Life

ปอกเปลือกความคิดหนุ่มในฝันของสาวไทย “โย่ง-อาร์มแชร์”

By: unlockmen February 19, 2016

คำนิยามของการเป็นผู้ชายที่ดีต้องประกอบไปด้วยอะไรบ้าง ไม่รังแกผู้หญิง ไม่นอกใจ สุภาพบุรุษ คอยเอาใจใส่ปรนนิบัติ ไปรับไปส่ง ไม่ทำให้เธอเดือดเนื้อร้อนใจ ต่างๆ นานาที่จะมีการนิยามขึ้น ส่วนใหญ่ก็คงเป็นคำนิยามที่มาจากฝ่ายหญิงมากกว่าที่จะมาจากผู้ชายด้วยกัน เพราะบางครั้งความเป็นผู้ชายก็ตัดสินความแมนจากการทำอะไรห่ามๆ มากกว่าทำสิ่งดีๆ แต่ทว่าบุคคลที่ UNLOCKMEN กำลังจะพูดถึงวันนี้เป็นทั้งชายในฝันของสาวไทย และถือเป็นผู้ชายเท่ในสายตาผู้ชายด้วยกัน “โย่ง – อนุสรณ์ มณีเทศ หรือ โย่ง อาร์มแชร์ ที่ทุกคนคุ้นเคยดี

160219-yong-18

โย่ง เป็นศิลปินวง Armchair(อาร์มแชร์) วงอินดี้ป็อปที่ครองใจแฟนๆ เป็นเวลามานานกว่าสิบปี เขามีน้ำเสียงนุ่มนวลที่เข้ากันกับเพลงรักอบอุ่นที่ฟังทีไรก็รู้สึกสบายใจ และเป็นคนรักของ ก้อย – วลัยลักษณ์ ศิลปินจากวง Saturday Seiko ทั้งสองได้รับฉายาว่าเป็นคู่รักเด็กแนว ภาพที่เราเห็นคือความอบอุ่นที่ผู้ชายคนนี้มีต่อหญิงสาวที่เธอรัก ในขณะเดียวกันโย่งก็กำลังเป็นนักแสดงหน้าใหม่อีกหนึ่งคนที่น่าจับตามอง และอีกกิจกรรมที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือเขากำลังให้ความสนใจในการขี่ม้า และเล่นกีฬาโปโลอย่างจริงจัง วันนี้ UNLOCKMEN มีโอกาสได้พูดคุย เจาะประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับชีวิตของโย่งให้มากยิ่งขึ้น ปอกเปลือกความคิดทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรัก ความฝัน ความหลงใหล ทั้งหมดนี้ไปด้วยกันได้อย่างไร บทสัมภาษณ์นี้จะทำให้คุณเข้าใจโย่งได้มากยิ่งขึ้น และน่าจะเข้าใจได้ว่าทำไมเขาจึงเป็นหนุ่มในฝันที่ครองใจสาวไทยไปมากมาย

อัพเดทกับชาว UNLOCKMEN หน่อยว่าตอนนี้โย่งทำอะไรอยู่บ้าง

มีละครที่ออนแอร์อยู่สองเรื่อง แล้วก็มีที่กำลังถ่ายอยู่เรื่องหนึ่งครับคือเรื่องคนละขอบฟ้าที่เตรียมออนแอร์ทางช่อง 3 ที่ออนแอร์อยู่ก็มีรหัสปริศนาช่อง 7 แล้วก็หน้ากากนางเอกช่อง workpoint ช่วงปีนี้ก็จะมีละครเวทีอีกเรื่องต่อจากโหมโรง

อย่างนี้ถือว่าวางไมค์จากการเป็นนักร้องแล้วหรือยัง

ยังไม่วางหรอกครับ จริงๆ ก็มีงานดนตรี งานคอนเสิร์ตเรื่อยๆ เพียงแต่ว่าแฟนๆ ยังไม่ได้เห็นซิงเกิ้ลใหม่เท่านั้นเอง ก็จะมีเพลงประกอบละครอยู่เรื่อยๆ

