Work

“WORK-LIFE BALANCE สไตล์เดนมาร์ก”ทำไมคนทำงานในประเทศนี้จึงมีความสุขที่สุดในโลก

By: PERLE August 15, 2018

ทุก ๆ ครั้งเมื่อมีการจัดอันดับประเทศที่ผู้คนมีความสุขที่สุด, สงบที่สุด, น่าอยู่ที่สุด เหล่าบรรดาประเทศในยุโรปตอนเหนือหรือที่เรียกกันว่า ‘สแกนดิเนเวีย’ มักจะคว้าตำแหน่งชนะเลิศไปครองเสมอ เช่นเดียวกับการจัดอันดับประเทศที่การทำงานมีความสุขที่สุดที่เราจะพูดถึงในวันนี้ ซึ่งผู้ชนะอันดับ 1 ในรายการนี้อย่างสม่ำเสมอคือ ‘ประเทศเดนมาร์ก’ ดินแดนโคนมแห่งสแกนดิเนเวีย

นอกจากบรรยากาศประเทศที่น่าอยู่แล้ว Work-Life Balance ของประเทศนี้เป็นยังไงกันนะ อะไรคือสาเหตุที่คนทำงานมีความสุขที่สุด และมันแตกต่างจากบ้านเรายังไง เตรียมเสื้อกันหนาวไว้ให้ดี เพราะ UNLOCKMEN จะพาทุกคนบินลัดฟ้าสู่เดนมาร์กค้นหาคำตอบของคำถามนี้ด้วยกัน

Working Hours

วัฒนธรรมของประเทศเดนมาร์กนั้นให้ความสำคัญกับครอบครัวหรือชีวิตด้านอื่น ๆ ไม่น้อยไปกว่าเรื่องงาน ดังนั้นเวลาทำงานของพวกเขาจะไม่เกินวันละ 8 ชั่วโมงอย่างเด็ดขาด ซึ่งโดยเฉลี่ยผู้ชายชาวเดนมาร์กจะทำงานสัปดาห์ละ 41 ชั่วโมง ส่วนผู้หญิงอยู่ที่ 35 ชั่วโมงเท่านั้น และมีคนจำนวนเพียง 2% ของประเทศเท่านั้นที่ทำงานมากกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน ในขณะที่จำนวนเฉลี่ยทั่วทั้งโลกอยู่ที่ 13%

ในเดนมาร์กชุดความคิดที่ว่า ‘ยิ่งคุณทำงานหนัก ทำงานนาน ผลลัพธ์ของงานที่ออกมาจะดี’ เป็นวิธีคิดที่ผิดมหันต์ พวกเขามุ่งเน้นเรื่องความสุขในการทำงานและเชื่อว่าการทำงานอย่างมีความสุข ผลลัพธ์ที่ได้จะออกมาดีโดยตัวของมันเอง นอกจากเวลาทำงานไม่ไม่มากไม่น้อยจนเกินไปแล้ว พวกเขายังได้สิทธิ์ในการลาพักร้อนยาวนานถึง 5 สัปดาห์ต่อปีอีกด้วย

Low Power Distance

หนึ่งสิ่งที่มักจะบั่นทอนความสุขของเหล่าคนทำงานคือคำสั่งอันเด็ดขาดจากหัวหน้างานที่เราไม่สามารถให้คำแนะนำหรือเสนอะแนะอะไรได้นอกจากก้มหน้าทำตามเท่านั้น แต่วัฒนธรรมองค์กรในประเทศเดนมาร์ก หัวหน้างานมักจะไม่สั่งงานในลักษณะของคำสั่งแต่จะเป็นการแนะนำหรือถามความคิดเห็นเสียมากกว่า ทำให้พนักงานรู้สึกว่าตัวเองมีส่วนร่วมในงานได้อย่างเต็มที่และไม่กดดันจากคำสั่งมากจนเกินไป

