Life

TRAVIS BARKER พังค์สตาร์กับชีวิตใหม่หลังรอดจากความตายและชีวิตที่ไม่เคยมีแผนสอง

By: unlockmen March 30, 2018

ชายหนุ่มร่างกายผอมแห้ง ตัวเล็กและเต็มไปด้วยรอยสัก ลุคท่าทางดูอันธพาล ทว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาจับไม้กลองบรรเลง ก็เหมือนกับงานแสดงศิลปะชั้นสูงขึ้นมาทันที

Travis Barker ได้รับยกย่องว่าเป็นมือกลองในยุคโมเดิร์นที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่ง โดยเขาเป็นสมาชิกคนสำคัญของวงป๊อปพังค์ยอดนิยมอย่าง Blink 182 และยังประสบความสำเร็จในชีวิตด้านอื่น ๆ อีกด้วย จนวันนี้เราอยากจะมาเล่าเรื่องราวเจ๋ง ๆ ของเขาไม่ว่าจะเป็น ประสบการณ์เฉียดตายและที่มาของรอยสักต่าง ๆ บนร่างกาย

Travis Barker เป็นลูกคนสุดท้ายในครอบครัวที่มีเชื้อชาติผสมทั้ง อเมริกัน , ไอริส , อิตาเลี่ยน ซึ่ง Barker ได้เริ่มเล่นกลองเป็นครั้งแรกตั้งแต่อายุ 5 ขวบ นอกเหนือจากกลองชุดแล้ว Travis มีความหลงใหลในด้านดนตรีอย่างมาก จนเข้าคลาสฝึกการเล่นเครื่องดนตรีชิ้นอื่น ๆ อาทิ ทรัมเปต , เปียโน และยังสมัครเป็นนักร้องประสานเสียงอีกด้วย ทว่าเขาเกือบจะหันเหชีวิตตัวเองหลังจากได้รู้จักกับสเก็ตบอร์ดจนถึงขั้นเคยคิดจะเอาดีเป็นโปรสเก็ตเลยทีเดียว แม้ว่าจะมีเหลวไหลไปบ้างถึงขั้นเคยติดกัญชาอย่างหนัก แต่ประโยคที่ทำให้ยังคงเล่นดนตรีมาจนถึงทุกวันนี้คือคำกล่าวของแม่ของเขากล่าวก่อนตายคือ ให้ Travis ให้เล่นดนตรีจงทำตามความฝันต่อไป

 

เริ่มต้นจากการเป็นคนเก็บขยะสู่พังค์สตาร์ก้องโลก

ใครจะไปคิดว่า Travis Barker ก็เคยทำงานเป็นพนักงานเก็บขยะมาแล้วสมัยที่เรียนจบจาก Fontana High School แต่ตัวเขาก็ยังทำผลงานเพลงควบคู่ไปด้วยมีการผลัดเปลี่ยนวงหลายต่อหลายครั้ง ใช้เวลาบ่มเพาะฝีมืออยู่หลายปีกว่าจะได้เข้าไปร่วมวง Blink 182 ในปี 1998 เนื่องจากมือกลองคนเก่าเสพติดการดื่มอย่างหนัก

หลังจากการเข้ามาร่วมวงในปีแรกด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นพร้อมฝีมือกลองที่ผ่านการเคี่ยวเข็ญมาอย่างหนักผนวกกับสมาชิกคนอื่นจนเป็น Blink 182 ที่กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น และอัลบั้มชุดที่สาม Enema of the State ส่งผลให้เขากลายเป็นพังค์สตาร์ทันที เพราะในอัลบั้มเต็มไปด้วยเพลงฮิตมากมาย ไม่ว่าจะเป็น What My Age Again , All the Small Things , Adam Song สานต่อความสำเร็จจนก้าวเป็นวงแถวหน้า ด้วยความโด่งดังและฝีมือกลองชนิดหาตัวจับยาก จนส่งผลให้ Travis Baker ได้รับรางวัลมือกลองยอดเยี่ยมแนว Punk ระหว่างปี 2003-2009 และมือกลองยอดเยี่ยมแนว Mainstream Rock ปี 2013 จากผลโหวตของผู้อ่านนิตยสาร Modern Drummer

ที่มาของรอยสักอันมากมาย

นอกฝีไม้ลายมือในการตีกลองอันลือลั่น จุดเด่นอีกอย่างที่คนจดจำ Travis Barker ได้เป็นอย่างดีคือรอยสักที่เต็มไปหมดทั้งตัว ซึ่งเขาบอกว่า รอยสักที่ทุกคนมองว่าดูเลอะเทอะ แต่แท้จริงแล้วเหมือนกับไดอารี่ส่วนตัวสำหรับเขา ที่ไว้จดบันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต และเมื่อจากโลกนี้ไปเมื่อใครมาพบศพอย่างน้อยก็จะจดจำเรื่องราวในชีวิตเขาได้บ้างสักหนึ่งอย่าง