160219-yong-2

จะได้เห็นโย่งในฐานะศิลปินวง Armchair อีกไหม

ได้เห็นแน่นอนครับ เพียงแต่ว่า Armchair เราผ่านช่วงที่เป็นดนตรีกึ่งอุตสาหกรรม กึ่งความชอบส่วนตัวไปพักนึงแล้ว มีช่วงที่เราออกอัลบั้มกันทุกปี 3 ปีติด มีเว้นช่วงเป็นปีครึ่ง แล้วก็มาสองปีอะไรแบบนี้ คือตอนนั้นก็เริ่มรู้สึกว่าเราชอบในการทำเพลง ชอบร้องเพลงอยู่กับดนตรี ชอบที่สุดอะครับ ต่อให้มาเล่นละคร มาขี่ม้าเล่นโปโลอะไรอย่างนี้ ผมก็ยังชอบช่วงเวลาที่อยู่บนเวทีมากกว่าอยู่ดี เพียงแต่เรารู้สึกว่าดนตรีที่ดีหรือเพลงที่ดีมันควรจะเป็นแบบไหน คือแต่ละคนจะมีวิธีการทำงานไม่เหมือนกัน วง Armchair จะเป็นวงที่ค่อนข้างเลือกเยอะ ยิ่งผ่านไปมันก็จะยิ่งเรื่องเยอะ ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความเบื่อ ไม่ใช่ว่าเบื่อเพลงตัวเอง แต่มันรู้สึกว่าก็เป็นเพลงแบบ Armchair อีกแล้ว อยากทำอะไรใหม่ๆ บ้าง สไตล์เดิมก็คงหนีไม่ได้อยู่แล้ว เราก็ใส่อะไรเพิ่มเติมเข้าไปบ้าง อีกส่วนหนึ่งเราก็ไม่อยากให้มันทิ้งช่วงกับแฟนเพลงมาก เวลาทำอะไรสักอย่างมันก็ต้องมีอารมณ์ร่วมนะ ตอนนี้ก็ยังหาฟิลที่จะเป็นเพลงใหม่ไม่เจอ มันยังไม่ดีพอ แต่ว่าก็ยังทำอยู่นะ ยังคุยกับทุกคนอยู่ไม่ได้ตีกัน (หัวเราะ)

ตอนนี้โย่งอยู่ในหลายบทบาท นักแสดงก็เป็น นักร้องก็เป็น นักกีฬาโปโลก็ใช่ อยากให้คนจดจำเราในฐานะไหนมากที่สุด

จริงๆ ผมกำลังคิดเรื่องนี้อยู่ครับ ในสมัยก่อนมันจะมีเมืองหนึ่งชื่อปอมเปอี นักโบราณคดีเขาก็ไปเจอซากของเมืองนี้ แล้วเขาก็เห็นคนตายในท่าทางที่กำลังทำกิจกรรมสักอย่างอยู่ มีทั้งนั่งเล่นหมากรุก หรือแม้แต่กล่อมลูก จริงๆ เขาอาจไม่ได้เป็นแบบนั้นก็ได้ เพียงแต่ว่าเราเห็นเขาแบบนั้น ผมก็เลยนั่งคิดว่าตอนเริ่มต้นคนเห็นผมเป็นนักร้อง ตอนนี้คนเริ่มเห็นผมเป็นนักแสดง ซึ่งสักพักอาจเห็นเป็นนักกีฬาโปโลทีมชาติก็ได้ใครจะไปรู้ ทีนี้ถามว่าสิ่งที่คนเห็นเราเป็นมันสำคัญไหม มันสำคัญนะแล้วมันก็เวิร์ค หากสิ่งที่เราทำในวินาทีนั้นเป็นสิ่งที่เรารู้สึกจริงๆ ถ้าถามว่าตอนนี้อยากให้คนเห็นจำเราแบบไหน ถ้าผมจะตายในเมืองปอมเปอี แล้วสตาฟไว้เป็นพันปีก็อยากอยู่บนหลังม้าครับ

