Business

ZERO TO HERO ​: คุณชัยพร นักบุกเบิก COMMUNITY ผู้ชายจากความเชื่อและแพสชั่น ‘UNLOCKMEN’

By: anonymK February 28, 2019

เรามักจะเห็นผู้หญิงจับกลุ่มกันเรียกร้องสิทธิ์หรือแสดงความคิดเห็นร่วมกัน เสียงของพวกเธอกลายเป็นไวรัลกระแสหลักในสังคมผ่านสื่อ แต่หลายคนกลับไม่รู้ว่าผู้ชายเราก็มีความเป็นกลุ่มก้อนและรักการสร้าง community ใหม่ ๆ เช่นเดียวกัน แล้วผู้ชายเราคุยกันที่ไหน ผู้ชายอยากคุยกันไหม เราคุยอะไรกัน และเราได้อะไรจากการรวมแก๊ง

คำตอบนี้เราคงต้องให้ผู้ชายที่รวมกลุ่มคนจำนวนกว่า 700,000 คน สร้างพื้นที่ขนาดใหญ่บนโลกโซเชียลอย่าง UNLOCKMEN ที่มีผู้เข้าชมในเว็บไซต์ราวสองล้านคนต่อเดือน ไว้ให้ผู้ชายออกมาพูดคุยกันอย่างเปิดเผย ปลดล็อกศักยภาพ มาแชร์แลกเปลี่ยนเรื่องราวของเขาให้เราฟัง เจ้าของบ้าน UNLOCKMEN ที่เริ่มต้นจากคอมพิวเตอร์ 1 ตัวและความคิดของเขา คุณกึ้ง – ชัยพร ไตรวัฒน์ศิริวัฒน์ Editor in chief และผู้ก่อตั้ง UNLOCKMEN

 

“ผู้ชายเป็นกลุ่มคนที่ค่อนข้างซับซ้อน คือเขาอาจจะ comfortable กับคนที่สไตล์เดียวกันเหมือนกับกลุ่มเพื่อน มากกว่าที่จะคุยกับคนแปลกหน้า
ผมเลยคิดว่าการสร้าง community แบบนี้ให้คนได้คุยกันจริง ๆ ทำให้เกิด connection มันทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน และเกิดการ learning
ถ้าเราไม่ได้แชร์ข้อมูลกับใคร มีอะไรแล้วเก็บไว้คนเดียว มันจะทำให้เราติดกับกรอบความรู้และคำตอบจากความคิดตัวเอง ซึ่งเราอาจจะไม่สามารถพัฒนาไปไหนเลยก็ได้”

UNLOCKMEN ที่เข้าใจผู้ชายได้ดีเกิดขึ้นจากจุดเริ่มต้นของผู้ชายที่ไม่ได้สมบูรณ์พร้อม แต่แสวงหาส่วนเติมเต็ม รินน้ำเข้าไปในแก้วเปล่า เพิ่มสกิลเพื่อพัฒนาชีวิตของตัวเอง เขาพบว่ายิ่งอยู่ในสังคมชายด้วยกันก็ยิ่งมองเห็นความแตกต่างที่พัฒนาได้หลายจุด เพราะการปรับเปลี่ยนแค่นิดเดียวสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้มหาศาล แต่เวลานั้นกลับไม่ค่อยมีแหล่งที่พูดถึงข้อมูลเหล่านี้ จึงเป็นเหตุผลให้อยากลุกขึ้นมาทำอะไรให้สังคมเกิดการแชร์ความรู้และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเหล่านั้นให้เพื่อนฟัง

“จริง ๆ UNLOCKMEN มาจากไอเดียที่เราอยากจะ Unlock Men’s Potential เราต้องการที่จะปลดล็อกศักยภาพของผู้ชาย เราเริ่มต้นเร็วมาก พูดคุยคอนเซ็ปต์แล้วปิ๊งมันขึ้นมาเลยว่าใช่ มันเป็นสิ่งที่ยังไม่มีในวันนี้ ตกลงลองทำเลยแล้วกัน! แต่ว่าระหว่างทางแน่นอนมันไม่ใช่ทำแล้วสำเร็จเลย มันใช้ระยะเวลาทดลองนานมาก

UNLOCKMEN เริ่มต้นมาจากคอมพิวเตอร์แค่ตัวเดียว มาถึงวันนี้ก็ผ่านมาได้ร่วม 7 ปีแล้ว โดย 2 ปีแรกที่เราเริ่มต้นลองผิดลองถูกมา ลงทุนเงินทิ้งไปเรื่อย ๆ จนถึงเงินก้อนสุดท้ายที่ลงทุน กะว่าถ้ามันไม่สำเร็จอีกก็ไม่เสียใจ เพราะเรามองว่ามันเป็น 2 ปีที่ไม่ใช่การเสียเวลาเปล่า เป็นการ Learning by Doing ที่ทำให้เราเห็นความสำคัญของการสร้าง Community ตั้งแต่รากฐาน

