CARS

บุกแดนอาทิตย์อุทัย สัมผัสวัฒนธรรมร่วมสมัย สะท้อนปรัชญาการพัฒนารถไฮบริด เพื่อวิถีชีวิตแห่งอนาคต

By: NTman February 12, 2018

เมื่อเอ่ยถึงคำว่า ‘เทคโนโลยี’ ทุกคนจะนึกถึงความล้ำสมัย มองไกลไปถึงภาพของอนาคต แต่จริง ๆ แล้วเทคโนโลยีจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่มีการนำเอาพื้นฐานองค์ความรู้ ความเป็นอยู่ รวมถึงวัฒนธรรมดั้งเดิมของมนุษย์ มาต่อยอดพัฒนาเพื่อให้ได้เทคโนโลยีซึ่งช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ตอบสนองความต้องการที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตแห่งอนาคต

อีกสิ่งหนึ่งที่เชื่อว่าหลายคนมักจะคิดถึงเป็นอันดับต้น ๆ เมื่อพูดถึงเทคโนโลยี นั่นคือก็ประเทศญี่ปุ่น ด้วยภาพลักษณ์ของประเทศล้ำสมัย เป็นต้นกำเนิดของเทคโนโลยีมากมายที่เราได้ใช้กันในชีวิตประจำวัน และที่มีเสน่ห์ไปกว่านั้นคือ ภายใต้ความล้ำของประเทศญี่ปุ่น ยังดำรงไว้ซึ่งความสวยงามของวัฒนธรรมดั้งเดิมได้อย่างกลมกลืน และแนวทางการผสมผสานความล้ำหน้า ให้กลมกลืนกับรูปแบบวิถีชีวิตที่ถูกส่งต่อกันมาอย่างยาวนาน ยังถูกใช้เป็นปรัชญาหลักในการสร้างสรรค์พัฒนาเทคโนโลยีของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

และถือเป็นโอกาสดีมาก ๆ ที่ TOYOTA ได้พาเราบินไปสัมผัสกับความน่าสนใจ ของปรัชญาการพัฒนาเทคโนโลยีสไตล์ญี่ปุ่นแบบถึงแก่น กับแนวคิดการพัฒนาเทคโนโลยีของ TOYOTA ที่นำเอาวิวัฒนาการของวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม มาผสานวัฒนธรรมตะวันตกได้อย่างลงตัว

ซึ่งแกนหลักของแนวคิดอันลึกซึ้งนี้อาจจะฟังดูเหมือนเป็นศาสตร์ที่ยากจะเข้าใจ จนแอบกังวลว่าทริปนี้จะเป็นทริปความรู้ชวนง่วงหรือเปล่า แต่เอาเข้าจริงเรากลับเข้าถึง และเข้าใจมันได้ง่ายกว่าที่คิด ต้องยกเครดิตให้กับวิธีการนำเสนอที่แปลกใหม่ ซึ่ง TOYOTA ถ่ายทอดออกมาผ่าน 5 ประสบการณ์การเรียนรู้เชิงวัฒนธรรมร่วมสมัย สะท้อนเรื่องราวของเทคโนโลยีไฮบริดที่ถูกพัฒนาขึ้นมาได้เป็นอย่างดี จนเราอดไม่ได้ที่จะเอามาถ่ายทอดให้ชาว UNLOCKMEN ได้ซึมซับไปด้วยกัน ไม่แน่ว่าวันหนึ่งอาจจะได้เอาหลักคิดในการพัฒนาเหล่านี้มาต่อยอดสร้างสรรค์สิ่งที่น่าสนใจขึ้นมาจากแนวคิดเหล่านี้ได้

 

Calligraphy Experience

ประสบการณ์การเขียนตัวอักษรด้วยพู่กัน


หลังจากก้าวเท้าลงสู่แดนปลาดิบ ประสบการณ์แรกที่เราได้สัมผัสคือการเขียนตัวหนังสือด้วยพู่กันแบบญี่ปุ่น ซึ่งเป็นศิลปะชั้นสูงและดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่นที่หาได้ยากในปัจจุบัน โดยศิลปะการเขียนพู่กันนั้น มีการเรียนการสอน และถูกฝึกฝนกันมาตั้งแต่ยังเด็ก ทุกการตวัดลายเส้นคือความละเอียดอ่อน ผู้เขียนต้องใส่ใจทั้งการจับพู่กัน น้ำหนักในการกด องศาในการเขียน รวมถึงสมาธิที่แน่วแน่

ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วเป็นส่วนประกอบสำคัญ ในการสร้างสรรค์ตัวอักษรเพียงหนึ่งคำ ให้มีความหมายที่สมบูรณ์ และทุก ๆ การฝึกฝนจนเกิดความชำนาญ มันคือการนำไปสู่พัฒนาการที่ดีขึ้น จนได้เป็นชิ้นงานระดับ Masterpiece ทำให้ศาสตร์แขนงนี้เปรียบเสมือนตัวแทนของความตั้งใจ ความมุ่งมั่น และความอดทนในการฝึกฝนอย่างยาวนาน สะท้อนถึงการมุ่งพัฒนาอย่างต่อเนื่อง 

ซึ่ง TOYOTA เองก็เชื่อมั่น และเข้าใจในปรัชญานี้อย่างถ่องแท้ และได้นำมาใช้เป็นหัวใจหลักของการพัฒนารถยนต์มาอย่างยาวนาน โดยเรียกปรัชญานี้ว่า ‘ไคเซน’ (Kaizen) ซึ่งหมายถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้งเพื่อสิ่งที่ดีกว่า ด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียดของการพัฒนาเทคโนโลยีทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคิดริเริ่ม จนถึงการส่งมอบสู่มือผู้บริโภค เพื่อให้แน่ใจว่าผู้บริโภคจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดอยู่เสมอ

โดยภายในกิจกรรมเวิร์คช็อป พวกเรามีโอกาสสวมวิญญาณนักเขียนพู่กัน ทดลองเขียนคำว่า 和 ‘วะ’ ซึ่งแปลว่า ‘ความลงตัว’ สื่อถึงการผสมผสานสิ่งต่าง ๆ อย่างลงตัว เหมือนกับเทคโนโลยีไฮบริดที่ประสานการทำงานของเครื่องยนต์สันดาปกับพลังงานไฟฟ้าได้อย่างลงตัว ทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดนั่นเอง

นอกจากเรื่องราวของเทคโนโลยี จุดเด่นเรื่องคุณภาพและความประณีต คืออีกสัญลักษณ์ของความเป็นญี่ปุ่น แม้กระทั่งเครื่องแต่งกายอย่างชุดกิโมโน ชุดประจำชาติของประเทศญี่ปุ่นที่มีประวัติอย่างยาวนาน เป็นตัวแทนความภาคภูมิใจของชาวญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี ด้วยหัวใจสำคัญในการตัดเย็บและการออกแบบลวดลาย ที่ต้องอาศัยทักษะชั้นสูง ผสานกับความประณีตในการลงรายละเอียด เพื่อให้ได้ชุดกิโมโนที่มีคุณภาพและสวยงามทั้งผืน

จวบจนถึงปัจจุบันการที่เราได้ลองสวมชุดกิโมโนแบบแท้ ๆ จากช่างฝีมือชาวญี่ปุ่นนั้น ทำให้รู้เลยว่าแม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไป แต่ชุดกิโมโนก็ยังคงไม่ละทิ้งอัตลักษณ์ดั้งเดิม คงไว้ซึ่งคุณภาพในการตัดเย็บด้วยมือและความประณีตของลวดลาย แต่ในขณะเดียวกัน ก็ได้พัฒนาเทคนิคการตัดเย็บแบบใหม่ ๆ อีกทั้งยังเลือกใช้วัสดุที่เหมาะกับการสวมใส่ทุกสภาพอากาศ จนทำให้เครื่องแต่งกายจากอดีตอย่างกิโมโนได้กลายเป็นของขวัญพิเศษเชิงสัญลักษณ์แห่งการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น

และนั่นคือแรงบัลดาลใจ ที่ทำให้ TOYOTA ยังคงเน้นความประณีตในทุกรายละเอียดการผลิตและออกแบบรถยนต์ รวมไปถึงการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ให้มีคุณภาพและเสถียรภาพสูง อีกทั้งยังคงทนต่อการใช้งานที่หลากหลายในระยะยาว ผลคือ ความมั่นใจและความน่าเชื่อถือของรถยนต์และเทคโนโลยีของ TOYOTA ซึ่งเป็นจุดเด่นสำคัญที่ TOYOTA ยังคงสืบทอดกันมาอย่างยาวนานและยังคงพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ตามยุคสมัยเช่นกัน

 

Tea Ceremony & Tea Blend Experience

ประสบการณ์การร่วมพิธีชงชาและการผสมชาแบบญี่ปุ่น

มาถึงญี่ปุ่นต้องดื่มชาแบบต้นตำรับ สำหรับกิจกรรมคัดเลือกชา, ผสมใบชา และพิธีชงชา มีไฮไลท์สำคัญคือ การเปิดประสบการณ์ชา ที่เป็นการผสมผสานใบชาชนิดต่างๆ ทั้ง เซนฉะ’ (Sencha), ‘คาบุเซนฉะ’ (Kabusencha) และ ‘เกียวคุโระ’ (Gyokuro) ซึ่งเป็นใบชาคุณภาพดีที่สุด และเป็นใบชาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของชาวญี่ปุ่น ซึ่งครั้งนี้เราได้ลองดื่มชาทั้งแบบแยกใบชา แบบที่ผสมใบชาแล้ว และยังได้ลองผสมใบชาที่เป็นสูตรเฉพาะของตัวเอง เพื่อนำกลับมาเป็นที่ระลึกอีกด้วย