ชีวิตไม่มี Plan B

Travis Barker เริ่มต้นสักครั้งแรกอายุราว ๆ ประมาณ 15 ขวบ และหลังจากนั้นอย่างที่เห็น บนร่างกายของเขาเต็มไปด้วยรอยสักมากมาย ๆ ซึ่ง Travis ได้เปิดเผยเหตุผลที่ว่าทำไม่เขาจึงมีรอยสักเต็มไปหมดทั้งตัวก็เพราะชีวิตของเขาไม่มีแผน B  การสักเหมือนเป็นการย้ำเตรียมตัวเองให้ต้องทำตามฝันต่อไป เขากล่าวว่า

” คุณเคยเห็นคนทำงานปกติสักกันมั้ย ถ้าคุณมีรอยสักเต็มตัวแบบนี้ไม่มีทางที่คุณจะใช้ชีวิตหรือทำงานที่มนุษย์ปกติทำได้ เพราะผมไม่มีแผน B ในชีวิต ผมจะต้องเป็นนักดนตรีร็อคสตาร์เท่านั้น”

Travis ยังเสริมอีกว่า คนส่วนใหญ่มักใช้ชีวิตแบบปลอดภัย วางแผนหลาย ๆ อย่างไว้ให้กับชีวิตเพื่อป้องกันการผิดพลาด แต่สำหรับเขาไม่คิดว่ามันควรจะเป็นเช่นนั้น เพราะเราต้องทุ่มเททำทุกอย่าง ใช้ทุกลมหายใจที่มีเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ให้ได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณมีแผนสอง คุณละเริ่มปล่อยปะละเลยและคิดว่าไม่เป็นไรหากเป้าหมายแรกพลาดก็ยังมีอย่างที่สองให้ทำ ความคิดเช่นนั้นมันไม่สามารถทำให้ฝันคุณเป็นจริงได้หรอก ฝันที่แท้จริงมีเพียงแค่หนึ่งเดียวเท่านั้น

จุดเปลี่ยนอีกครั้งหลังรอดจากความตาย

แม้ว่าชีวิต Travis Barker จะผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก แต่เหตุการณ์ที่ยังคงติดอยู่ในใจเขาจนถึงปัจจุบันคงจะหนีไม่พ้นการรอดชีวิตอย่างปาฎิหารย์จากเหตุเครื่องบินขัดข้อง Travis ต้องสูญเสียเพื่อนถึง 4 คน แถมตัวเองโดนไฟคลอกในระดับ thrid degree ทำให้เขาสูญเสียความรู้สึกที่ขาไป เนื่องจากความเจ็บปวดอย่างมาก Travis จึงต้องใช้มอร์ฟีนในการยับยั้งบาดแผลทว่าปริมาณที่ได้รับอาจจะมากเกินไป ส่งผลเขาได้รับป่วยเป็นโรคเครียดอย่างรุนแรง มีอาการวิตกกังวลและหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา

โดยเขาต้องใช้เวลาเยียวยาจิตใจอยู่นานเพื่อผ่านเหตุการณ์ครั้งนี้ไปได้ มีครั้งหนึ่ง Travis Barker เกือบฆ่าตัวตายที่โรงพยาบาล เนื่องจากทนความเจ็บปวดทางด้านร่างกายและจิตใจไม่ไหวและหันไปใช้ยาเสพติดช่วยถึงขั้น overdose แต่แล้วเมื่อเขาเห็นหน้าลูก ๆ Travis ก็ตระหนักได้ว่าอะไรคือสิ่งสำคัญ เหมือนพระเจ้าได้ประทานพรให้โอกาสที่สองกับชีวิตเขา เขาต่อสู้เพื่อรักษาตัวอย่างหนักจนสามารถเลิกยาได้หรือแม้กระทั่งกัญชาที่เขาชอบถึงขั้นเสพติด และผันตัวเองใช้เวลาอยู่กับครอบครัวมากยิ่งขึ้น และเขาเอาแรงผลักดันต่าง ๆ พลังงานดี ๆ จากครอบครัว มาใช้ในการดำเนินกิจการอื่นนอกเหนือจากเรื่องดนตรีเพียงอย่างเดียว

ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องราวแง่มุมชีวิตของ Travis Barker ที่ปัจจุบันตัวเขาก็ประสบความสำเร็จนอกจากได้รับการยกย่องให้เป็นมือกลองพังค์ซุปเปอร์สตาร์ แถมยังมีธุรกิจเสื้อผ้า Famous Star and Strap และโปรเจคต์ร่วมอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งสิ่งที่ทีมงาน UNLOCKMEN ได้จากเกร็ดชีวิตของเขาคือการมุ่งมั่นตามฝันอย่างบ้าคลั่ง แม้ว่าวิธีของ Travis Barker  จะค่อนข้างสุดโต่ง เรียกได้ว่าไม่เคยวางแผนอะไรสำรองให้กับชีวิต แต่ถ้ามองจากคำพูดของเขา การที่เราไม่วางแผนอื่น ๆ ไว้นั้น แปลว่าเราต้องทุ่มเทสุดพลังให้ความฝันของเรานั้นประสบความสำเร็จให้จงได้

source , source 2 , source3 , source4

 

 

 

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line