เราปรับปรุงทั้งเรื่องดีไซน์ คุณภาพ และ Insight บวกกับการที่เราเริ่มมีทีมงาน Attitude เดียวกันเข้ามา เริ่มมาจาก 1 คน 3 คน 4 คน UNLOCKMEN ไม่ใช่บริษัทที่เกิดมาแล้วมีเงินเยอะหรือมี Investor โยนเงินมาให้ มันเกิดมาจาก ค่อย ๆ ขยายคน 2 คน เก็บหอมรอมริบแล้วค่อย ๆ ขยายทีมไปเรื่อย ๆ มันยาก แต่มันก็เป็นไปได้ 

สิ่งที่ทำให้เราสำเร็จ น่าจะเป็นเพราะเราให้ความสำคัญกับการสร้างพื้นที่ข้างในมาก ๆ ในขณะที่หลายบริษัทเลือกใช้ freelance จำนวนมากเพราะไม่อยากเสี่ยงกับต้นทุนที่ตามมาเป็นแผง แต่สำหรับตัวผมเอง ผมเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับเรื่องพื้นที่ และการอยู่ร่วมกันของคนในพื้นที่มาก ๆ ผมไม่คิดว่าการที่เราไม่เคยเห็นหน้ากันหรือการที่เราไม่ได้เห็นเป้าหมายเดียวกันอยู่ดีดีเราจะมาทำงานร่วมกันให้สำเร็จได้”

ผลตอบรับเกินคาดเกิดจากความมุ่งคัดสรรสิ่งที่ดีเพื่อนำเสนอ จากพลังภายในที่ร่วมลุยกันมาทำให้วันนี้ กลุ่มคนเพียง 10 กว่าคน กลายเป็นกำลังสำคัญผลิตคอนเทนต์คุณภาพสร้างความเชื่อมั่นให้คนติดตามและส่งต่อ ผลจากการสร้าง Community ที่ดีข้างใน ก่อเกิดเป็นอีก Community ที่สะท้อนตัวตน ช่วยกันถ่ายทอดเรื่องราวที่มุ่งปลดล็อคศักยภาพของผู้คน ซึ่งวันนี้ไม่ใช่แค่ผู้ชายเท่านั้น เรามีผู้อ่านที่เป็นผู้หญิงจำนวนมากใน Community นี้เช่นกัน

แม้เรื่องเล่าทั้งหมดมาจากเจตนารมณ์ขับเคลื่อนเพียงหนึ่งเดียวอย่าง Everything Guys Need แต่ส่ิงที่เราเห็นจาก Engage ผ่านการคุยกันในหน้าเพจและตัวเลขสถิติหลังบ้านผ่านการพูดคุยสอบถาม เราพบว่าพื้นที่ของ UNLOCKMEN กลายเป็นพื้นที่ที่ไม่ได้มีแต่ผู้ชายเท่านั้น ซึ่งเป็นความตั้งใจแรกสุดที่เราอยากให้เกิดการขยายและต่อยอดของ Community ให้เติบโตขึ้นไปเรื่อย ๆ

ความจริงที่น่าสนใจคือผู้หญิงเองก็อยากเข้าใจผู้ชาย เธอเองก็ต้องการเติมเต็มไลฟ์สไตล์ให้ชีวิตจากคอนเทนต์จากอีกมิติที่ปกติไม่ค่อยได้เห็นหรือรับรู้ และนี่ทำให้ Community แบบ UNLOCKMEN แข็งแกร่งและเติบโตมากกว่าที่เขาตั้งใจไว้

“เรื่องราวที่เรานำเสนอเป็นเรื่องค่อนข้างที่จะแมนมาก ๆ แต่ว่า จริง ๆ แล้วมี ผู้หญิงจำนวนไม่น้อยเลยเหมือนกันเข้ามาอ่านเข้ามาเป็นอยู่ในครอบครัวเดียวกันกับ UNLOCKMEN ทั้งทีมงานเองและคนอ่าน ผมว่ามันเป็นผลพวงมาจากการสร้างเนื้อหาที่น่าเชื่อถือ

