APPS

Toys For Boys: “DJI Spark” โดรนตัวจิ๋ว ราคายั่วใจ แต่จะคุ้มหรือไม่? เรามีคำตอบ

By: myfifthday July 5, 2017

ก่อนหน้านี้เราเคยพูดถึงการเปิดตัวของโดรน Spark จาก Dji ที่ตัวจิ๋วคุณภาพเจ๋งกันไปแล้ว กับคุณสมบัติที่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังเริ่มมองหาโดรนสักตัวไว้พกพาในราคาเอื้อมถึงและฟังก์ชั่นการใช้งานที่เจ๋งไม่เหมือนใคร แต่ก่อนที่ทุกคนจะเสียเงินชื้อ ก็คงเกิดคำถามว่า “แล้วมันทนทานขนาดไหน คุ้มค่าที่จะเสียเงินชื้อหรือเปล่า?”

UNLOCKMEN จะพาไปไขข้อข้องใจต่าง ๆ จากการใช้งานจริงของทีมงานที่ได้ลองสัมผัสอย่างจริงจังตลอด 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา

ครั้งนี้เราจะไม่เรียกว่าเป็นการรีวิว แต่เป็นการแนะนำประสบการณ์ทดลองใช้กันมากกว่า เพื่อจะได้ตอบคำถามว่ามันคุ้มค่าเหมาะที่จะชื้อขนาดไหน วัดข้อดีข้อด้อยชัด ๆ กันไปเลย

UNBOX ชุดเริ่มต้นที่ 20,000 บาท

ราคาเปิดตัวเริ่มต้นที่ต่างประเทศอยู่ที่ $499 (17,000บาท) แต่เข้าบ้านเราแพงขึ้นประมาณ 3 พันบาท หลายคนอาจต้องโห่ร้องกันแล้ว ว่าทำไมถึงบวกขึ้นเยอะขนาดนี้

แต่ก็อย่าลืมว่ามีค่านำเข้า พร้อมกับค่าคุ้มครองประกัน 1 ปีด้วย คงเป็นจำนวนเงินแทนสัดส่วนความคุ้มครองกันพอดี เพราะงั้นเลิกคิดเรื่องแพงกว่าต่างประเทศได้เลย

ชุดนี้ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง

คู่มือ X 3
ปลั้กชาร์จ X 1
สาย USB X 1
แบตเตอรี่ X 1
ใบพัด X 6 (ใช้จริง 4 สำรอง 2)
ตัวเครื่อง Spark X1
กล่องใส่ X 1

เป็นชุดเริ่มต้นที่ให้อุปกรณ์มาเหมาะสมกับการใช้งานปกติ โดยเฉพาะตัวกล่องที่ทำมาจากวัสดุที่คล้ายกับโฟมแข็ง สามารถใส่อุปกรณ์ด้านใน เช่น ใบพัดสำรอง, แบตเตอรี่เพิ่มได้อีก 1-2 ก้อน และสามารถพกพากล่องตัวนี้ใส่กระเป๋าได้ ไม่หนักหรือใหญ่เกินไป ประหยัดค่าชื้อกล่องใส่แยกได้สบาย

สเป็คตัวเครื่องกับการใช้งานจริง

หลายคนอาจรู้สเป็คตัว Spark กันอยู่แล้ว เช่น กล้องไซส์เล็ก เซ็นเซอร์ CMOS ขนาด 1/2.3″ ที่มีขนาดใหญ่กว่าเซ็นเซอร์ iPhone 7 ซะอีก และขนาดเลนส์ 25 มิลลิเมตร รูรับแสง f/2.6 รองรับการบันทึกภาพวิดีโอในแบบ 1080p และภาพนิ่งในขนาด 12 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับมอเตอร์กิมบอลแบบสองแกน (2-axis)

