Play

กดตรงนี้ทำไม ใครคิด? เผยเหตุผลที่ WASD เป็นปุ่มสากลของเกมเมอร์มา 20 ปีแล้วแต่ยังไม่เคยตกรุ่น

By: anonymK December 17, 2018

ถึงสมาร์ตโฟนจะสะดวกแค่ไหน เล่นเกมได้หลากหลายเพียงใด แต่มนต์ขลัง PC เป็นสิ่งที่ไม่เคยหายไปจากผู้ชายอย่างเรา เพราะจอมันใหญ่สะใจกว่า ช่องใส่สกิลก็เพียบ แชตกับตี้ในเกมไม่สะดุด และที่สำคัญบังคับนิ้วจากคีย์บอร์ดเคลื่อนเกมได้คล่องตัว ด้วยการกดเพียง 3 นิ้ว คือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนางกับ 4 ปุ่มหลักสี่เหลี่ยมของตัวอักษร WASD ที่คุ้นตา

แต่เคยสงสัยไหมว่าทำไมการบังคับต้อง WASD ด้วย? ในเมื่อ 4 ปุ่มกับคอมโพสต์การวางนิ้วก็แทบไม่แตกต่างกัน จะขยับมาเป็น ESDF หรือตัวอื่นไม่ได้หรือไง ถ้าคุณเคยสงสัย เรื่องเหล่านี้ UNLOCKMEN พบที่มาและนำมาฝากให้หายงงแล้ว

เกมเมอร์ตำนานคือคนคิดตำแหน่งทองคำ WASD

หลายคนเข้าใจว่าตำแหน่ง Default บังคับเกมอย่าง WASD นี้มีนักสร้างเกมเป็นผู้คิด เพราะรู้ตัวอีกทีมันก็ใช้กันแพร่หลายและใช้กันแทบทุกเกม แต่ความจริงแล้วคนที่คิดและนำ 4 ปุ่มอย่าง WASD มาใช้คือเกมเมอร์ชื่อดังในตำนานอย่าง “Thresh” เกมเมอร์ที่คว้าชัยชนะจากการจัดแข่ง Quake tournament ครั้งที่ 1 ปี 1997 ได้สำเร็จอย่างงดงามจากการปรับแต่งปุ่มนี้และมันก็ทำให้เขาได้รางวัลใหญ่เป็น Ferrari 328 จาก John D. Carmack ผู้ก่อตั้งค่ายเกม id Software เจ้าพ่อการสร้างเกมแนว FPS อีกด้วย

“Thresh คือนามแฝงในเกม แต่ชื่อจริงของเขาคือ Dennis Fong นักธุรกิจหนุ่มชาวอเมริกันที่แจ้งเกิดจากการเป็นอดีตตำนานโปรเกมเมอร์คนแรกของวิดีโอเกมที่พวกเรารู้จักอย่าง Quake และ Doom ที่สำคัญยังมีความเจ๋งจากการประยุกต์ใช้ WASD ในการเล่นเกมและไหวพริบส่วนตัวที่เขามียังทำให้ Guiness World Records บันทึกชื่อเขาไว้ในฐานะโปรเกมเมอร์อาชีพคนแรกของ Quake อีกด้วย

คลิปแมชสุดลื่นคว้า Ferrari ของ Thresh

แม้การชนะของเขาจะทำให้หลายคนลุกมาดูและเลียนแบบเทคนิกกัน แต่มันก็ยังไม่ไวรัลขนาดนั้น กระทั่งเมื่อไม่นานจากนั้น Yahn Bernier วิศวกรของ Valve ที่ผลิตเกมใหม่ Half-life เกมแนวชู้ตติ้งอีกเกมแจ้งว่าเกมนี้อ้างอิงการตั้งค่ามาจากจาก Quake 1 คนจึง WASD จึงแพร่หลาย คนปรับตามค่าตามเกมเมอร์ตำนาน และใช้ต่อ ๆ กันไปในเกมอื่นที่เป็นแนวเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น Starsiege Tribes , Quake 3 หรือเกมยุค 2000 อย่าง Daikatana จึงทำให้มันดังเป็นพลุแตกทันที

 

