Work

แมวไม่อยู่ หนูไม่ร่าเริง: เมื่อเจ้านายที่เรารักลาออกหรือจากไป เราจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร?

By: anonymK October 29, 2018

ถ้าเทียบกับสัดส่วนของการลาออกจากงานของพวกเราเหล่าพนักงานกับเรื่องเจ้านายมีอันต้องอันตรธานหายไปจากบริษัท เรื่องเจ้านาย “ลาออกหรือหายไป” ดูเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากกว่า โดยเฉพาะถ้าอยู่ในตำแหน่งสูง ๆ ระดับผู้ก่อตั้งด้วยแล้ว การออกมันถือเป็นการสั่นคลอนกับบริษัทเลยทีเดียวเพราะหมายถึงระบบ นโยบายการทำงาน ความผูกพันเหนียวแน่นของการทำงาน และการปกครองที่อาจกำลังเปลี่ยนรูปแบบไปอย่างสิ้นเชิง

แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันเหล่านี้ก็เกิดขึ้นแทบทุกวัน ทั้งในหน้าข่าวที่เราติดตามหรือเรื่องราวที่เราเขียน ไม่ว่าจะเป็นการขายบริษัท Winamp เปลี่ยนมือการ take over บริษัทที่ถึงจะให้ผู้ก่อตั้งเดิมบริหารงานต่อ ทว่าสุดท้ายนโยบายแบบใหม่ก็เข้ามาทำให้จำต้องยอมรับไม่ได้และลาออกไป หรือข่าวเจ้าสัววิชัย เจ้าของ King Power ที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต จนกระแสความอาลัยของพนักงานและบุคคลที่เกี่ยวข้องกระจายให้เห็นมากมายในโลกโซเชียล

เมื่อร่มโพธิ์ร่มไทรหายไปแล้ว แต่เรายังคงต้องทำหน้าที่ของเราต่อ UNLOCKMEN ขอนำเสนอวิธีปรับใจ ปรับกระบวนท่า ให้พร้อมรับกับสถานการณ์จาก 5 หนทางต่อไปนี้

ยอมรับความเจ็บปวดและก้าวต่อไป

เจ้านายคู่ใจแม้จะหายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร แต่เราเชื่อว่าบางคนก็มีโอกาสได้เจอแล้ว เพราะเราก็เจอมาแล้วกับการทำงานที่ต่างฝ่ายต่าง challenge ให้สุดเพื่อให้งานออกมาดี เถียงกันแทบออกหมัด แต่พอออกนอกห้องประชุมก็กอดคอชนแก้วเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น การทำงานโคตรเปิดใจ โคตรสนุก มันคงทำให้คุณรู้สึกเศร้าเมื่อเจ้านายคนนั้นหายไป แต่จงจำไว้ว่าความเศร้ามันไม่อยู่ตลอดกาล ยอมรับวันนี้และต้องเดินหน้าต่อไปเพื่อทำงานอย่างมืออาชีพคือคำตอบสำคัญที่สุดที่คุณไม่ควรละทิ้ง

 

หยุดเปรียบเทียบ เจ้านายเก่าเจ้านายใหม่

การจากลาเป็นเรื่องการเหวี่ยงของโลก เหตุผลการเคลื่อนที่ของคนเราคงไม่เหมือนกัน เมื่อต้องอำลาเจ้านายคนเก่งที่เราชื่นชม สิ่งที่เราต้องหลีกเลี่ยงคือการตั้งป้อมกับเจ้านายใหม่ว่าจะไม่ดีเท่าคนเดิม และโฟกัสเรื่องการทำงานและการทำเพื่อองค์กรไว้ก่อน เพราะถ้าใช้งานเป็นแกนหลักโดยวางอคติ คุณอาจจะมองเห็นการทำงานและมิตรภาพที่ช่วยมีความสุขยิ่งขึ้น

 

