Toys For Boys : MacBook Air M2 การประกอบร่างของชิปประมวลผลตัวล่าสุด บนรุ่นที่บางที่สุดของ Apple จนแรงยิ่งกว่าที่เคย

นาทีนี้คงไม่มีข่าวเทคโนโลยีอะไรจะฮอตไปกว่าการรีวิว MacBook Air M2 ของ Apple บนสื่อออนไลน์-ออฟไลน์ทุกหัวอีกแล้ว (ใช้คำโบราณรู้อายุเลย) ก็เขาเล่นเปลี่ยนชิปประมวลผลตัวใหม่รุ่น M2 เรียกว่าล้ำสมัยที่สุดของ Apple บรรจุใส่ซีรีส์ MacBook Air อันกระทัดรัด ที่แรงจนไม่มีใครอดใจไหว

แต่ออกรุ่นใหม่มาทั้งที จะอัพเกรดแค่ชิปประมวลผลก็ยังไงอยู่ ทาง Apple เลยออกสีใหม่ให้ตาวาวด้วยเลยละกัน พร้อมกับใส่ฟังก์ชั่นอีกมากมายเพิ่มเข้ามาด้วย เรามาดูกันดีกว่าว่ารุ่นนี้จะสเป็กบางเบาเป็นอากาศเหมือนชื่อ หรือแรงอย่างที่เคลมจริง ๆ หลังจาก UNLOCKMEN ได้ทดลองใช้งานจริง พร้อมกับสัมภาษณ์ตัวเองแล้วว่าชอบอะไรกับเจ้าเครื่องนี้บ้าง ไปดูกัน

ขอชมดีไซน์การใช้งานภายนอกก่อนเข้าตัวเครื่องกันเสียหน่อย มาในเรื่องของ ‘สี’ และน่าจะเป็นสีใหม่ที่คนอยากเห็นของจริงพร้อมอยากได้มากที่สุด อย่าง Starlight Color ซึ่งผลคือ เป็นอย่างที่หลายคนคิดครับ … สวย! สีของจริงมิติคนละระดับกับในรูปบน istudio เยอะ การันตีความสวยจากการพกไปนั่งทำงานที่ Star Buck แล้วคนที่ผ่านไปมามองตลอดเวลา

MacBook Air M2 มาด้วยขนาด 13 นิ้ว และความบางที่ 1.13 เซนติเมตร พูดด้วยตัวเลขอาจจะดูเหมือนบางมาก แต่พอได้ทดลองใช้งานจริง กลับพบว่ามันไม่ได้บางมากขนาดนั้นแต่ดีกว่าที่คิด ตรงที่ความบางของตัวนี้อยู่ในขนาดพอเหมาะกับมือ ไม่บางเกินจนเผลอทำลื่นหลุดได้ และสำคัญเลยคือตัววัสดุคาร์บอนไม่เปราะ ลองพกพาไปร้านกาแฟ นั่งวินไปออฟฟิศ ต่อรถไฟฟ้ากลับบ้านโดยถือเอง ก็สะดวกจริง เพราะน้ำหนักแค่ 1.24 กิโลกรัม ไม่ทำให้เมื่อยจนเกินไปแม้ถือนานอีกด้วย

และถ้าคุณเป็นสายฟรีแลนซ์ที่ Work From Anywhere ที่ไหนก็ได้ เจอ Magic Keyboard ของรุ่นนี้เข้าไปชีวิตจะดีขึ้นมาเลย นอกจากทัชชิ่งอันพอเหมาะช่วยให้พิมพ์ไอเดียได้อย่างไม่สะดุดแล้ว เสียงจากการเคาะแป้นแต่ละครั้งเบามาก แถมเสียงจากตัว Touch Pad นั้นกดเท่าไหร่ก็แทบไม่ได้ยินเสียง จนไม่ต้องเป็นมลพิษทางเสียงกับคนรอบข้างอีกต่อไป