เวลาไปตามงานต่าง ๆ ผมเคยเจอหลายคนที่เป็นผู้หญิงติดตาม UNLOCKMEN มันน่าสนใจมาก ๆ เพราะแสดงว่าสิ่งที่เราทำมี impact กับสังคมได้พอสมควร ไม่ใช่แค่ผู้ชายมาอัปเดตข้อมูล มาพัฒนาตัวเอง ผู้หญิงเองก็มาหาข้อมูลไปปรับใช้กับตัวเอง บอกแฟน แนะนำเพื่อนหรือคนรอบข้าง มัน beyond กว่าที่เราจินตนาการเอาไว้ตั้งแต่แรก”

 

เราถามเขาว่า ถ้าปิดจอไปแล้ว UNLOCKMEN จะเหลืออะไรในชีวิตจริง คำตอบที่เขาบอกกับเราคือ เป้าหมายสูงสุดของ “UNLOCKMEN” คือไม่ต้องการให้ Community จบแค่การเข้าเว็บไซต์ การใช้ชีวิตที่ UNLOCKMEN ต้องการคือการสร้างมันให้อยู่ในชีวิตจริงได้ด้วย ปลุกให้ทุกคนลุกขึ้น Learning และค้นหา Passion เพื่อลงมือทำ จนเกิด impact ต่อชีวิตจริง ๆ ได้

นั่นคือเหตุผลที่เราจัด Workshop ที่มีประโยชน์อยู่ตลอดเวลา นอกจากการเรียนรู้ เราต้องการดึงผู้คนเข้ามาอยู่ในพื้นที่เดียวกันเพื่อขยาย Community ให้ใหญ่ขึ้นทั้งบนโลกออนไลน์และโลกแห่งความจริง ความ Positive ที่ส่งต่อถึงกันจะยิ่งดึงดูดกัน เชื่อมโยงไปถึงสังคมที่เราอยู่แม้ว่าคนที่เราพบอาจจะไม่ใช่คนที่เคยอ่าน UNLOCKMEN ก็ตามที

“สิ่งที่เราได้จากการตั้งใจสร้าง community ที่ดี คือการมีคนคอยนำเสนอและแลกเปลี่ยนไอเดียนับไม่ถ้วนหลั่งไหลเข้ามา มันทำให้เราเชื่อในเรื่องการเลือกอยู่ในพื้นที่ที่ดี ลองนึกภาพเราอยู่ในสังคมที่มีแต่ดราม่า รอบตัวมันคงมืดดำเหลือเกิน แต่ถ้าเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยคนมีความสุข มันก็ทำให้เรามีไฟ มีพลังบวก และทำให้เราพัฒนาตัวเองไปด้วย 

มันคือ You are Where You Live จริง ๆ ถ้าถามว่าเราควรจะให้น้ำหนักอะไรในชีวิต การเลือก community ที่คนข้างในเป็นคนที่เราอยู่ด้วยแล้วมีความสุข อยู่กับครอบครัวที่ Happy, อยู่กับเพื่อนร่วมงานที่ Happy, อยู่ในสังคมที่ Happy ตัวเราก็ Happy และคนรอบ ๆ ตัวเราก็จะ Happy ทำอะไรก็จะส่งผลดีไปด้วย”

 

การเลือกอยู่ใน Community ที่ดี จึงอาจเป็น Key Success วันนี้ที่เราต้องให้ความสำคัญ ลองจินตนาการดูว่าภาพความสุขบนโซเชียลที่กลายเป็นโลกแห่งความจริงที่ยั่งยืน หากเรามีสังคมดี ๆ ที่มีเพื่อนบ้านไว้แชร์เรื่องราวกันได้ โดยที่เราอยู่ใน Community ที่ดีเหล่านั้นจะมีความสุขแค่ไหน

Community of dreams ที่เริ่มต้นจากความคิดการสร้างชุมชนที่ดี เพราะไม่ใช่แค่บ้านสวยแล้วจะทำให้คนมีความสุข แต่มันคือส่วนผสมของความสมบูรณ์ สภาพแวดล้อม เพื่อนบ้าน รวมถึงผู้คนในบ้าน ซึ่งปัจจุบันการสร้างพื้นที่อยู่อาศัยก็ไม่ใช่แค่การออกแบบส่วนใดส่วนหนึ่งให้สวยงาม แต่มันคือการให้ความสำคัญในการออกแบบประสบการณ์ทั้งหมดในพื้นที่

