ไม่ดีจริงแต่ได้เลื่อนขั้นจัง! ล้วงเหตุผลที่ TOXIC PEOPLE เลื่อนขั้นไวกว่าเราพร้อมวิธีเอาชนะ

โลกของการทำงานที่พวกเราต้องเจอคนร้อยพ่อพันแม่ คงต้องมีสักครั้งที่เราเจอกับ “บุคคลมลพิษ” อุดมเรื่องแย่ ทั้งความเห็นแก่ตัว โม้เก่ง หลงตัวเอง ใช้ทุกวิถีทางเหยียบหัวคนอื่นให้ตัวเองดูดี โกงแค่ไหนก็ชิลได้เหลือเชื่อ เรื่องผิดจรรยาบรรณมันก็ทำได้สบาย แต่ตลกร้ายคือเจ้านายชอบโปรโมตคนพวกนี้เสียเหลือเกิน

เพื่อคลายความสงสัยว่าทำไมเจ้านายดันไร้วิจารณญาณมองไม่เห็นด้านลบเหล่านี้ วันนี้เราจึงล้วงคำตอบจากการวิจัยมาบอก รับรองเลยว่าคุณจะเข้าใจเรื่องนี้มากขึ้นอย่างแน่นอน ที่สำคัญยังได้วิธีเอาชนะ จนเจ้านายมองเห็นค่าของตัวเราด้วย

ไขความลับคนลบ ๆ ทำไมเจิดจ้าในสายตาเจ้านาย

ผลวิจัยล่าสุดที่ตีพิมพ์ใน Personality and Individual Differences ที่ Klaus J Templer วิจัย ชี้ให้เห็นว่าทักษะด้านการเมืองมีอิทธิพลกับการเติบโตในหน้าที่การงาน ใครที่คิดภาพไม่ออกว่าทักษะพวกนี้มันหน้าตาเป็นอย่างไรก็ให้คิดถึงนักการเมืองสักคนเวลาทำงาน เขาจะมีคลังคำพูดจูงใจดี ๆ ขนมาใช้ มีความเป็นนักไกล่เกลี่ย ประนีประนอม และเก่งเรื่องแสดงความจริงใจในใบหน้าให้อีกฝ่ายเห็น

ฟังดูทักษะการเมืองมันก็มีแต่ทักษะดี ๆ ใช่ไหมล่ะ? แต่เรื่องแปลกคือมันมักอยู่ในคนที่ไม่ดีซะงั้น ซึ่งเรื่องนี้เขาก็ไม่ได้พูดปรักปรำแบบส่ง ๆ แต่ใช้วิธีสุ่มสำรวจจากกลุ่มพนักงานจำนวน 110 คนให้ประเมินสกิลด้านการเมืองกันสักหน่อยว่าตัวเองมีมากน้อยแค่ไหน จากนั้นค่อยนำคนเหล่านี้ไปทำแบบสำรวจเช็กบุคลิกภาพจากหนังสือ H-factor of personality หนังสือที่ว่าด้วยหกมิติพื้นฐานของบุคลิกภาพมนุษย์

ใครที่ได้คะแนนสูงจัดว่าเป็นคนซื่อสัตย์อ่อนน้อม ส่วนคนไหนคะแนนปิ๋วค่อนไปทางต่ำก็แน่นอนว่าเป็นไปในทางตรงข้าม จากนั้นเอามาเทียบกันแล้วเอาไปสอบถามความเห็นจากหัวหน้าอีกที (สามทอดทีเดียว)

ผลมันก็ดันออกมาชัดว่าพนักงานประเภท Toxic people คนไหนก็ตามที่เจนจัดเรื่องทักษะด้านการเมืองส่วนใหญ่ เจ้านายมักประเมินว่าเป็นคนมีศักยภาพสูง เฉียบคม ทำให้คนเหล่านี้โดดเด่นในสายตาของนายทันทีจนมีทีท่าว่าจะได้เป็นใหญ่เป็นโตในอนาคต