160219-yong-3

160219-yong-7

แสดงว่าความสนใจหลักตอนนี้คือการทุ่มไปให้กับการเล่นกีฬาโปโล

ผมชอบเล่นกีฬานะ ผมเชื่อว่าทุกคนจะชอบเล่นกีฬาอย่างน้อยหนึ่งอย่างเพราะมันสนุก กีฬามันเป็นกิจกรรมที่ทำให้เราได้เจอเพื่อนหลังจากแยกย้ายกันไปหลังเรียนจบ เป็นการแสดงสัญชาตญาณดิบออกมาโดยที่ไม่ได้ไปทำร้ายใคร ทุกอย่างที่ผมทำคือทำด้วยความสนุกหมดเลย แล้วพอทำได้มันก็จะมีเป้าหมายที่จะทำไปให้ถึงระดับท็อปมันก็มองเห็นเส้นทางเริ่มจริงจังขึ้นเรื่อยๆ มันก็เป็นภาพที่ชัดขึ้น ถ้าตาม IG ผมก็จะเห็นว่าเล่นโปโลบ่อยขึ้นขี่ม้าบ่อยขึ้น คนเล่นกีฬาโปโลในเมืองไทยมีไม่เยอะ และคนที่เล่นกันอยู่เขาก็เก่งมาก กีฬาโปโลจะวัดความสามารถกันที่ handicap (แต้มต่อ) มีตั้งแต่ -2 ถึง 10 ซึ่ง 10 มีอยู่บนโลกนี้ประมาณ 20 คน

รักการขี่ม้าจนถึงขั้นไปสักรูปเกือกม้าไว้ที่แขน อะไรที่ทำให้เราตัดสินใจจะสักเจ้าสิ่งนี้ไว้ที่ร่างกาย 

(หัวเราะ) นี่พ่อยังไม่รู้เลย คงรู้วันนี้แหละ ผมหลงใหลม้าตั้งแต่ตอนเป็นนักเรียนศิลปะ คือม้าเป็นสัตว์ที่มี anatomy สวยงามที่สุด เวลาอาจารย์สอนเรื่องกล้ามเนื้อก็ชอบให้เป็นวาดม้า เพราะกล้ามเนื้อมันชัด สเกลมันสวย ผมก็ชอบม้าแล้วก็ฝันว่าวันหนึ่งจะได้ขี่มันสักครั้ง พอได้มาขี่ทัศนคติที่เคยมีก็เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกัน หลายๆ คนที่คิดว่าการขี่ม้า การอยู่บนหลังม้าคือความอิสระ จริงๆ ไม่ใช่เลยครับ ยิ่งอยู่บนตัวสัตว์ขี้ระแวง ตัวใหญ่ พลังเยอะ เราต้องมีสติมาก เลยรู้สึกว่าการที่เราได้เชื่อมต่อกับส่ิงมีชีวิตที่ไม่ใช่คน แล้วมันมีสปิริตบางอย่างอยู่ ก็ทำให้ผมรู้สึกอยากเข้าไปในโลกของเขามากขึ้น พอได้เข้าไปในโลกของเขา เข้าใจเขามากขึ้นก็รู้ว่าเขาเป็นสัตว์ที่ฉลาดและมีพลังมาก แต่ละสายพันธุ์ก็จะมีสปิริตไม่เหมือนกัน บางพันธุ์ไม่ชอบใครมาอยู่หน้า ก็จะเป็นม้าแข่งในสนาม บางพันธุ์ก็ไม่ชอบนำใครเหมือนกัน ในตำนานม้าเป็นสัตว์ที่อยู่ในทุกสถานที่ แล้วก็เป็นสัตว์ชนิดแรกที่มนุษย์นำมาใช้งาน ถามว่าทำไมต้องสักเกือกม้า ก็ตามตำนานเลยครับ เกือกม้าเป็นสัญลักษณ์ป้องกันความชั่วร้าย ทำให้เราโชคดี และสิ่งที่ชอบที่สุดคือมันไว้ปกป้องส่วนที่สำคัญสุดของม้าก็คือขาครับ