สิ่งที่น่าทึ่งของ MacBook Air M2 คือการติดตั้งลำโพง 4 ตัว ที่เขาเคลมเอาไว้ก่อนส่งถึงมือทุกคนว่า ‘เสียงดีมากนะ’ แต่ดูเหมือนจะขัดกับความเป็นจริง เพราะขนาดของเครื่องที่เล็กดูจะเป็นไปได้ยาก ที่จะยัด Hardware องค์ประกอบของ Speaker ดี ๆ เข้าไปได้

แต่ที่เคลมไว้กลับไม่เกินจริง เสียงย่านแหลมกับกลางของรุ่นนี้เพราะมาก และมีมิติความเป็น Stereo Sound จนน่าทึ่ง แถมเสียงเบสยังใช้ฟังเพลงได้จริงไม่แห้ง จนสามารถใช้ดูหนังได้แบบไม่เสียอรรถรส ด้วยระบบ Dolby Atmos เรียกว่าแทบไม่ต้องเชื่อม Bluetooth Speaker เสริมกันเลย

จอภาพในฝันของทุกคนหน้าตาเป็นอย่างไรครับ ถ้ายังนึกไม่ออก เปิดจอ MacBook Air M2 ขึ้นมาแล้วคุณอาจจะพบสิ่งนั้น

ข้อดีของจอภาพรุ่นนี้นิยามได้ด้วย 2 ประโยค ‘คมชัด’ และ ‘ไม่บาดตา’ เพราะให้รายละเอียดของสีด้วยขอบเขตที่กว้างแบบ P3 พร้อมรองรับถึง 1 พันล้านเฉดสี เร่งความสว่างสูงสุดถึง 500 นิต ซึ่งสว่างกว่ารุ่นก่อนมากถึง 25% ด้วย Fram rate ที่ลื่นมากขนาดนี้ จะสตรีมแบบ 4K หรือสุดถึง 8K ก็เอาอยู่ และดูได้อย่างยาวนานไม่ล้าต่อสายตาไปตลอดวัน และสำหรับเหล่า Editor, Graphic Designer หรือคนในอาชีพที่ใช้โปรแกรมหลักในการตัดต่อและกราฟิก ทาง Apple เคลมว่าจอของรุ่นนี้แสดงผลของสีที่สมจริง ไม่มีเพี้ยนอย่างแน่นอน

ไม่ใช่แค่ดีต่อสายตาตัวเองอย่างเดียวเท่านั้น แต่ MacBook Air M2 ยังเพิ่มฟังก์ชั่น 1080p FaceTime HD เข้ามา ให้ความละเอียดยิ่งกว่าเดิมถึง 2 เท่า เพื่อให้เราดูดีอย่างคมชัด สมกับตัวจริงในสายตาของคนอื่นด้วย จะประชุม คุยกับแฟน หรือคอลหาที่บ้าน ก็รับรองได้เลยว่าคุณจะดูดีอยู่เสมอ

ชิป M2 นวัตกรรมที่ทั่วโลกเฝ้ารอคอย มาเจาะข้อมูลขุมพลังใหม่ที่แฝงอยู่ในเครื่อง MacBook Air M2 ไปพร้อมกัน

ชิบ M2 คือชิป M-Serie รุ่นที่ 2 ผลิตจากเทคโนโลยีขนาด 5 นาโนเมตร โดยใช้สถาปัตยกรรมแบบ System on Chip (SoC) ที่ใส่ CPU 8‑core กับ GPU แบบ 10‑core อันทรงพลัง ร่วมกับหน่วยความจำ และอีกมากไว้ในชิปเดียว จนสามารถทำงานได้เร็วยิ่งขึ้นในทุกด้าน ด้วยพลังงานที่น้อยลงยิ่งกว่าเดิม