จากที่ UNLOCKMEN ลองใช้งานแล้ว คุณภาพของไฟล์ภาพถ่ายถือว่าอยู่ในเกณฑ์ทั่วไปไม่ได้แย่แม้ตัวกล้องจะเล็ก แต่ในขณะที่วิดีโอกลับดีงามด้วยคุณภาพระดับ FullHD 1080p และตัวกันสั่นที่ต้องยอมรับเลยว่ามีคุณภาพ เพราะเราลองถือตัวโดรนเดินถ่าย พบว่านิ่งมือมาก สมกับกันสั่นสองแกนจริง ๆ

ความทนทานในการบิน

ส่วนหนึ่งคือ Spark เคลมตัวเองว่าสามารถทานต่อกระแสลมในระดับ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ แต่เท่าที่เราลองในเมืองพบว่าแค่ลมระดับประมาณใบไม้ปลิว โดรนก็มีอาการเอียง ไม่นิ่งขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ตัววิดีโอและภาพนิ่งที่ออกมากกลับนิ่ง

ถ้าพูดถึงตัวเครื่อง สำหรับใครที่ชื้อชุดเริ่มต้นอาจต้องระวังกันหน่อย เพราะไม่มีตัวกันกระแทกมาให้ในชุด ทำให้ระหว่างที่เราบินทดสอบไป มีการเกิดข้อผิดพลาด (ร่วง) แล้วพบว่าตัวฐานรอบใบพัดทั้ง 4 จุดยังไม่แข็งแรงมากนัก เป็นเหมือนพลาสติกแบบแข็ง ๆ เท่านั้น ทางที่ดีควรใส่ตัวกันกระแทกใบพัดด้วยครับ อันนี้แนะนำมาก เพราะคงไม่มีใครอยากให้โดรนลูกรักเป็นรอยแน่ ๆ

การใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ

ความสามารถที่ตอนเปิดตัวนำเสนอไปมากมาย เช่นสามารถบินแบบติดตามตัวบุคคลหรือวัตถุได้ สามารถสั่งให้โดรนบินกลับมาได้เมื่อเจออุปสรรคข้างหน้า รวมถึงมีโหมดป้องกันเครื่อง เพื่อให้การทำการบินของเครื่องนั้นปลอดภัยจากวัตถุแปลกปลอมมากขึ้น

ส่วนนี้ต้องยอมรับในเรื่องระบบเซ็นเซอร์ระดับหนึ่ง ทั้งการหมุนตัว เดินไปไหน ตัวโดรนทำหน้าที่ในการบินติดตามได้เป็นอย่างดี และยังคอยเตือนทั้งหน้าจอที่เชื่อมต่ออยู่และเสียงเตือนจากตัวโดรนเอง เมื่อใกล้กับวัตถุที่เสี่ยงต่อการชน

การใช้งานฟังก์ชั่นใหม่ที่มีเฉพาะ “Spark” คือแม้ไม่มีรีโมทก็ไม่ใช่ปัญหาในการใช้ เพราะว่ารองรับระบบการสั่งงานด้วย “มือ” ของผู้ใช้งาน แค่เพียงหยิบออกจากกระเป๋า กดปุ่ม 2 ครั้ง โดรนก็พร้อมบินใช้งานแล้ว

การทำงานตัวโดรนจะทำการจับภาพใบหน้าของคนสั่งการก่อนทำงานบิน และจะรับคำสั่งงานจากมือของคนเดียวเท่านั้น ตรงนี้เท่าที่ลองแล้ว พบว่าความยากของมันคือระยะตำแหน่งของการใช้คำสั่งมือ ที่บางครั้งอาจไม่ติด แต่ความเจ๋งก็คือมันเป็นของเราคนเดียว ไม่รับคำสั่งคนอื่นนี้แหละ เพราะให้คนอื่นลองมาอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน Spark ก็ไม่สนใจ แต่กลับหันหน้า (กล้อง) มาหาเจ้าของคำสั่งคนเดียว

พูดถึงจุดเด่น ๆ จากที่ลองใช้งานกันไปแล้ว เรามาพูดถึงข้อดีข้อเสียเป็นข้อ ๆ เลยดีกว่า