160219-yong-4

ตอนนี้โย่งมีผู้หญิงหนึ่งคนที่จะต้องดูแล แล้วโย่งก็มี passion ที่ตัวเองต้องสานฝันมันไปให้ถึงเป้าหมาย แบ่งเวลาอย่างไร ที่จัดแจงทุกอย่างให้ลงตัว 

ง่ายมากเลยครับ ก็พามาด้วยกันเลย (หัวเราะ) อย่างเวลาที่เขาทำอะไรที่เขาชอบเราก็ไปกับเขาเหมือนกัน เราอยู่ด้วยกันจนความชอบมันกลืนกันไปแล้ว คือเหมือนเซ้นต์ที่เรามีมันใกล้กันมาก สิ่งที่เราชอบมันก็จะใกล้กัน ผมชอบขี่ม้า ก้อยก็ไม่เบื่อเพราะก้อยก็ชอบ แล้วก็กำลังจะขี่ม้าเหมือนกัน

ได้ข่าวว่าโย่งใส่ใจก้อยมาก ถึงขั้นไปศึกษาเลยว่าเครื่องสำอางต่างๆ เรียกว่าอะไร เพื่อที่จะเข้าใจความเป็นผู้หญิงได้มากยิ่งขึ้น

ผมเป็นคนชอบรายละเอียดครับ อะไรที่ไม่รู้จะไม่ปล่อยผ่าน เพราะว่าการไปอยู่ในโลกที่เราไม่รู้เราจะรู้สึกอึดอัดมาก การไปร้านเครื่องสำอางกับแฟน เครื่องสำอางก็จะดูแปลกหน้า เราก็แก้ไขมันด้วยการทำความรู้จักมัน อันนี้เรียกว่าอะไร อ่อ eye shadows อ่อ Tint ,Brush on แป้ง Fix หรือ Natural Light ก็พยายามเข้าใจมัน

160219-yong-5

160219-yong-24

โย่งคิดว่าผู้ชายควรเข้าหามันมากขึ้นไหม บางคนก็จะนั่งเซ็งมากๆ เวลาต้องนั่งรอแฟนช็อปปิ้งเครื่องสำอาง

ไม่ใช่แค่เรื่องเครื่องสำอางนะ มันเป็นเรื่องของการใส่ใจรายละเอียด คือผมว่าถ้าคุณเป็นคนที่หยาบมากๆ ไม่ได้แปลว่าพูดคำหยาบนะ แต่คือการไม่ลงลึก ขอแค่เรื่องเดียวเลยที่คุณควรทำคือการใส่ใจรายละเอียดกับคนรัก แล้วคุณจะรู้ว่าชีวิตมันดีขึ้นเรื่อยๆ เวลาที่ทะเลาะกับแฟนต้นเหตุหลักๆ ของมันเลยก็คือความไม่เข้าใจ เหมือนจิ๊กซอว์ที่เหลือมกัน การใส่ใจรายละเอียดทำให้เราเข้าไปสู่โลกเขามากขึ้น ไม่ได้แปลว่าต้องเปลี่ยนตัวเองนะ เพียงแต่ว่าเราไปเที่ยวในอีกประเทศที่เราไม่เคยไปแค่นั้นเอง ถ้าเราใส่ใจรายละเอียดของเขามากขึ้น เราก็จะเห็นว่ามีบางสิ่งที่เราพลาดไป พอผมเข้าไปในโลกของเครื่องสำอาง ก็พบคำตอบว่าเครื่องสำอางทำไมผู้หญิงจะต้องมีเยอะ เพราะสิ่งที่เขาเยอะเนี่ย มันเป็นเรื่องที่ทำให้เขาสวย เหมือนเขาทำให้เราอะ มันเป็นสิ่งที่โรแมนติคมากนะครับ