เหมือนกับแนวความคิดของโครงการบ้าน THE FORESTIAS BY MQDC ที่ผสมผสานความหลากหลายและตอบโจทย์ความต้องการของเรา เพราะวันนี้พื้นที่สร้างสรรค์ไลฟ์สไตล์คุณภาพไม่ได้มีแค่ใน UNLOCKMEN แต่ปรากฏเป็นพื้นที่อยู่อาศัยจริง ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเมืองภายใต้โปรเจกต์โครงการบ้านย่านบางนา Community นอกความฝันแบบ Mixed-Use Lifestyle ซึ่งมีไดนามิกของความเป็นเมือง สังคมคุณภาพ ผสมผสานเข้ากับสีเขียวของต้นไม้ที่โอบล้อมพื้นที่ระดับเรียกว่าเป็น “ป่า” มากกว่า “สวน” เพราะมีสัดส่วนมากถึง 50% ของพื้นที่ทั้งหมดที่มีจำนวนกว่า 300 ไร่

FORESTIAS : “Forest” คือ ผืนป่าธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ผนวกเข้ากับ “Fantasia” ที่แปลว่า ความมหัศจรรย์แห่งการสร้างสรรค์ที่ไม่รู้จบ คือคอนเซ็ปต์แห่งอนาคตที่เราตามหาและกำลังจะเกิดขึ้นในชีวิตจริง

“บ้านในป่า” ที่ยังคงครบถ้วนเรื่องความสะดวกสบาย มิตรภาพระหว่างคนในพื้นที่ และเป็นมิตรกับโลก โมเดลเมืองแห่งความสุขประกอบด้วยองค์ประกอบ 4 ด้านที่น่าสนใจต่อไปนี้

Mixed-Life ธรรมชาติหน้าบ้าน : ไลฟ์สไตล์ที่แวดล้อมด้วยสภาพแวดล้อมที่ดี ระบบนิเวศที่ใช้ได้เหมาะแก่การอยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตทุกประเภททั้งคน นกกว่า 150 สายพันธ์ุ ต้นไม้กว่า 350 สายพันธุ์ รวมกว่า 50,000 ต้น ในพื้นที่ป่า 30 ไร่ โดยอยู่ในพื้นที่โครงการทั้งหมดกว่า 300 ไร่ มี 4 ระดับ ได้แก่ ป่าทึบ (Deep Forest), ป่าเพื่อผู้อยู่อาศัย (Resident Forest), ป่าแอดเวนเจอร์และศูนย์รวมกิจกรรม (Forest Center) และพาวิลเลียนสไตล์ธรรมชาติ (Forest Pavilion)

Mixed-Generation คนต่างวัย : The Forestias ดีไซน์สัดส่วนการใช้ชีวิตให้พร้อมต่อการอยู่อาศัยเฉพาะบุคคล เหมาะสำหรับทุกช่วงวัย จึงมีความเป็นเมืองที่ตอบโจทย์ทุก Generation เมื่อบรรยากาศของพื้นที่ลงตัวสำหรับทุกคนจึงเกิดกลไกเชื่อมความอบอุ่นระหว่างวัย ส่งเสริมความกลมเกลียวและการแชร์กิจกรรมร่วมกันให้เพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว

Mixed-use พื้นที่จำเป็นทุกตารางนิ้ว : การจัดสรรพื้นที่ให้ใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ทุกตารางนิ้ว ทำให้เราอยากลุกขึ้นมาใช้ชีวิตนอกบ้าน นั่นคือการปลุกเมืองให้ฟื้นขึ้นมา The Forestias ตอบโจทย์ทั้งขนาดของพื้นที่ที่อยู่ได้ ทำกิจกรรมไม่อึดอัด เหมาะกับการตั้งแคมป์ เดินเล่น ปั่นจักรยานปลอดภัยไร้กังวล มีตลาดชุมชน แต่ก็ไม่ทิ้งความสะดวกสบายของเทคโนโลยี เพราะเราสามารถสั่งของผ่านโดรนได้ด้วยจากการวางผังให้ควบความเป็น Smart City

Mixed Caring ผสมผสานการเกื้อกูล : เมื่อเมืองไม่แยกจากป่า การดูแลพื้นที่อยู่อาศัยที่อุดมธรรมชาติ เป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน คนดูแลป่า ป่าดูแลคน ความสุขในฝันและคุณภาพชีวิตที่ดีแบบ Real life ไม่ใช่อุดมคติจะเป็นการปกป้องระหว่างกันและสร้างสรรค์โลกใบนี้ให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น

เมื่อพื้นที่และชุมชนคือส่วนหนึ่งของการเขียนเรื่องราวชีวิต ไลฟ์สไตล์ของเราในวันนี้และอนาคต เราคงต้องเลือกเสพสิ่งที่สร้างเรื่องราวใหม่ ๆ ด้วยการพาตัวเองไปอยู่ในพื้นที่ดี ๆ เสพความคิดดี ๆ

“เพราะ ชีวิตที่ดีเริ่มต้นจาก Community ดี ๆ”

 

anonymK
WRITER: anonymK
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line