ข้อดีช่วยให้น่าชื้อ

  1. ขนาดเล็ก น้ำหนักเบามาก พกพาไปไหนก็สะดวก
  2. ถ่ายรูปง่าย ใช้งานได้ทันที ไม่ต้อง Set-up อะไรให้วุ่นวาย
  3. ไปเที่ยวไหนคนเดียวก็มีรูป, วิดีโอ ได้ไม่ต้องง้อใคร ด้วยการถ่าย Selfie หรือระบบบินตามติดเราได้อย่างสะดวกและฉลาด ได้ภาพแน่นอน
  4. ชาร์จแบตฯ ได้เหมือนสมาร์ทโฟน ทุกที่ทุกเวลา แม้แต่ผ่าน Power Bank ก็ทำได้
  5. ดูไม่น่ากลัว เป็นมิตรกับคนใช้และคนอื่นที่เห็น ยิ่งท่าทางการสั่งงานด้วยมือเจ๋ง จนคนอื่นสนใจเลยแหละ

ข้อเสียที่เห็นได้ชัดเจนสุด

  1. แบตเตอรี่อยู่ได้น้อยกว่าที่คิด ตอนแรกคิดว่า 15 นาทีโดยประมาณ แต่เท่าที่ลองและจับเวลาได้แค่ประมาณ 11+- นาทีเท่านั้น และการชาร์จแต่ละครั้งใช้เวลานานถึง 40 นาที อาจต้องมีแบตสำรองมากกว่าคนละ 1 ก้อน
  2. ต่อเนื่องจากข้อข้างบนคือไม่ควรจะเล่นในระยะที่ไกลมาก เพราะว่าบินได้ไม่นาน อาจทำให้ไปลงฉุกเฉินในที่ไม่เป็นที่
  3. มือใหม่ควบคุมยากพอสมควร ตอนแรกเราคิดว่าการสามารถสั่งการได้เลยไม่ต้องใช้รีโมทจะช่วยให้ง่ายขึ้น แต่กลายเป็นว่า (ควรจะ) ต่อไว้กับสมาร์ทโฟน หรือรีโมทไว้อยู่ดี
  4. ไม่ทนทานและไม่เหมาะกับการใช้ Indoor เลย เพราะว่าอย่างชุดเริ่มต้นไม่มีตัวกันกระแทกมาให้มีสิทธิ์ที่ตัวใบพัดจะไปตีกับกำแพง หรือวัตถุใกล้เคียงจนพังได้
  5. อุปกรณ์เสริมขายแยก ถ้าเป็นชุดใหญ่จะราคาเพิ่มขึ้นเกือบหมื่น แต่ก็ได้ของเยอะขึ้นเช่นกระเป๋า แท่นชาร์จ แบตเตอรี่สำรอง ตัวกันกระแทกครอบใบพัด

แล้วสรุปน่าชื้อหรือเปล่า ?

สำหรับคนที่เคยเล่นโดรนอยู่แล้ว อาจรู้สึกปกติ เฉย ๆ หรือถ้าคาดหวังมากไปอาจผิดหวังได้ครับ เพราะมันไม่ถึงขั้นเอาไปถ่ายรับงานอะไรได้ขนาดนั้น มันเหมาะกับการถ่าย Selfie และการพกพาไปไหนมาไหนได้แบบสะดวกเป็นหลักมากกว่า

แต่สำหรับคนที่ไม่เคยมีโดรนเลย และกำลังมองหาโดรนสักตัว Spark นับเป็นโดรนขนาดตัวเล็กที่ค่อนข้างตอบโจทย์ที่สุดในตลาดโดรนตอนนี้ ทั้งด้านฟังก์ชั่นและราคา ไม่ว่าจะเอามาหัดเล่นก่อนไปตัวใหญ่ หรือว่าเป็นสายเน้นเที่ยว ไม่ชอบพกพาอะไรให้ลำบาก Spark ก็ช่วยให้ได้ภาพมุมมองเจ๋ง ๆ เมื่อเทียบกับราคาต้องยอมรับว่าราคาสูงสักหน่อย เพราะ 20,000 บาท แต่ก็ทำงานได้สมตัว จึงเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลย ลองดูจากวิดีโอด้านล่างของเราได้เลยครับ

myfifthday
WRITER: myfifthday
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line