กล้าพูดว่า “ไม่” เพื่อแชร์สิ่งที่ต้องการ และเปิดใจ

ในโลกของการทำงาน การเรียนรู้เพื่อพูดปฏิเสธคนอื่น แม้เขาจะเป็นเจ้านายของเราเองถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ส่วนใหญ่คนที่เข้ามาเป็นเจ้านายใหม่ของเราเขามักมาเปลี่ยนแปลงสิ่งเดิมที่เราเคยทำ พาเราหลุดออกจากวิธีการทำงานเดิมที่เคยมีซึ่งอาจเป็นสิ่งที่เราไม่ชอบ สิ่งที่เราควรทำแทนที่จะก้มหน้าแล้วตอบ “ใช่ครับผม เหมาะสมครับท่าน” แล้วเอามาก่นด่านอกรอบเป็นหมีกินผึ้ง จึงควรเป็นการหาจังหวะเหมาะ ๆ แย้งกลับอย่างมีเหตุผลเพื่อเสนอแนวทางที่คิดว่าดี

แต่ว่าเสนอเสร็จแล้วก็อย่าลืมฟังเขาด้วยว่า New Boss เขาให้เหตุผลว่าอะไร ไม่แน่ว่าการเปลี่ยนแปลงที่เขาเสนออาจมาจากการดูจุดบกพร่องแล้วพัฒนาให้ดีขึ้น ทำให้เราได้เรียนรู้สกิลใหม่ก็ได้

 

หายแล้วไม่หายเลย หมั่นเชื่อมสัมพันธ์นายเก่าไว้

แม้เจ้านายเก่าจะจากไป แต่หากเขายังคงมีชีวิตอยู่ เราควรสานสัมพันธ์ไว้ให้แนบแน่น เพราะไม่ว่าเขาอยู่ที่ไหน เขายังคงเป็นคนที่เราให้การเคารพนับถือ และอาจเป็นคนที่ช่วยเหลือและให้คำปรึกษาด้านการทำงานและการใช้ชีวิตเราได้ จำไว้ว่าการเปลี่ยนเจ้านายไม่ได้แปลว่าความสัมพันธ์ที่เคยมีและเคยดีของเราจะต้องยุติหรือจางหายไป

 

ลุยงานสุดพลัง

ยิ่งว่างโหวง เรายิ่งต้องเร่งเครื่องให้สุดพลัง! เรื่องนี้เราขอข้ามเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวแต่พูดเรื่องโอกาสเติบโตในการทำงานเลย เนื่องจากการแอคทีฟช่วงบริษัทคลอนแคลนไม่เพียงเป็นการทำเพื่อแก้ปัญหาคาราคาซังจากงานที่คั่งค้างในสถานการณ์นี้ แต่ยังเป็นหนึ่งวิธีในการฉายแสงให้บริษัทเห็นความสามารถที่เก็บซ่อนของเราด้วย เข้าทำนองเดียวกับประโยคที่มีคนกล่าวไว้ว่า “สร้างผู้กล้าในสถานการณ์คับขัน” ซึ่งอาจทำให้เราได้รับผิดชอบและเติบโตในตำแหน่งที่ว่างอยู่เร็วขึ้น

UNLOCKMEN เชื่อว่าแม้การทำงานกับเจ้านายที่ดีจะเป็นความสุขชั้นยอด แต่การสร้างความสุขให้ได้ในวันที่สถานการณ์เปลี่ยนแปลง หรือไม่เอาความสุขของการทำงานไปผูกติดกับอะไร ย่อมให้เราเข้าใกล้ความสำเร็จที่ต้องการมากขึ้น ซึ่งเราสามารถเอาไปใช้ได้กับชีวิตทุกเรื่องไม่เฉพาะกับเรื่องการทำงานเท่านั้น

จำไว้ว่าความสุขและความสำเร็จของเรา ตั้งต้นจากตัวเรา อย่าให้ใครมากำหนด!

anonymK
WRITER: anonymK
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line