ยิ่งฟังยิ่งรู้สึกว่าโย่งเป็นผู้ชายอบอุ่น จริงๆ แล้วอบอุ่นแบบที่ทุกคนเห็นไหม โย่งมีมุมดาร์กไซด์อยู่บ้างหรือเปล่า

มี จริงๆ ผมเป็นคนที่เพื่อนสนิทสมัยเด็กๆ ที่เรียกผมว่าไอ้โย่ง จะรู้ว่าผมเป็นคนที่สนุกแล้วก็เต็มที่กับเพื่อนมาก แซวคนโน้นคนนี้ ออกแนวห่ามๆ ด้วยซ้ำ เพื่อนในกลุ่มก็จะบอกว่าผมเนี่ยแหละห่ามที่สุด แต่ว่าคนเราไม่ได้มีแค่ด้านเดียว ความอบอุ่นในตัวเราก็มี เหมือนการดูหนังที่เราก็ชอบหลากหลายแนว อย่างที่บอกว่าผมเป็นคนที่ใส่ใจรายละเอียด ผมก็ชอบที่จะทำให้คนรอบข้างมีความสุข การทำให้เพื่อนมีความสุขได้ ก็คือทำตัวให้สนุก เล่นมุกอะไรห่ามๆ ทะลึ่งๆ ไป แต่การทำให้แฟนมีความสุขก็ต้องทำในสิ่งที่เขาชอบเช่นกัน จะให้หยาบใส่ก็คงไม่ใช่

160219-yong-6

160219-yong-26

ผู้ชายส่วนใหญ่จะค่อนข้างหวงชีวิตโสด แต่โย่งอยู่ในฐานะคนที่ใช้ชีวิตคู่ โย่งคิดว่ามันยากไหมที่จะได้ใช้ชีวิตอิสระในการทำสิ่งที่ชอบ 

ผมเชื่อว่ามนุษย์ไม่เคยมีอิสระอยู่จริง เพียงแต่เราคิดไปเองว่าการที่ไม่มีคนมาสั่งให้เราทำในสิ่งที่เราไม่ชอบนั้นคืออิสระ แต่จริงๆ แล้วมนุษย์ต้องการความอบอุ่น ที่คุณอยากเป็นโสดก็เพราะยังไม่เจอคนที่ดีเท่านั้นเอง เพราะคนโสดทุกคนบนโลกก็อยากจะมีคู่ เพียงแต่ว่ามันยังไม่เจอ ถ้าให้ผมโสด กลับบ้านดึก ไปไหนก็ได้ไม่มีใครตาม มีแฟนกี่คนก็ได้ เทียบกับตอนที่ผมเศร้าแล้วมีคนให้กอดที่บ้านคุ้มกว่ากันเยอะ

แสดงว่าการมีคนรักไม่ใช่อุปสรรคที่ทำให้เราไม่ enjoy กับชีวิต

ไม่ครับ ถ้าการมีแฟนทำให้ขาดอิสระ แสดงว่าคุณต้องการความโลดโผนทางเพศ ถูกไหมฮะ มันอาจจะดูเท่นะที่มีแฟน 5 คนในเวลาเดียวกัน หรือเคยมีอะไรกับผู้หญิงระดับนางแบบสวยงาม แต่ว่าสุดท้ายมันก็เป็นเรื่องที่อีก 5 ปีผ่านไปก็กลายเป็นแค่ลมปาก แต่ถ้าคุณพบใครสักคนที่ดีใจกับคุณเวลาที่คอนเสิร์ตมันสำเร็จ แฮปปี้ไปด้วยกัน หรือมีคนที่คุณกอดได้เวลาที่คุณรู้สึกว่าโลกของนอกแมร่งเลวร้ายว่ะ เขาอาจจะไม่ได้สวยมาก หรือต้องเป็นนางแบบ แฟนตาซีเรื่องเซ็กส์อะไรขนาดนั้น แต่สามารถอยู่กับคุณไปได้ตลอดชีวิต เขาจะไม่มีทางเป็นอดีตได้เลย

