้ฟังตลอดว่าพี่ตูนเป็นคนดี (หัวเราะ) พี่ตูนมีหลายมุมที่ประทับใจ เขาเป็นผู้ใหญ่มาก เมื่อก่อนเรารู้จักเขาในฐานะพี่ตูน Body Slam แต่พอมารู้จักตัวตนจริงๆ เขาก็คือ ผู้ชายคนหนึ่งที่มีมุมอ่อนไหว สุภาพ สิ่งที่พี่ตูนพิชิตใจเราคือ ความเป็นคนดี พี่ตูนเป็นคนดีคนหนึ่งเลย”

PEOPLE

เราเชื่อว่า ประเทศไทยของเราจะมีวันสิ้นคนดีอย่างที่ใครบางคนเคยว่าไว้ ถ้าต่อไปยังมีคนที่นอกจากนั่งคิดดีแล้ว ยังกล้าที่จะขยับตัวมาลงมือทำความดีแบบจริง ๆ จัง ๆ โดยไม่ต้องรอให้ใครมาขอ หรือรอทำดีเมื่อมีใครเห็นเท่านั้น เช่นการกระทำหลาย ๆ อย่างของเขา ที่เป็นการให้ การทำเพื่อผู้อื่นอย่างจริงใจ โดยไม่ห่วงตัวเองเหมือนที่เขาได้วิ่งด้วยขาทั้ง 2 ข้าง จาก เบตง จังหวัดยะลา ขึ้นไปถึงเหนือสุดของประเทศ แม่สาย จังหวัดเชียงราย มันไม่ง่ายเลยที่ผู้ชายอายุ เกือยจะเข้าใกล้เลข 4 แถม เดิมทีก็มีหน้าที่การงานที่ต้องใช้ร่างกายอย่างหนัก จะทำสิ่ง ๆ นี้ได้  ถ้าเป็นใครคนอื่น ๆ มาออกทีวีแล้วบอกว่า ผมจะวิ่งจากเบตงไปเชียงราย บริจาคให้ผมด้วยนะครับ บางทีเราอาจจะคิดว่า ไอ้นี่โผล่มาพูด ๆ แล้วเดี๋ยวก็คงจะหายไปตามเสต็ป แต่สำหรับแวดตา และสีหน้าของผู้ชายคนนี้ เราเชื่อทันทีว่า เขาจะทำมัน และจะทำมันได้อย่างแน่นอน นั่นคือ ความตั้งใจ และความจริงใจต่อสังคมที่เขาแสดงออกมาให้เราสัมผัสได้

ไม่ว่าจะในฐานะที่เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่เป็นผู้ชายเหมือนกัน หรือว่าจะในฐานะคนไทยที่อาศัยอยู่ในผืนแผ่นดินเดียวกันก็ตาม ตูน Body Slam ถือว่าเป็นอีกหนึ่งคน ที่ทำประโยชน์ต่อส่วนรวม ต่อสังคม และต่ออนาคตของประเทศอยู่เสมอ แม้กระทั่งการที่เขาอยู่บนเวทีคอนเสิร์ต สร้างความสนุกสนามให้กับชาวที่มานับหมื่น ๆ ครั้ง ร่างกายจะต้องสูญเสียพลัง และเสื่อมสภาพไปมากแค่ไหน เราเชื่อว่า เขาจะต้องรู้สึกว่าความเหนื่อยล้ามันหมดไป ถ้าหากเขาทำให้ประชาชนชาวไทยได้มีความสุขอย่างแน่นอน

สังคมที่มีปัญหาของวัยรุ่น อย่างเช่นการตีกัน ที่หลายคนโทษว่า เป็นเพราะเสียงดนตรีในงานคอนเสิร์ตมันเร้าอารมณ์ หรือบางคนอาจจะมองว่า ถ้าไม่มีงานเหล่านี้ พวกวัยรุ่นทั้งหลายก็ไม่มีที่ก่อปัญหา มั่วสุม หรือตีกัน ถ้าหากคุณได้เห็นภาพของชายคนหนึ่งที่ขึ้นเวทีเพื่อที่จะร้องเพลง และทำงานของตัวเอง กลับใช้เวลาพูดออกไมไปสั่งสอนน้อง ๆ ราวกับเป็นพี่ชาย เป็นคนรู้จัก อย่างใจเย็น ทั้ง ๆ ที่ เหตุการณ์แบบนั้น มันอาจจะทำให้คนที่กำลังตั้งใจจะทำงาน หงุดหงิดงุ่นง่านด่ากราดเอาได้ง่าย ๆ ก็มีให้เห็นอยู่บ่อยไป แต่ไม่ใช่ผู้ชายคนนี้อีกเช่นเคย

