รู้ไว้ไม่มี OUT! อัพเดตเทรนด์ WEB DESIGN มาแรงในปี 2018 ที่หนุ่มสายดีไซน์ควรรู้

สำหรับหนุ่มสายดีไซน์ อย่าลืมขยันอัพเดตเทรนด์อยู่เสมอ เพราะงานออกแบบมาไวไปไวไม่ต่างกับแฟชั่น โดยเฉพาะงานดีไซน์บนโลกออนไลน์อย่างเว็บไซต์ ที่ต้องเปลี่ยนไปตามเทรนด์อยู่เสมอ UNLOCKMEN จะอัพเดตเทรนด์ดีไซน์ของเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นการวาง Layout ไปจนถึงลูกเล่นต่าง ๆ ที่กำลังมาแรงในปี 2018 นี้ เพื่อให้หนุ่ม ๆ สายดีไซน์ได้เอาไปเพิ่มเติมความเจ๋งให้กับเว็บไซต์ได้แบบไม่มี Out!

วาง Layout แบบไม่อิงเส้น Grid

เราคงคุ้นเคยกับงานดีไซน์ที่อิงกับการออกแบบให้เป็นไปตามเส้นกริด ไม่ว่าจะภาพถ่าย หรือการวาง Layout มันทำให้ภาพดูสมดุล ดูเพอร์เฟ็กต์ไปซะหมด แต่นี่ 2018 แล้ว การวาง Layout แบบอิงเส้นกริดต้องพักไว้ก่อน การวาง Layout แบบไม่อิงเส้นกริดนี่แหละกำลังมาแรง ไม่ว่าจะเป็นรูปหรือข้อความ เพราะความไม่เพอร์เฟ็กต์นี่แหละ ทำให้มันออกมาเพอร์เฟ็กต์ที่สุด

ภาพถ่ายหลบไป Illustrations มาแรง

รูปภาพเป็นอีกองค์ประกอบที่เว็บไซต์จะต้องมี และหลายเว็บฯมีรูปภาพเป็นองค์ประกอบสำคัญเลยด้วย เรามักจะคุ้นเคยแต่ภาพถ่ายถูกนำมาเป็นส่วนสำคัญของหน้า Home เป็น Header หรือส่วนอื่น ๆ เพราะเรามักจะใช้ภาพถ่ายสื่อสารข้อความบางอย่างออกมา และมันก็ทำหน้าที่นี้ได้ดีมาเสมอ แต่ 2018 นี้ ลองขยับมาเป็นงาน Illustrations กันดู อาจจะไม่ใช่ทั้งหมดของภาพ แต่การมี Illustrations ให้ภาพมีกลิ่นอายของลายเส้น ลวดลายจากการวาด ไม่ว่าจะเป็นงานแนวไหนก็ตาม มาเป็นส่วนหนึ่งจะช่วยให้ภาพนั้นดูเป็นงานทำมือมากขึ้น

รูปร่างที่หลากหลาย

ในช่วงกว่าสิบปีที่ผ่านมาเว็บไซต์มักจะใช้ส่วนประกอบ หรือ Interface โดยรวมที่เป็นรูปร่างคม ๆ มีมุม อย่างพวกสามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม เพราะมันทำให้ดูเป็นระเบียบ เป็นสัดส่วน สะอาดตา ใช้งานง่าย แต่เทรนด์ที่กระโดดไปมาตลอดทำให้ไม่มีสิ่งไหนเป็นเทรนด์หลักตลอดไปได้ พอมาถึง 2018 เราคงเริ่มสังเกตแล้วว่า หลายเว็บฯเริ่มใช้ส่วนประกอบเป็นรูปร่างที่หลากหลายมากขึ้น อย่าง วงกลม เส้นโค้ง เส้นคลื่น รูปทรงไร้รูปร่าง ตัวอย่างง่าย ๆ คือ Twitter ที่หน้า Interface เป็นทรงกลมแทบจะทั้งหมดแล้ว หรือจะเป็น Instagram แม้แต่ Facebook เองก็ตาม เพราะทรงกลมมันจะให้ความรู้สึกที่อ่อนนุ่ม ยืดหยุ่นมากกว่า และหลีกหนีความจำเจของกรอบสี่เหลี่ยม ที่มาตีกรอบจนภาพรวมแข็งทื่ออีกด้วย