จากไก่อ่อนสู่นักสู้ในเกมเมอร์ที่พิชิตการแบทเทิลทุกสนามรบ

เรื่องยุทธศาสตร์ทองคำที่พบ บรรดาเกมเมอร์คงพอจะเดาได้ว่าเพราะอะไร เหตุผลหลักคือมันอยู่ใกล้กับตำแหน่งปุ่มอื่นที่ใช้กดสกิล สลับของ อย่าง shilft, control กระทั่งการวางนิ้วโป้งลงบนตำแหน่งของปุ่ม spacebar มือที่เหลืออีกข้างก็กดปุ่มเปลี่ยนปืนได้ไม่เกะกะ ก็ดูพอดิบพอดีไปเสียทุกอย่างจึงทำให้เขาเลือกตำแหน่งบนแป้นจากสี่ปุ่มนี้

แต่ย้อนกลับไปอีกนิด ใครที่คิดว่าเฮ้ย! เป็นแชมป์ขนาดนี้ เจ๋งอยู่แล้วคิดได้ก็ไม่เห็นจะน่าประหลาดตรงไหน ความจริงแล้วเรียกได้ว่าแทบตรงข้าม เพราะกว่าเขาจะเจอขุมทรัพย์นี้บนคีย์บอร์ดก็ต้องโดนคิลจาก Lyle พี่ชายของเขาในเกมให้ชอกช้ำมานับไม่ถ้วนซึ่งมาจากการใช้เมาส์บังคับทั้งหมด ขณะที่พี่ชายของเขาใช้คีย์บอร์ดในการเล่น

Half-Life

ช่วงแรก ๆ ตอน Fong หันมาใช้คีย์บอร์ดก็ไม่ต่างจากคนทั่วไปที่กดแค่ซ้ายขวาเท่านั้น แต่ไม่เช็กแมพจากการดูมุมจอเป็นขึ้นลง แต่เขาไม่ยอมแพ้ ทดลองครั้งแล้วครั้งเล่าจนในที่สุดได้สูตรเด็ดนำทั้ง 2 อย่างคือเม้าส์และคีย์บอร์ดมาประยุกต์ใช้ด้วยกันด้วยปุ่ม WASD จากนั้นมันทั้งสกอร์และสกิลการเล่นของเขาก็ดีขึ้นต่อเนื่องจนในที่สุดก็พิชิตพี่ชายตัวเองได้และไม่เคยแพ้อีกเลย!

อย่างไรก็ตามแม้ว่าปุ่ม WASD จะเป็นสากลและใช้งานได้ดี แต่ Fong ก็ยังบอกว่าอย่าไปนับว่าเป็นการคิดค้นเลยดีกว่า เพราะเขาก็แค่เซ็ตปุ่มให้ตัวเองวางได้สบายนิ้วตัวเองเฉย ๆ ซึ่งแน่นอนว่ามันคงไม่ได้เหมาะกับทุกคน บางคนวางนิ้วตำแหน่งอื่นแล้วถนัดกว่าเขาก็เน้นไปใช้ตัวนั้น

 

FIND ALTERNATIVE CONFIGURATION

ส่วนที่ใครที่คิดภาพไม่ออกเพราะใช้ 4 ปุ่มนี้มานานเลยไม่รู้จะปรับเป็นอะไรดี เรื่องน้ีเราแบ่งมาเล่าสู่กันฟังเล่าสู่กันทดลองแล้วกัน เนื่องจากคนดังที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เต็มเปาก็ไม่ได้ปลื้มการกด WASD นัก

  • Gabe Newell ศาสดาเกมเมอร์หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัท Valve เจ้าของเกม Half-life ที่ทำให้ 4 ปุ่ม WASD โด่งดัง เผยว่าชอบกด ESDF มากกว่า
  • Dario Casali นักสร้างเกม Doom เกมสไตล์ FPS เจ้าแรก ๆ ชื่นชอบการกดแบบ ASXC มากกว่า

เอาเป็นว่าเกมเมอร์ชาว UNLOCKMEN อย่างเราก็ถือเสียว่าเอาเกร็ดเรื่องนี้ติดตัวไว้แล้วลองหาโอกาสทดลองเล่นด้วยการตั้งปุ่มแบบใหม่ ๆ ในสไตล์ตัวเองไว้ เพราะตอนนี้เรื่อง E-sport เองก็กำลังมา แถมวันนี้เกมเองก็พลิกโฉมจากเรื่องไร้สาระเป็นอาชีพใหม่ที่น่าสนใจ ทำกันจริงจังและเลี้ยงชีพได้ด้วย (ถ้านายแน่จริง)

 

“หากเราไม่ยอมแพ้ ทุกความพ่ายแพ้สร้างตำนานเสมอ”

 

SOURCE: 1 / 2

anonymK
WRITER: anonymK
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line