160219-yong-8

ว่ากันว่าผู้ชายต้องมีความเจ้าชู้ถึงจะเป็นผู้ชายจริงๆ โย่งเห็นด้วยกับเรื่องนี้ไหม

อาจจะไม่ใช่คำว่าต้อง แต่ผู้ชายเจ้าชู้มีเสน่ห์ เพราะผู้ชายเจ้าชู้จะมีหัวใจที่เข้าใจความรักอยู่ ถามว่าผมเจ้าชู้ไหม ผมคงเจ้าชู้ในแง่ของทฤษฎี (หัวเราะ) คือเวลาที่ต้องเขียนเพลง ใช้อารมณ์ในการแสดงมันต้องเข้าใจว่าผู้หญิงคนนี้สวย น่ารัก น่าจีบจัง ถ้าได้เป็นเมียนะ เป็นทฤษฎีอะไรแบบนี้ แต่ในทางปฏิบัติมันคงไม่ได้สนุกจริงๆ มันอาจจะเหนื่อยก็ได้ ผมว่าความเจ้าชู้ไม่จำเป็นต้องมีในผู้ชายทุกคน คือถ้าความจำเป็นในสิ่งที่คุณมีมันทำให้คนรักเสียใจ มันไม่ต้องมีก็ได้นะผมว่า เจ้าชู้อะมีเสน่ห์ครับ แต่มันไม่สามารถอยู่ด้วยจริงๆ ได้

มีอะไรในชีวิตที่โย่งอยากปลดล็อคมันอีกไหม 

โห มีเยอะมากเลยครับ ผมอยากทำอัลบั้มเดี่ยวสักชุดที่อยากทำมานานแล้วแต่มีข้อจำกัดหลายอย่าง เอาจริงๆ ชีวิตผมไม่ต้องการอะไรมากแล้วอะ มีแฟนได้กินอยู่กับสิ่งที่ชอบ ทุกวันนี้อยากทำให้ดีก่อน เพราะกิจกรรมเยอะมากเลยครับ อัลบั้มไม่ได้ออกนานแล้ว แฟนๆ ก็เริ่มจะบ่นบ้าง ละครก็เพิ่งเริ่มยังเป็นนักแสดงมือใหม่ก็ต้องพัฒนาไปอีก ขี่ม้านี่ก็ยังมีคนเก่งกว่าเราตั้งเยอะ แล้วก็อยากไปแข่งโปโล ที่ Palermo,Argentina เพราะที่นั่นคือสรวงสวรรค์แห่งกีฬาโปโล นักกีฬาโปโลมือหนึ่งของโลกต่างก็อยู่ที่นั่น มันเหมือนกับได้ไปฟุตบอลโลกของนักฟุตบอลเลยทีเดียว อยากไปเข้าแคมป์เรียนโปโลที่อังกฤษ และเดินทางไปขี่ม้าในซาฟารีที่ Okavango ที่นั่นเราสามารถควบม้าไปพร้อมกับยีราฟทั้งฝูงได้เลยครับ ตอนนี้กำลังจะตั้งชมรม Horse Trail riding จะรวบรวมสมาชิกที่รักการขี่ม้า และเป้าหมายคือไปขี่ม้าTrail riding ในเส้นทางที่สวยงามรอบโลก และถ้าจะทำอะไรเพิ่มอีกสักอย่างก็คงอยากมีลูกครับ