นอกจากนั้นในทางกฎหมาย ประเทศเดนมาร์กยังได้วางหลักไว้ว่าทุกบริษัทต้องมีพนักงานจำนวนไม่น้อยกว่า 35 คนเข้าไปนั่งในบอร์ดบริหารเพื่อให้เหล่าคนทำงานได้มีสิทธิ์มีเสียงในนโยบายต่าง ๆ ขององค์กรด้วย ไม่ใช่มีหน้าที่รับคำสั่งเพียงอย่างเดียว

Unemployment Benefits

การตกงานในบางประเทศหรือแม้แต่ในบ้านเราคือสิ่งเลวร้ายในชีวิตที่ยากจะรับมือ ความเครียดมากมายถาโถมเข้ามาเกินกว่าจะรับมือไหว แต่สำหรับประเทศเดนมาร์กนั้นการตกงานไม่ใช่เรื่องเลวร้ายขนาดนั้นเพราะคุณยังจะได้รับ 90% ของเงินเดือนทุกเดือนในช่วงที่คุณยังไม่ได้งานใหม่ทำ ดังนั้นนอกจากปัญหาด้านการเงินที่คุณไม่ต้องกังวลระหว่างการว่างงานแล้ว นโยบายนี้ยังเอื้อต่อการออกจากงานเพื่อค้นหางานที่เหมาะกับตัวคุณด้วย เนื่องจากคุณแทบจะไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงใด ๆ เลยในการว่างงาน

Constant Training

นับตั้งช่วงกลางศตวรรษที่ 19 เดนมาร์กมีนโยบายสนับสนุน ‘การศึกษา’ ตลอดชีพมาโดยตลอดและยังใช้ถึงปัจจุบันโดยปรับให้เข้ากับวัฒนธรรมองค์กรยุคใหม่ ทุกบริษัทในประเทศเดนมาร์กจะมีข้อกำหนดอย่างละเอียดว่าต้องสนับสนุนพนักงานให้ได้รับการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะใหม่ ๆ ซึ่งสิ่งนี้เองทำให้ตลาดแรงงานในประเทศเดนมาร์กเป็นตลาดแรงงานที่มีคุณภาพ ทุกคนพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องจนสามารถปรับตัวให้เข้ากับการทำงานในรูปแบบที่หลากหลายได้

Focus on Happiness

‘Arbejdsglæde’ ภาษาเดนมาร์กคำนี้มีความหมายว่าการทำงานอย่างมีความสุข การที่พวกเขาบัญญัติศัพท์คำนี้ขึ้นมาคงพอทำให้เห็นภาพว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ขนาดไหน

การทำงานในความหมายของชาวเดนมาร์กนั้นไม่ใช่แค่การลงแรงกายแรงสมองแลกกับเงินค่าจ้างเท่านั้น แต่ความสุขที่ได้จากการทำงานก็สำคัญไม่แพ้ค่าจ้างเลยทีเดียว ทำให้องค์กรหรือบริษัทต่าง ๆ ในประเทศเดนมาร์กนั้นมักจะมีนโยบายหรือสิ่งแวดล้อมซึ่งมุ่งเน้นสร้างความสุขให้แก่เหล่าพนักงาน

การที่เรายกประเด็นนี้มาพูดไม่ได้หมายความว่าเราต้องการอยากให้เปลี่ยนวัฒนธรรมการทำงานของบ้านเราเป็นเหมือนเดนมาร์กโดยทันที เพราะเราเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องยากมาก ทุกประเทศย่อมมี ‘Norm’ เป็นของตัวเอง แต่การค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนไปทีละนิดก็ใช่จะเป็นไปไม่ได้ การทำงานด้วยความสุขย่อมดีกว่าการทนทำงานเพื่อหาปัจจัยในการสร้างความสุขอย่างแน่นอน เพราะเราไม่รู้เลยว่าระหว่างทางที่เราดิ้นรนไขว่คว้าหาความสุขอยู่นั้น เรามองข้ามความสุขอะไรไปบ้าง…

 

SOURCE1/SOURCE2/SOURCE3/SOURCE4

PERLE
WRITER: PERLE
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line