CARS

สาวก M-Power ตัวจริงห้ามพลาด!! กับ “10 รถ BMW ///M Car ที่ถูกขนานนามว่ายอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยมีมาบนโลก”

By: HYENA October 18, 2017

นี่คงเป็นอีกครั้งที่เรากำลังจะพูดถึงรถที่โดนใจผู้ชายทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นความสวย หรือสมรรถนะในการขับขี่ของรถตระกูล M จากค่ายรถยักษ์ใหญ่ BMW แต่ถึงแม้คนทั่วไปจะรู้ว่ารถที่มีตรา ///M ติดอยู่นั้น จะไม่ใช่รถในระดับธรรมดาทั่วไป แต่เป็นรถที่มีความพิเศษทั้งภายใน และภายนอก จนถึงขึ้นที่หากรถ BMW คันไหนเปิดฝากระโปรงขึ้นมาแล้วมีคำว่า M Power ติดอยู่บนฝาเครื่อง ก็สามารถการันตีถึงความเจ๋งของมันได้ตั้งแต่ยังไม่ต้องบิดกุญแจ Start เครื่องกันเลยทีเดียว เพราะกว่าที่รถในตระกูล M จะออกมาให้คนทั่วไปได้เป็นเจ้าของได้นั้น มันต้องผ่านการทดสอบสุดโหด และยาวนาน บนเส้นทางที่ท้าทายสมรรถนะรถแบบสุด ๆ อย่างสนาม Nurburgring จนมั่นใจแน่นอนแล้วว่า รถที่มีตรา ///M ติดอยู่นี้ มี DNA ของรถแข่งในสนามอยู่ชัดเจน เครื่องยนต์ต้องแรง ช่วงล่างต้องแน่น เบรคได้มั่นใจไร้ปัญหาเข้าขั้นที่เรียกได้ว่า เป็นรถที่ Perfect จึงค่อยวางจำหน่ายให้กับประชาชนทั่วโลก

โดยรถที่มีตราสัญลักษณ์ M อันเลื่องชื่อนี้ ถูกพัฒนามาตั้งแต่สมัยอดีตกาล และพัฒนามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ M1 และ BMW 3.0 CSL ซึ่งเป็นรถต้นตระกูล M คันแรกที่ออกมาจากสำนักแต่ง M Division จนถึงปัจจุบันรถ M คันล่าสุดอย่าง M2 ซึ่งก็ยังคงโชว์สมรรถนะอันโดดเด่นอยู่ในระดับหัวแถวของวงการยานยนต์ต่อไป แต่จะว่าไปแล้ว บรรดารถในตระกูล M ที่เคยมีมาตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันนั้น ก็มีมากมายหลายรุ่นหลายปีซะเหลือเกิน และที่สำคัญคือว่า คุณรู้รึเปล่าว่ามีรถในตระกูลนี้รุ่นไหนบ้างที่ถูกจัดให้อยู่ใน 10 อันดับของรถ M Power ที่ว่ากันว่าดีที่สุด หากคุณเป็นแฟน BMW และ M Division ตัวจริง คุณจะพลาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด เพราะวันนี้เราได้นำผลิตผลระดับตำนานของ M เหล่านี้ มาให้ชาว UNLOCKMEN ทุกท่านได้ชมกัน

BMW M1

จะพลาดได้อย่างไรสำหรับ M1 เพราะถ้าหากไม่มีมัน คงจะไม่มีลูกหลานรถตระกูล M ออกมาจนถึงทุกวันนี้ สำหรับ BMW M1 นี้ มีจำนวนการผลิตที่น้อยมากรวมทั้งสิ้นแล้วไม่ถึง 500 คัน เสียด้วยซ้ำ โดยมีการผลิตครั้งแรกในปี 1978 จนถึงปี 1981 เท่านั้น โดยในตอนนั้น ทาง BMW  ได้รับการช่วยเหลือในด้านการสร้าง และพัฒนาจากทีม One Make Race จนมันกลายเป็นรถที่มีชื่อเสียง และกลายเป็นตำนานสร้างชื่อให้กับ M Power มาจถึงทุกวันนี้

BMW M1 คันนี้ใช้เครื่องยนต์ 3,500 cc 6 สูบเรียง ที่หลายคนฟังดูแล้วอาจจะรู้สึกว่า ธรรมดา ยิ่งถ้าหากเปรียบเทียบกับพวก Muscle Car ที่เน้นเรื่องของปริมาณ cc จากแดนลุงแซมแล้ว ยิ่งทำให้มันดูหน่อมแน้มขึ้นไปอีก แต่ด้วยเครื่อง 6 สูบของ M1 คันนี้ สามารถรีดแรงม้าสูงสุดได้ถึง 273 แรงม้า และทำความเร็วได้สูงถึง 259.2 กิโลเมตร/ชั่วโมง จึงทำให้หลายคนได้ประจักษ์กับความจี๊ดจ๊าดอย่างน่าอัศจรรย์นี้ทันทีในยุคสมัยนั้น แม้กระทั่งในปัจจุบัน จะหารถเครื่องยนต์ 6 สูบ ที่แรงระดับนี้ได ยังหายากถ้าไม่นับว่าผ่านการโมดิฟายมาแล้วแบบเต็มลำ

Production : 453 (1978-1981)
Engine : 3.5 Litre
BHP : 273 bhp
0-100 : 5.5 Sec
Top Speed : 259.2 km/h