การดื่มชาที่นี่ไม่ใช่แค่เทแล้วดื่ม เราต้องผ่านพิธีชงชาที่ถูกต้องก่อน ซึ่งเป็นพิธีที่สื่อถึงสุนทรียศาสตร์ของชาวญี่ปุ่น เดิมทีนั้นเป็นพิธีสำหรับชนชั้นสูง  มีอุปกรณ์มากมาย และขั้นตอนอันซับซ้อน ซึ่งจะเกิดขึ้นภายในห้องพิธีชงชาเท่านั้น แต่ในปัจจุบันได้ถูกลดทอนขั้นตอน พิธีการ และสถานที่ออกไป เพื่อความสะดวก และเหมาะสมกับที่อยู่อาศัยของชาวญี่ปุ่นในยุคปัจจุบัน แต่ความงดงามและหลักการดั้งเดิมอันทรงคุณค่า ก็ยังคงถูกเก็บรักษาเอาไว้ ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น สะท้อนให้เห็นถึงแนวคิด และวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นที่มีมาแต่โบราณ

แม้เวลาจะผ่านล่วงเลยมานานแล้ว วิถีชีวิตนี้ยังคงสืบสานมาอย่างต่อเนื่องไม่สูญหายไป เพราะมีการประยุกต์ใช้และพัฒนาให้เข้ากับวิถีชีวิตในโลกปัจจุบันอย่างลงตัว

ซึ่งกิจกรรมนี้ได้ตอกย้ำสิ่งที่ TOYOTA ต้องการนำเสนอ นั่นคือเทคโนโลยีไฮบริด ที่สืบทอดแนวคิดและพัฒนามาจนถึงรุ่นที่ 4 ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นบนแนวคิดดั้งเดิมของ TOYOTA ด้วยความเชื่อมั่นว่า การประสานกัน ย่อมจะทำให้เกิดสิ่งที่ดีกว่า และกำเนิดคุณค่าใหม่ที่ผู้บริโภคตื่นเต้นอยู่เสมอ เช่นการพัฒนาแบตเตอรี่จนมีขนาดเล็กลง ทำให้มีพื้นที่ในห้องโดยสารเพิ่มมากขึ้น

อีกทั้งยังพิถีพิถันในการเลือกสรรวัสดุอุปกรณ์ที่มีคุณภาพที่ดีสุด ดั่งเช่นการคัดเลือกใบชา การผลิตและประกอบที่พิถีพิถัน เหมือนพิธีการชงชา จนถึงการออกแบบรถยนต์ที่สวยงาม เหมือนกับลวดลายที่สวยงามบนถ้วยชา และยังคงให้ประสิทธิภาพความประหยัดเชื้อเพลิงที่เหนือกว่า เหมือนกับรสชาติของชาที่เข็มข้น กลมกล่อม สรุปได้ง่าย ๆ ว่าพลังงานที่เกิดขี้นจากการผสานกันของเทคโนโลยีไฮบริดของ TOYOTA ไม่เพียงแต่ขับเคลื่อนรถยนต์ให้มีประสิทธิภาพ แต่ยังให้ความสุนทรียทุกการขับขี่และให้คุณค่าใหม่กับชีวิตอีกด้วย

 

Fusion Food Experience

ประสบการณ์การอาหารสไตล์ฟิวชั่นไฮบริด

ตลอดทั้งทริปนี้ TOYOTA ตั้งใจเลือกร้านอาหารที่เข้ากับการนำเสนอเทคโนโลยีไฮบริด ผ่านการเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย สิ่งที่เราเห็นได้ชัดคือวัฒนธรรมผ่านอาหารที่มีความแตกต่างของวัฒนธรรมกันอย่างสุดขั้ว กับอาหารประเภทฟิวชั่น ที่ผสมผสานความกลมกลืนของวัฒนธรรมอาหารตะวันออกแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น กับวัฒนธรรมอาหารตะวันตกหลากหลายสัญชาติได้อย่างน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นอาหารสไตล์อิตาเลี่ยนกับญี่ปุ่นที่ร้าน โซโด ฮิงาชิยามะ (Sodoh Higashiyama) ณ เมืองโอซาก้า หรืออาหารสไตล์ฝรั่งเศสกับญี่ปุ่น ที่ร้าน ฟอร์จูน การ์เดน เกียวโต (Fortune Garden Kyoto) ณ เมืองเกียวโต