ใส่ Animations เข้าไปให้มีชีวิตชีวา

รูปจาก readwrite.com 

หากมีอะไรที่เคลื่อนไหวตอบสนองเรา มันคงจะช่วยดึงดูดความสนใจได้ไม่น้อย บนเว็บไซต์เองก็เช่นกัน การมี Animations เข้ามาเพิ่ม Interactive ระหว่าง User และตัวเว็บฯเอง อาจไม่ถึงกับ Animations อลังการ ลองเป็นลูกเล่นเล็ก ๆ ให้เว็บไซต์ไม่น่าเบื่อกับการใช้แถบเมนูแบบทื่อ ๆ อย่างเดิมแล้ว อย่างพื้นฐานที่สุดก็คงจะเป็น Scrolling Rates ที่ฮิตมากในปีนี้ หลายเว็บไซต์นำเทคนิคนี้ไปใช้และมันก็เจ๋งจริง ๆ นั่นแหละ

แถบเมนูล่องหน

รูปจาก readwrite.com 

เราอาจคุ้นเคยกับเว็บไซต์แบบมาตรฐาน ที่มีแถบด้านบนเต็มแผง หรือด้านข้าง และเป็นแถบทื่อ ๆ ฝังอยู่อย่างนั้น หากเบื่อความแข็งทื่อของแถบเมนูแบบนั้นแล้ว ลองเปลี่ยนมาเป็นแถบเมนูแบบใสแทน ที่สามารถมองเห็นทะลุถึงรูปพื้นหลัง หรือแถบเมนูแบบซ่อน Drop Down ที่ช่วยให้เว็บไซต์มีลูกเล่นมากขึ้น

เปลี่ยนจากข้อความเป็นวิดีโอ

ช่วงนี้ Video Content ถือว่ามาแรงเอามาก ๆ ซึ่งไม่ใช่วิดีโอ ที่โปรดักชั่นยิ่งใหญ่อะไรนัก แต่เป็นการย่อยข้อความมาเรียบเรียงในรูปแบบวิดีโอ ลองเปลี่ยนจากบทความยาว ๆ หลาย ๆ พารากราฟมาเป็นเรื่องราวที่ดูง่าย ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ เข้าถึงได้ทุกคน แม้แต่คนที่ไม่ชอบอ่านก็ตาม เปิดทิ้งไว้ฟังเฉย ๆ ก็ยังได้ อย่างใน Facebook และ Instagram เริ่มให้ความสำคัญกับ Video Content มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Story, Live Video ถือเป็นอีกฟังก์ชั่นที่คนให้ความสนใจและ Engagement เข้มข้นมากกว่าโพสต์แบบข้อความธรรมดา

ใส่ใจการใช้งานบนสมาร์ทโฟน

ตั้งแต่สมาร์ทโฟนบูมขึ้นมา มันเริ่มเข้ามาเป็นทุกอย่างในชีวิตเรา อยู่บนมือเราจนเป็นเหมือนอีกอวัยวะที่งอกขึ้นมาใหม่ (และเราก็ขาดมันไม่ได้จริง ๆ นั่นแหละ) พอกลุ่มผู้ใช้เทมาที่ Platform นี้กันมากขึ้น เราจึงควรพัฒนาเว็บไซต์ไปตามการใช้งานของผู้บริโภคด้วย เพราะทุกวันนี้คนใช้สมาร์ทโฟนเข้าเว็บไซต์มากกว่า PC ซะอีก 

ทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะฟังก์ชั่น หรือดีไซน์ โดยรวมคือ Interface ต้องออกมารองรับกับการใช้บนสมาร์ทโฟนด้วย เพราะการแสดงผลของแต่ละ Platform ย่อมแตกต่างกันไป และตอนนี้ที่เรายังคงใช้สมาร์ทโฟนกันในชีวิตประจำวันอยู่ จนกว่าเราจะมี Platform ใหม่ ๆ เข้ามาทำให้เราพัฒนาเว็บไซต์ไปตามพฤติกรรมของผู้บริโภคอีกนั่นแหละ

อย่าลืมพัฒนาแบรนด์ของเราให้เดินหน้าไปตามโลกใบนี้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะแง่ของการใช้งานหรือดีไซน์ ถ้าผู้ใช้ยังเป็นลูกค้าคนสำคัญของเรา เราก็จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนไปตามพวกเขาด้วยเช่นกัน แต่ก็อย่าได้เปลี่ยนไปจนไม่หลงเหลือความเป็นตัวเองที่เป็นเอกลักษณ์ของเราเองกันล่ะ

SOURCE