160219-yong-21

160219-yong-22

แล้ววางแผนไว้หรือยังว่าจะมีลูกเมื่อไร

ตอนแรกคิดว่าไอ้เรื่องนี้มันง่ายมาก สุดท้ายมันไม่ได้เป็นไปตามแผนครับ ก็เลยรู้สึกเครียด แล้วก็ช่างมัน เคยคุยกับคุณก้อยว่าเอาอย่างไรดี หรือว่าคนเราไม่จำเป็นต้องมีลูกเป็นแบบนี้ดีแล้ว แต่พอนั่งคิดกันดีๆ เรามีภูมิปัญญาบางอย่างที่อยากถ่ายทอดให้กับลูก ไปถ่ายทอดให้เพื่อนมันก็ไม่ฟังแล้ว ให้ลูกเพื่อนมันก็ฟังแม่มัน เรามีความคิดว่าถ้าเรามีลูกเราก็อยากให้เขาเจออะไรดีๆ แบบที่เราเจออะ ที่อยากมีลูกก็เพราะอยากให้เขามาเจออะไรที่สวยๆ บนโลกนี้อย่างเดียว ส่วนเรื่องจะเรียนที่ไหนเป็นคนอย่างไรอันนั้นเป็นเรื่องของเขา แค่ให้เขาได้เจอสิ่งสวยงาม เข้าใจความผิดหวังที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ก็พอ

ทำอะไรมาก็เยอะ ถ้าเปรียบเทียบความสำเร็จเป็นขั้นบันได โย่งคิดว่าตอนนี้ตัวเองอยู่บนบันไดความสำเร็จขั้นที่เท่าไรแล้ว

ถ้ามองเป็นตัวเลขไอ้ที่อยากจะทำก็ได้ทำหมดแล้ว เอาเป็นประมาณ 7 แล้วกัน ถ้ามีลูกก็อาจจะเป็น 8 ถ้าลูกโตแล้วเป็นคนนิสัยดีไม่เกเรก็คงจะเป็น 9 10 คือแก่แล้วตายไปพร้อมกับเมีย

160219-yong-10

จากการคุยกันเราคิดว่าโย่งเป็นคนที่อินเรื่องความรักทีเดียว แบบนี้โย่งมีเคล็ดลับในการดูแลความรักของตัวเองอย่างไร

ทุกวันนี้เขาจะดูแลผมมากกว่า เขาดูแลผมเหนื่อยกว่าเขาทำงานอีก ก็เลยตั้งใจว่าจะดูแลตัวเองให้ดีขึ้น เขาจะได้ไปทำงานที่ชอบ ทำ DIY ในแบบที่เขาชอบ พอมาเป็นนักแสดงก็มีความเครียด เราก็ทะเลาะกันบ่อย ผมก็รู้สึกว่ามันไม่ดี จะพยายามเป็นคนใจเย็นขึ้น ปล่อยวางสิ่งที่มันไม่เกี่ยวกับชีวิตให้มากขึ้น ผมชอบทำอาหารให้ก้อยกิน ก็จะพยายามทำให้บ่อยขึ้น

ขอหนึ่งเพลงที่เหมาะกับชีวิตโย่งในช่วงนี้สุดๆ 

ก็คงเป็น My Ever Changing Moods ซึ่งมันจะมีท่อนนึงครับ The past is knowledge – the present our mistake And the future we always leave too late I wish we’d come to our senses and see there is no truth ซึ่งเราก็ชอบเพลงนี้ตั้งแต่เด็กๆ เพิ่งมาเข้าใจมันจริงๆจัง ช่วงนี้ Bitter turns to sugar, some call a passive tune But the day things turn sweet, for me won’t be too soon; คือท่อนนี้นี่มันต้องคนที่เข้าใจชีวิตจริงๆ เลยนะถึงจะเขียน คนฟังก็พอเข้าใจนะตั้งแต่เด็กๆ แต่มันมาเก็ทเพลงนี้ ช่วงที่ต้องเปลี่ยนอะไรหลายๆ อย่างในชีวิต ได้ทำอะไรใหม่ๆ ได้มองย้อนไปเรื่องที่เคยทำอะไรผิดๆ ได้เห็นความสมบูรณ์ของชีวิตที่มันฟื้นฟูตัวมันเอง โดยที่เราไม่ต้องไปดัดแปลงอะไรมันเลย

160219-yong-12

160219-yong-20

160219-yong-23

160219-yong-16

 

ขอบคุณสถานที่ถ่ายทำ : VR SPORT CLUB และ สมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line