อย่างที่บอกไปว่า พ่อ แม่ ผู้ปกครองหลายคน เอาเวลาไปโทษหรือกล่าวหาการทำงานซึ่งเป็นอาชีพของนักดรตรีว่า เป็นที่มาของปัญหาวัยรุ่นโดยที่ไม่เคยมีเวลาได้พูด ได้สอน หรือแม้จะทั้งทำความเข้าใจกับลูกหลายตัวเอง กลับปล่อยให้ผู้ชายที่ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียถ้าลูกใครมันจะตีกันตาย แล้วจะปล่อยมันไปก็ได้ ต้องมายืนพูดยืนอบรมแทน อันนี้โดยส่วตัวแล้วผมของมองว่า บางครั้ง ตัวคนที่มีหน้าที่อบรม สั่งสอนเองมากกว่า ที่ขาดความใส่ใจ และไม่รู้จักอบรมสั่งสอน จะกระทั่งปล่อยให้ลูกหลานของตัวเอง ไปก่อเรื่องก่อราวน่ารำคาญในสถานที่สาธารณะ แถมยังเป็นการไม่ให้เกียรติผู้ที่กำลังนำเอาผลงานมาแสดงอยู่บนเวทีอย่างน่าทุเรศด้วยซ้ำ

ทั้ง ๆ ที่ ศิลปินเหล่านั้น ตั้งใจมามอบความสุขให้กับคนดูโดยแท้ แต่กลับมาเป็นแพะจากข้อกล่าวหาของผู้ปกครองบางคนที่ไร้ประสิทธิภาพในการอบรมลูกหลานตัวเอง  นี่ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่ง ที่อยากจะบอกเอาไว้ให้หลาย ๆ คนได้รับรู้เช่นกันว่า บางครั้ง การทำงานของใครบางคน อย่าง ตูน BodySlam เอง ในทุก ๆ วัน ก็เหมือนกับเป็นการช่วยเหลือสังคมอยู่แล้วในอีกรูปแบบหนึ่ง ดังนั้น จงเห็นในสิ่งที่เขาตั้งใจทำความดีจะดีกว่า ไม่มีใครคนไหนที่ยิ้มได้ และคงต้องรู้สึกเสียใจอยู่ลึก ๆ ภายในอย่างแน่นอน ถ้าหากว่า ลุกขึ้นมาทำความดีโดยที่ไม่ได้หวังอะไร นอกจากให้คนรอบข้างมีสิ่งที่ดีข้ึน ต้องมาโดนกล่าวหา ด่าทอต่อว่า จากคนที่ไม่คิดจะแก้ไข และเอาแต่ตำหนิแต่ไม่สนใจที่จะทำอะไรสักอย่าง

สุดท้าย ความสุภาพ อ่อนโยน และการทำตัวติดดินเหมือนเช่น คนธรรมดาทั่วไปไม่ได้เป็นศิลปินเบอร์ใหญ่ของค่ายดังใจกลางเมืองหลวงที่เราเห็นในทีวี นั่นคือ สิ่งที่หลาย ๆ คนประทับใจ เพราะไม่ว่าจะเจอผู้ชายคนนี้ที่ไหน จะมีกล้องถ่ายไว้หรือไม่ เขาก็ยังคงเป็นสุภาพ และไม่ถือตัวอยู่ตลอดเวลา ไม่แปลกใจที่ทำไมคนถึงชอบเขา และผลงานของเขา เพราะสิ่งที่ผู้ชายคนนี้ถ่ายทอดออกมาให้คนรอบข้างตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้น ถูกคัดกรองออกมาให้เหลือแต่สิ่งที่ดีที่สุดอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นงานเพลงของ Body Slam เองก็ตาม เราจะเห็นได้ว่า เพลงส่วนใหญ่นั้น จะเป็นการแฝงเอาไว้ด้วยปรัชญาชีวิต การใช้ชีวิตอย่างมีความหวัง หรือไม่ก็เป็นเพลงที่ช่วยเติมพลังให้กับคนฟังได้ก้าวไปข้างหน้า

ดังนั้น ก้าวคนละก้าว ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ผู้ชายคนนี้ พาคนไทยทั้งประเทศก้าวเดินไปข้างหน้า แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่าน เขาได้ก้าวเท้าพาคนไทยเป็นจำนวนมากไปในทางที่ดีมาไกลเกินกว่าจะวัดเป็นระยะทางอย่าง เบตง-แม่สาย ไปแล้ว ถ้าคุณคิดว่านี่คือ เรื่องมหัศจรรย์ที่ผู้ชายคนหนึ่งสามารถวิ่งได้ไกลขนาดนี้ เราอยากให้คุณมองให้ดี ๆ ว่า จริง ๆ แล้ว เขาพาพวกเราคนไทยวิ่งไปข้างหน้ามาตลอดอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่แค่เพิ่งจะมาทำตอนนี้

เราถึงได้เชื่อตั้งแต่ทีแรกว่าเขาสามารถจะวิ่งจากใต้สุดยันเหนือสุดของประเทศ ได้ทันทีอย่างไม่มีข้อสงสัย นี่คือ ศักยภาพของผู้ชายที่เราขอยกย่อง และให้เกียรติเป็น UNLOCKMEN OF THE YEAR 2017 และเป็น UNLOCKMEN OF THE YEAR คนแรกตั้งแต่มี UNLOCKMEN มา พวกเราทีมงาน ขอขอบคุณ และเป็นกำลังใจให้กับพี่ พาคนไทยก้าวไปข้างหน้าต่อไป ถึงแม้จะเหนื่อยพวกเราก็ขอเป็นกำลังใจให้กับพี่ตูนครับ

 

HYENA
WRITER: HYENA
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line