ตัว Neural Engine แบบ 16‑core ของชิป M2 สามารถประมวลผลได้สูงสุด 15.8 ล้านล้านต่อวินาที มาพร้อมกับหน่วยความจำแบบรวมประสิทธิภาพสูงขนาด 24GB ให้ CPU และ GPU ใช้ร่วมกัน ส่วนแบนด์วิดท์หน่วยความจำ 100GB/s ยังช่วยให้การทำงานแบบมัลติทาสก์ และการใช้งานหลายแอปพร้อมกันได้อย่างราบรื่น

คนที่ห่วงเรื่องการมาถึงของสเปคที่อัพเกรดมากขึ้น จะกินแบตเตอรี่อย่างหนักมั้ย ก็หายห่วงได้เลย เพราะทาง Apple เขาคิดเรื่องการใช้งานต่อเนื่องมาให้แล้ว และแบตเตอรี่ของรุ่นนี้ใช้งานได้นานสูงสุดถึง 18 ชั่วโมง และประมาณการคร่าว ๆ สำหรับคนที่ต่อ Wi-Fi ใช้อินเทอร์เน็ตในการทำงานตลอดเวลา ก็จะอยู่ได้ที่ 15 ชั่วโมง ซึ่งก็ถือว่าเยอะมากอยู่ดี

และสำหรับคนที่กลัวไปถึงเรื่องของการชาร์จไฟเข้าเครื่อง กลัวไม่แน่น ไฟไม่เข้า หรือเกิดอุบัติเหตุบังเอิญทำสายหลุดโดยไม่ตั้งใจขณะที่ชาร์จทิ้งไว้ กับมาแบตหมดทำไงดี สายไฟ MagSafe 3 แก้ปัญหาเรื่องนี้โดยการปรับปรุงตัวแม่เหล็กเชื่อมกับพอร์ตให้แน่นขึ้น ไม่หลุดง่าย ๆ แต่เมื่อต้องการจะดึงสายออกก็ไม่ได้ยากจนเกินไป มาพร้อมกับพอร์ตเสียบ Thunderbolt 2 ช่อง ที่สามารถเชื่อมต่อจอภาพได้สูงสุดถึง 6K พร้อมใส่ช่องต่อหูฟังแบบ 3.5 มม. มาให้อีกด้วย

สรุปการใช้งานของ MacBook Air M2 แน่นอนว่าเหมาะสำหรับคนที่มีไลฟ์สไตล์การทำงานข้างนอกอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งรวมไปถึงงานที่ต้องพึ่งสเปกของเครื่องที่มากประมาณนึงด้วยนะ แต่สำหรับสายทำงานนั่งโต๊ะอยู่ที่บ้านหรือออฟฟิศ ก็ดูจะเหมาะไม่แพ้กันกับเสปคที่ถูกอัพเกรดขึ้นมานี้ เรียกว่าเป็นเครื่องใส่ใจคนใช้ในทุกรูปแบบเลยก็ว่าได้ แนะนำว่าให้อ่านคอลัมน์ของเราประกอบ แล้วไปทดลองใช้งานจริงด้วยตัวเอง เพราะบอกได้เลยว่าดีเทลบางอย่างต้องได้ลองสัมผัส แล้วจะตัดสินใจว่ามันใช่เครื่องของเรารึเปล่าได้ง่ายขึ้นเยอะ

MacBook Air M2 มากับราคาที่ต่างกันจากปริมาณความจุ ถ้าเป็น 256GB จะอยู่ที่ 43,900 บาท ถ้าอัพความจุขี้นมา 512GB ราคาจะเป็น 54,900 บาท แต่ยังมีรายละเอียดยิบและย่อยอีกมากมายที่รอคุณไปค้นพบด้วยตัวเองอยู่ ถ้าให้เล่าให้ฟังเราคงจะต้องใช้คอลัมน์อีก 2-3 ตัวถึงจะเล่าได้หมด (หรืออาจจะไม่หมดด้วยซ้ำ)

สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์โดยตรงตรงนี้เลย https://www.apple.com/th/