Life

CLIMATE DESPAIR อาการซึมเศร้าจากสภาพอากาศ เพราะโลกแปรปรวนจนทำเราสิ้นหวัง

By: TOIISAN August 6, 2019

ทุกคนตอนนี้ต่างรู้กันดีว่าโลกของเรากำลังร้อนขึ้นทุกวัน แต่ใครจะคิดว่าสภาพอากาศย่ำแย่ ฝุ่น มลภาวะ และความร้อนที่พร้อมแผดเผาทุกอย่างจะส่งผลต่อความรู้สึกและความเศร้าของมนุษย์โดยที่เราทุกคนไม่ทันรู้ตัว แถมพอจะเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมา สภาพอากาศก็ทำให้เราเศร้าจนแทบยืนไม่ไหวเสียแล้ว

เมื่อสิ่งรอบตัวอาจทำให้เราป่วยใจ UNLOCKMEN จึงอยากพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ Climate Despair หรือ ความสิ้นหวังจากสภาพภูมิอากาศ ว่ามันคืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร และต้องแก้ปัญหาที่ตรงไหนหากรู้สึกเศร้าเพราะผลจากอากาศที่แปรปรวน

กรณีตัวอย่างที่ชัดเจนของ Climate Despair เริ่มต้นขึ้นในฤดูร้อนปี 2015 ที่ถือว่าร้อนจนถูกบันทึกเป็นสถิติ หญิงวัยกลางคนรายหนึ่งนาม Ruttan Walker เป็นนักกิจกรรมสิ่งแวดล้อมอาศัยอยู่ในรัฐ Ontario เธอพบความผิดปกติทางจิตใจตัวเองที่แสดงออกมาอย่างชัดเจนในช่วงฤดูร้อน

ผลของอากาศร้อนระอุทำให้เธอเริ่มซึมเศร้าและเต็มไปด้วยความเครียด มันยากที่จะรู้สึกมีความสุขทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าโลกกำลังร้อนขึ้นและใกล้พังลงทุกวัน เวลาเธอมองหน้าลูกชายของตัวเองก็มีความรู้สึกผิดอยู่เต็มใจว่าตัวเองทำให้ลูกต้องมาพบกับจุดจบของโลก ซึ่ง Ruttan พยายามหาทางแก้โดยการไปพบแพทย์และรับการรักษาแต่ก็ไม่ดีขึ้นเท่าที่ควร

“ฉันรู้ตัวดีว่าจะไม่มีวันทำร้ายตัวเอง แต่ฉันไม่รู้ว่าต้องใช้ชีวิตต่อไปอย่างไรเมื่อความกลัวกัดกินจิตใจอยู่ตลอดเวลา”

สำหรับบางคนเมื่ออ่านมาถึงตรงนี้จะคิดว่าอาการ Climate Despair ที่เกิดขึ้นกับ Ruttan จะไม่มีวันเกิดขึ้นกับตัวเอง เพราะหล่อนอาจเป็นคนรักธรรมชาติและหลงใหลกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าคนทั่วไป แต่แท้จริงแล้วความเศร้าจากสภาพอากาศสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่กรณีของ Ruttan Walker อาจเรียกได้ว่าอยู่ในขึ้นรุนแรงและเป็นตัวอย่างที่ดีที่ทำให้ผู้คนทั่วไปรู้จักคำว่า Climate Despair มากขึ้น

David Wallace-Wells นักข่าวและนักเขียนชาวอเมริกันเคยบอกเล่าเรื่องราวทำนองนี้ใน The Uninhabitable Earth หนังสือขายดีของเขาว่า ทุกคนเข้าใจถึงปัญหาและลึก ๆ แล้วต่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงความวิตกกังวลเกี่ยวกับวันสิ้นโลกได้ เพราะปัจจุบันเราทุกคนเข้าถึงแหล่งข้อมูลได้มากขึ้น และรับรู้ถึงความจริงที่ว่าโลกได้เปลี่ยนไปแล้ว 

ผลของเรื่องนี้ไม่ได้เกิดจากการคิดไปเองหรือจะเกิดขึ้นแค่กับคนที่คลุกคลีในวงการสิ่งแวดล้อมเท่านั้น เพราะนักวิทยาศาสตร์และนักจิตวิทยา Renee Lertzman ผู้เขียนหนังสือ Environmental Melancholia กล่าวไว้ว่า ผู้คนตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ทุกคนรู้ว่ามันเป็นสิ่งน่ากลัวที่ยังไม่ได้รับการแก้อย่างจริงจัง 

หรือแม้แต่ DJ คลื่นวิทยุเองก็สัมผัสความเครียดจากการเปลี่ยนแปลงของโลกได้เช่นกัน DJ ที่ว่าคือ Brooke Morrison วัย 26 ปี เล่าว่าขณะที่เธอกำลังพูดคุยกับผู้ฟังเกี่ยวกับเรื่องเพลงป๊อปอย่างสนุกสนาน แต่เมื่อเผลอมองออกไปนอกตึกก็รู้สึกว่าโลกไม่สดใส มันทำให้เธอรู้สึกเศร้าและอยากจะย้ายไปอยู่แถบฝั่งตะวันออกของอเมริกาอย่างเมืองลอสแองเจลิส เพราะกังวลว่าอเมริกาฝั่งตะวันตกอาจจมทะเลเข้าสักวัน 

ความคิดเห็นจากเหล่านักเขียนชื่อดังและคนทั่วไปที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับวงการสิ่งแวดล้อมก็มีส่วนช่วยยืนยันว่าในโลกนี้มีคนเครียดเพราะ Climate Despair อยู่จริง ๆ