อย่าตำหนิเจ้านายเมื่อโปรโมตผิด

แล้วเราพอจะมีทางขัดขาคนเหล่านั้นไม่ให้เลื่อนขั้นได้ไหม? ทำไมเจ้านายไม่รู้จักดูให้ละเอียดก่อนโปรโมต ถ้ากำลังสบถอยู่ อย่าไปโทษเจ้านายเลย เพราะขนาดนักจิตวิทยาที่เชี่ยวชาญด้านบุคลิกภาพกับการประเมินพฤติกรรมยังสารภาพเลยว่าพวกเขาดูออกแค่ช่วงแรก ๆ เท่านั้นแหละ ยิ่งถ้าพนักงานคนนั้นมีทักษะด้านการเมืองติดตัวนั่นก็ยิ่งยากมากที่จะดูออก ดังนั้น ถ้าหัวหน้าคนไหนมาอ่านบทความนี้ แล้วไม่อยากให้มีพนักงานคนไหนก่อหวอดการเมืองภายในเข้า ก่อนจะโปรโมตก็ควรประเมินความเห็นของพนักงานเสียก่อน เพราะเหล่า Toxic people เหล่านี้เป็นนกรู้ เวลาแสดงพฤติกรรมธาตุแท้ให้เห็น การแสดงออกระหว่างพนักงานระดับเดียวกันกับหัวหน้าที่มีอำนาจตัดสินใจย่อมไม่เหมือนกันแน่ ๆ อยู่แล้ว

แต่มันก็ใช่ว่าจะมีแต่ด้านลบหรอกนะ ถ้าเราคิดในทางที่ดีก็มีประโยชน์กับองค์กรเหมือนกัน เพราะพวกเขาเทียบได้กับเจมส์ บอนด์ คนไร้หัวใจ ไร้ความกลัว ยึดแค่ตรรกะอย่างเดียว ถ้าเจอสถานการณ์ที่บริษัทเจียนพังต้องลดขนาดลงเพื่อประทังชีวิต การต้องไล่เลย์ออฟพนักงานออกมันเป็นภาระหนักและสร้างบาดแผลในใจสำหรับผู้จัดการปกติ แต่สำหรับผู้จัดการ Toxic people ที่มีสกิลเจรจายอดเยี่ยมอยู่แล้วเรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องสบายมาก

ทางออกช่วยเลื่อนขั้นในสายตาเจ้านาย

ถ้าพวกเราเป็นคนซื่อสัตย์ อ่อนน้อมกว่าใคร มั่นใจว่าเรานี่แหละดีจริงทำเพื่อองค์กรสุดชีวิตและอยากเติบโตในหน้าที่การงาน ผลการวิจัยนี้เขาบอกทางแก้ด้วยว่าคุณต้องไปเพิ่มสกิลการเมืองให้เชี่ยวชาญ ปรับพฤติกรรมจากที่ไม่เคยสุงสิงกับใครอาจจะต้องสร้างเครือข่ายเป็นมิตรกับคนทั้งในและนอกองค์กร โชว์ความจริงใจให้คนอื่นเห็นว่าสนใจฝ่ายตรงข้ามเวลาพูดคุย รับฟังคนอื่นอย่างจริงใจ ถามเขากลับในเรื่องที่ความเชี่ยวชาญและความสนใจ ยิ่งถ้าสามารถสร้างความเป็นปึกแผ่นกลุ่มก้อนกันคนอื่นได้ด้วย พวกเขาก็จะฟังในสิ่งที่คุณแนะนำหรือพูดอย่างแน่นอน

สิ่งนี้เรามั่นใจว่ามันจะมีประโยชน์กับการทำงานเมื่อคุณต้องก้าวขึ้นไปรับตำแหน่งหัวหน้าจากการโปรโมตแน่ ๆ เพราะคุณมีความสามารถพอ ที่สำคัญเวลาเจ้านายประเมินความสามารถคุณจากความเห็นเพื่อนร่วมงานด้วยกันยังไงก็ต้องออกมาดีอย่างไม่ต้องสงสัย

แม้สกิลด้านการเมืองจะเป็นเรื่องหมู ๆ สำหรับบางคน แต่กลับรู้สึกว่าเป็นเรื่องกล้ำกลืนสำหรับคุณ UNLOCKMEN ก็ขอเป็นกำลังใจและยืนยันว่าคุณสามารถเรียนรู้มันได้ไม่ต้องกังวล ตราบเท่าที่คุณฝึกมันเข้าไว้ ใช้มันอย่างโปร่งใส และผลักดันองค์กรให้ถึงเป้าหมาย รับรองได้ว่ามันจะยิ่งเพิ่มศักยภาพให้กับตัวคุณและบริษัทได้แน่นอน

SOURCE: 1  / 2