5 แนวคิด! ยับยั้งชั่งใจตัวเอง เมื่อคุณเริ่มรู้ตัวว่ากำลังจะลงมือทำผิด

ทุกคนเคยได้ยินกันหรือเปล่าว่ารสชาติของความลุ่มหลงมันหอมหวานและเป็นเหมือนยาชูกำลังทางใจ ที่เรากำลังพูดแบบนี้ ไม่ได้หมายความว่ารสหวานของการทำผิดหรือความลุ่มหลงเป็นเรื่องที่ดีนะครับ แต่เราจะมาพูดถึงแนวคิดที่จะช่วยในการยับยั้งชั่งใจ เบรคความคิดของตัวเอง ก่อนที่คุณจะลงมือทำอะไรที่ผิดเกินกว่าจะแก้ไขได้ โดยเรามีแนวคิด 5 วิธีที่จะช่วยให้ทุกคนได้ไตร่ตรองตัวเองก่อนว่ามันควรทำไหม

1.หยุดความคิดนั่นซะ

จุดเริ่มต้นของการกระทำหลายๆ อย่าง ล้วนเกิดมาจากความคิด ส่งต่อไปจนถึงการกระทำและเมื่อเรากระทำ สิ่งต่อมาก็คือผลของการกระทำ เพราะงั้นขั้นตอนแรกของการยับยั่งชั่งใจ คือการหยุดความคิดที่จะทำผิดนั่นซะ ไม่ว่าในความคิดของเรามันจะสุข จะดีขนาดไหนก็ตาม เพราะความจริงแล้วอะไรที่ทำให้คนอื่นเป็นทุกข์ แล้วเรามีความสุขแบบนั้นมันไม่เรียกว่าความสุขนะ มันเรียกว่าความผิดแบบเห็นแก่ตัว เพราะเราทำร้ายคนอื่นเพื่อได้ความสุขอันนั้นมา

2.รู้จักผิดชอบชั่วดี 

ทำไมเวลาคนเราไม่พอใจอะไรใคร ทำไมถึงไม่ฆ่าซะให้รู้แล้วรู้รอดละ เราบอกได้เลยว่าถ้าทุกคนคิดแบบนั้นกันหมด โลกนี้คงไม่มีเหลือ แต่สิ่งที่หยุดและคัดกรองความคิดแบบนั้นของมนุษย์เราได้ มันคือความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่อยู่ในใจคนแทบจะทุกคน โดยสิ่งที่ยึดเหนี่ยวไว้ไม่ว่าจะเป็นศาสนา โรงเรียนหรือพ่อแม่ ก็ล้วนแต่คอยบอกและสอนให้ทุกคนเป็นคนดี เพราะงั้นจงอย่าลืมคิดทุกครั้งที่จะลงมือทำ ว่ามันชั่วหรือมันดี จะได้ไม่เป็นทุกข์ในใจคอยระแวงในการกระทำของตัวเอง

3.ยับยั้งชั่งใจ

มันเป็นเหมือนซาตานกับเทวดาที่อยู่ในตัวคนเรานี่แหละครับ แท้จริงแล้วคนทุกคนรู้ว่าอะไรดีไม่ดี รู้ว่าอะไรควรไม่ควร แต่กลับก็มีบางครั้งที่ลงมือหรือพลาดพลั้งทำผิดไปทั้งๆ ที่ใจก็รู้ เพียงเพราะไม่มีความยับยั้งชั่งใจ โดยเรื่องของความยับยั้งชั่งใจนั่นไม่ใช่แค่เฉพาะเรื่องของการคิดก่อนลงมือทำผิดเท่านั้นนะครับ แต่มันหมายความไปถึงเรื่องของความประสบความสำเร็จในชีวิตและการตัดสินใจในหน้าที่การงานอีกด้วย เพราะงั้นเราควรรู้จักฝึกยับยั้งชั่งใจกันเข้าไว้ (จากหนังสือ Don’t Eat the Marshmallow Yet! The Secret to Sweet Success in Work and Life) 

4.อย่าคิดว่าคนอื่นรับได้

อย่าเอาเหตุผลระยำเป็นข้ออ้างของการกระทำความผิด มันก็เป็นเหมือนเรื่องตลกในชีวิตของคนเราที่รู้ว่ากำลังทำผิด รู้ว่าอะไรดีไม่ดีแต่ก็ยังทำมันอยู่ โดยคนเรามักจะชอบโทษคนอื่น โทษฟ้า โทษดิน แต่ไม่รู้จักโทษตัวเองว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นั่นมันไม่ดีหรือเปล่า เราว่าทุกคนก็มีความคิด มีจิตใจ เพราะงั้นอย่าทำอะไรลงไปโดยคิดที่ว่า “ทำไมคนอื่นรับมันไม่ได้ละ”, “แค่นี้เองนะ” เพราะความคิดและต่อมความรู้สึกคนเราไม่เท่ากัน มันอาจทำให้คุณพลาดพลั้งทำร้ายจิตใจใครไปตลอดชีวิตเลยก็ได้

5.อย่าทำผิดเพื่อลบล้างความผิด

คงจะแปลกใจกับคำว่าทำผิดลบล้างความผิดกันใช่ไหมครับ มันมีจริงๆ นะครับ คนที่อยากลบความผิดที่เคยทำมากับคนนี้ด้วยการไปทำความผิดกับคนอื่น แบบนี้มันก็แค่ย้ายรูปแบบการกระทำมากกว่าเท่านั้น ไม่ใช่การลบล้างความผิด โดยสิ่งที่ดีที่สุดในการลบล้างสิ่งที่คุณก่อไว้ นั่นก็คือคุณควรเลิกทำผิดและจะไม่ทำมันอีกแล้วต่างหาก โดยคนส่วนใหญ่ชอบพยายามลบล้างสิ่งที่ทำลงไปด้วยด้วยคำว่า แค่นี้คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง จนติดเป็นนิสัย แต่แท้จริงแล้วมันเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำตั้งแต่แรกแล้วต่างหาก

โดยสิ่งทั้งหมดที่เราบอก สามารถเริ่มต้นได้ที่ตัวเรา ซึ่งอาจเริ่มทำทีละข้อหรือนึกถึงทุกครั้งที่จะทำอะไรที่คล้ายกับว่ามันผิดหรือมันไม่ดีหรือเปล่า สำรวจตัวเองไว้หักห้ามใจเรากันครับ เพราะไม่งั้นวันที่คุณทำมันพลาดพลั้งไปแล้ว คุณจะไม่สามารถย้อนวัน ย้อนเวลา กลับมาให้คนนั้นที่คุณทำผิดไปได้คืนความรู้สึกดีๆ ให้กับคุณได้ ไม่ว่าคุณจะมีความรักให้เค้ามากขนาดไหนก็ตาม เพราะตัวเขาจะนึกถึงแต่สิ่งที่คุณกระทำผิดลงไป ก็เหมือนกับคำที่ว่าทําดีร้อยครั้ง ไม่เท่าทําผิดครั้งเดียว นั่นแหละครับ