นอกจากนี้การวิจัยปี 2009 ของกลุ่มนักวิจัย Saffron O’Neill และ Sophie Nicholson-Cole ในสหราชอาณาจักร ก็อ้างอิงเกี่ยวกับอาการ Climate Despair ได้เช่นกัน โดยแสดงผลข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศว่าความแปรปรวนของธรรมชาติสามารถกระตุ้นความกลัวของมนุษย์ได้ และหลายคนเลือกป้องกันตัวเองเมื่อตระหนักถึงความจริงที่ว่าโลกใกล้พังและเราจะตายด้วยการปฏิเสธความจริง ไม่แยแส ไปจนถึงหลีกเลี่ยงการพูดถึงเรื่องเหล่านี้

แต่ก็ไม่ใช่คนทุกที่ไม่ยอมรับความจริง เพราะก่อนหน้านี้ Yale ได้ตีพิมพ์ผลสำรวจความคิดเห็นผู้คนเกี่ยวกับเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ พบว่าชาวอเมริกัน 8% รู้สึกตื่นตระหนกจากการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันของอากาศ และพอใจที่เห็นนักการเมืองพูดถึงปัญหานี้มากขึ้นเรื่อย ๆ 

ในทางกลับกันก็มีผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่ไม่เห็นด้วยว่าสภาพภูมิอากาศจะทำให้เกิดความเครียดจนถึงซึมเศร้า อย่างศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์บรรยากาศจาก Texas A&M University มองว่าการสูญพันธุ์ของมนุษย์จะไม่เกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ และมนุษย์จะยังคงเป็นผู้ควบคุมชะตากรรมของตัวเองอยู่ ดังนั้นไม่ควรต้องกังวลจนกลายเป็นโรคซึมเศร้า

อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องยากที่จะปฏิเสธว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศส่งผลต่อสุขภาพจิตจริง ๆ นักจิตวิทยาชาวสวีเดนได้ส่งจดหมายไปยังรัฐบาลเพื่อบอกถึงความผิดปกติของสภาพอากาศที่จะส่งผลกระทบต่อคนในประเทศ เนื้อความในจดหมายระบุว่ารัฐบาลควรเร่งแก้ปัญหา มีหนุ่มสาวจำนวนไม่น้อยที่ได้รับผลกระทบ พวกเขากำลังวิตกกังวลและเสี่ยงให้เกิดภาวะซึมเศร้า รวมถึงไม่เห็นด้วยที่เด็ก ๆ ยุคนี้ต้องมารับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำ เพราะผู้ใหญ่จะจากไปพร้อมกับทิ้งโลกอันแสนน่ารังเกียจไว้ให้

ล่าสุดนี้ Greta Thunberg นักเคลื่อนไหวสิ่งแวดล้อมวัย 16 ปี รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ พร้อมกับเคยกล่าวสุนทรพจน์ที่เจ็บแสบว่า “ผู้ใหญ่ส่วนมากไม่ยอมรับความจริงและทิ้งปัญหาไว้ให้เด็กรุ่นหลัง” หรือ “พวกคุณพร่ำบอกว่ารักลูกหลานเหนือสิ่งอื่นใด แต่กลับขโมยอนาคตไปต่อหน้าต่อตา” เพื่อเตือนให้เหล่าผู้มีอำนาจหันมาสนใจกับปัญหาโลกร้อนอย่างจริงจังเสียที 

ภาวะโลกร้อนจะกระทบกับทุกคนและสังคมในทุกด้านจริง ๆ เพราะ Katerina Georgiou นักบำบัดโรคในลอนดอนบอกว่าสภาพภูมิอากาศมักเชื่อมต่อและส่งผลกับคนไข้ของเธอ เห็นได้ชัดจากผลการวิจัยว่าด้วยความวิตกกังวลหรือโรคย้ำคิดย้ำทำ (OCD) ว่ามีผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยกำลังทุกข์ทรมานจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และเธอได้ให้คำแนะนำง่าย ๆ สำหรับคนที่เริ่มเครียดเพราะโลกร้อนว่า “หากเมื่อไหร่ที่รู้สึกแย่ ขั้นแรกเลยคุณควรดูข่าวให้น้อยลง และอย่าอยู่ในโซเชียลมีเดียนานเกินไป”

ผลของสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงก่อให้เกิดความสิ้นหวังกับสภาพภูมิอากาศ Climate Despair และภาวะ Climate Despair ก็เป็นสิ่งที่เพิ่งจะถูกพูดถึงอย่างจริงจังเป็นวงกว้าง คล้ายมันเป็นโรคใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งทุกฝ่ายจำเป็นต้องหาวิธีรับมือและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะไม่อย่างนั้นความเศร้าจะกัดกินหัวใจเราไปเรื่อย ๆ โดยไม่ทันได้รู้ตัว  

“ความโศกเศร้าคือกระบวนการหนึ่งของการเรียนรู้ และมันทำให้คุณสามารถก้าวต่อไปได้” – Ruttan Walker

หากใครที่กำลังตกอยู่ในอารมณ์เศร้าเวลาเหม่อมองธรรมชาติ UNLOCKMEN อยากให้รู้ว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียว อย่าเพิ่งผิดหวังท้อแท้จนหมดอาลัยตายอยากรอแค่วันจากโลกนี้ไป เพราะเราทุกคนก็กำลังช่วยทำให้ความน่าเศร้าของระบบนิเวศลดน้อยลงเท่าที่มันจะเป็นไปได้

 

SOURCE

TOIISAN
WRITER: TOIISAN
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line