แต่มื้อทีเด็ดที่สุดในใจเราก็คือ เมนูอาหารสไตล์ฝรั่งเศสร่วมสมัย ผสานความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมเอาไว้อย่างลงตัว ที่ร้าน ฟุกุจุเอน เกียวโต ฮอนเตน (Fukujuen Kyoto Honten) ณ เมืองเกียวโต เปรียบได้กับเทคโนโลยีไฮบริดใหม่ของ TOYOTA ที่ผสานการทำงานของทั้งระบบเครื่องยนต์และระบบพลังงานไฟฟ้าได้อย่างลงตัว เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในนวัตกรรมเปลี่ยนโลก ซึ่ง TOYOTA  มีความภาคภูมิใจที่ได้สร้างคุณค่าเป็นมาตรฐานใหม่ ยกระดับคุณภาพชีวิต และเพิ่มทางเลือกการใช้พลังงานที่ยั่งยืนมาถึงปัจจุบัน

 

Modern Japanese Garden

ประสบการณ์ชมสวนญี่ปุ่นร่วมสมัย

ประสบการณ์สุดท้ายในทริปนี้ ยังคงถ่ายทอดหลักคิดเพื่อนำเสนอไอเดียโครงสร้างพื้นฐานรถยนต์ใหม่ TNGA (Toyota New Global Architecture) นวัตกรรมที่ช่วยประสิทธิภาพการขับขี่ในทุกสถานการณ์ให้ดีขึ้นไปอีกระดับ เหมือนอุปนิสัยของชาวญี่ปุ่นที่ต้องการพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง และมองว่าเทคโนโลยีใหม่ๆ เป็นโอกาสสำคัญ ที่สามารถนำมาผสมผสานเพื่อวิวัฒนาการก้าวข้ามผ่านยุคสมัย แต่สิ่งสำคัญคือเทคโนโลยีที่นำมาใช้นั้น ยังต้องสอดคล้องกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของผู้คนอย่างลงตัว เหมือนสวนของวัดโคไดอิจิ (Kodaiji Temple) ที่เราได้แวะไปเยี่ยมชมความงดงามซึ่งถูกวิวัฒนาการด้วยเทคโนโลยีการฉายภาพ Projection Mapping การยิงไฟเพื่อความงามของธรรมชาติให้โดดเด่นยิ่งขึ้นในเวลากลางคืน และสามารถเล่าเรื่องได้เหมือนกับสวนนี้มีชีวิต

ทำให้สวนของวัดโคไดอิจิ จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงสัญลักษณ์สำคัญของเมืองเกียวโตที่มีทั้งความสวยงามของธรรมชาติ และความน่าสนใจของเทคโนโลยีผสานอยู่ด้วยกันอย่างลงตัว ซึ่งดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกและได้รับความนิยมจากหนุ่มสาวญี่ปุ่นสมัยใหม่เป็นอย่างมาก

จะเห็นว่าแนวคิดของ TOYOTA มุ่งพัฒนาทางด้านดีไซน์ผสานกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ อยู่เสมอ การพัฒนาเทคโนโลยีที่ให้ประสิทธิภาพอันสูงสุด พร้อมส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมไว้ด้วยกัน ถ่ายทอดผ่านเทคโนโลยีระบบไฮบริดใหม่ และโครงสร้างพื้นฐานใหม่ TNGA (Toyota New Global Architecture) และเมื่อทั้งสองเทคโนโลยีประสานการทำงานเป็นหนึ่งเดียวแล้ว รถยนต์ใหม่จาก TOYOTA จะสามารถให้สมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมและความประหยัดเชื้อเพลิงที่ยิ่งกว่าที่เคยมีมาในอดีต

 

 

นอกจากประสบการณ์ทั้ง 5 ที่น่าประทับใจ และให้แนวคิดดี ๆ เกี่ยวกับการพัฒนา เรายังได้สัมผัสสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์สุดพิเศษ กับการได้ทดลองโดยสาร TOYOTA C-HR Hybrid ผลผลิตจากปรัชญาการพัฒนาที่ TOYOTA ภูมิใจ ได้เข้าถึงอีกขั้นของมาตรฐานความปลอดภัยและความคล่องตัวในการขับขี่จากตัวถัง TNGA และสุดยอดสมรรถนะของเทคโลยีเครื่องยนต์ไฮบริดเจเนอเรชั่นใหม่ (New Hybrid 4th Gen.)

ซึ่งเราบอกได้เลยว่า TOYOTA C-HR Hybrid คือรถยนต์ที่สะท้อนภาพและทิศทางของ TOYOTA ยุคใหม่ได้ดีที่สุด นำเสนอการผสมผสานของแนวคิดดั้งเดิมของ TOYOTA เข้ากับการออกแบบและเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คนยุคใหม่ซึ่งมีวีถีชีวิตหลากหลายได้เป็นอย่างดี

 

NTman
WRITER: NTman
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line