BMW M3 E30

สำหรับ BMW M3 E30 คันนี้ ถูกได้รับการยกย่องให้เป็น “The Best Handling Cars Ever” หรือ รถที่มีการควบคุมในขณะขับขี่ดีที่สุดของโลกคันหนึ่งเลยทีเดียว ในปัจจุบันนี้ BMW M3 E30 ที่เห็นมีหน้าตาโบราณ ๆ แบบนี้ คุณเชื่อหรือไม่ว่า มันหายาก และมีราคาพุ่งขึ้นไปไกลชนิดที่คาดไม่ถึงเลยทีเดียว บางคนมีก็ไม่ยอมขาย จนมันกลายสภาพจากรถแรงสุดโหดประจำสนาม ไปเป็นรถที่นักสะสมเก็บเอาไว้ขึ้นหิ้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เห็นว่าคันเล็ก ๆ และถูกเคลมเอาไว้ว่าควบคุมง่าย คงจะคิดว่าความแรงคงจะไม่เท่าไหร่กันใช่ไหมล่ะ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เห็นร่างเล็ก ๆ แบบนี้ BMW M3 E30 แฝงพละกำลังเอาไว้ถึง 300 แรงม้า สำหรับตัวที่วิ่งในสนาม และเกือบ ๆ 200 แรงม้า สำหรับตัวที่วางจำหน่ายให้คนทั่วไปได้ใช้งานบนท้องถนน โดยส่วนของ Body Part นั้น เป็นการร่วมมือกันออกแบบระหว่าง BMW กับ M-Deivision เพื่อให้ตัวรถมีน้ำหนักเบาแต่แข็งแรง รวมไปถึงช่วงล่างที่ยึดเกาะถนนได้อย่างดีเยี่ยม ดังนั้น BMW M3 E30 คันนี้ จึงเป็น 1 ในรถ M ที่แฟน ๆ BMW อยากได้ และได้ชื่อว่ายอดเยี่ยมที่สุดคันหนึ่งอีกด้วย

Poduction : 16,202 (1985-1992)
Engine : 2.3/2.5-Litre
BHP : 192-235 bhp
0-100 : 6.1 Sec
Top Speed : 155 km/h

BMW M5 E39

ก่อนที่จะมาถึง BMW M5 E39 รุ่นพี่อย่าง BMW M5 E34 ก็สร้างความน่าสะพรึงเอาไว้ด้วยความแรงแบบไม่เกรงใจใครมาก่อนแล้ว แต่สำหรับ M5 E39 นั้น ถือเป็นรถที่ปลุกกระแสรถแรงในคราบผู้ดีที่บูมขึ้นมาในช่วงยุคหนึ่งตัวจริงเสียงจริงเลยก็ว่าได้  BMW M5 E39 เปิดตัวครั้งแรกในปี 1998  ด้วสถิติที่ทำเอาหลายคนตาค้าง นั่นก็คือ อัตราเร่ง 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายในเวลา 4.4 วินาที

เครื่องยนต์ที่ใช้สร้างความอัศจรรย์นี้ ก็เป็นขุมกำลังขนาดไม่ธรรมดาเพราะเป็นเครื่อง V8 สูบ ที่ผลิตแรงม้าออกมาได้ 400 ตัว นอกจากนี้ M5 E39 ยังเป็นรถที่ทำลายสถิติวิ่งด้วยความเร็วเกิน 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง บนถนน Autobahns อันเลื่องชื่อในประเทศ German อีกด้วย

Production : 20,482 (1999-2003)
Engine : 4.9-Litre, V8
BHP : 395 bhp
0-100 : 4.4 Sec
Top Speed : 248 Km/Hr

BMW 3.0 CSL E9

ตำนานตัวจริงอย่าง BMW 3.0 CSL E9 ก็คงจะพลาดไม่ได้ที่จะติดอยู่ในทำเนียบรถ M ที่เจ๋งที่สุดนี้ด้วยเช่นกัน ด้วยรูปร่างหน้าตาที่ใครเห็นก็ต้องร้องกรี๊ด ส่วนในเรื่องความแรงนั้นก็ไม่เป็น 2 ลองใคร ตัวถังของรถก็ถูกผลิตให้บางเป็นพิเศษเพื่อให้ได้นำหนักตัวถึงที่เบาขึ้น บานประตูผลิตจากวัสดุอลูมิเนียมล้วน ๆ ดังนั้นจึงทำให้ BMW 3.0 CSL E9 คันนี้ คว้ารางวัลชนะเลิศในการแข่งขัน The European Touring Car มาได้ถึง 4 ปีติดต่อกัน กลายเป็นตำนานที่หาตัวได้ยากยิ่ง โดยเฉพาะในปัจจุบัน หลายคนยังไม่รู้ด้วยมันก็เป็นหนึ่งในรถที่ M Division ทำขึ้น หรือมีรถรุ่นนี้อยู่ด้วยบนโลก

Production : 1,265 (1971-1975)
Engine : 3.0/3.2-Litre
BHP : 197-203 bhp
0-100 : 7.4 Seconds
Top Speed:  220.8 Km/Hr

BMW M5 E28

BMW M5 E28 อาจจะไม่ค่อยมีใครพูดถึงมากนักในสมัยนี้ แต่ถ้าหากย้อนไปในอดีต หรือใครที่ทันยุคที่มันบูม จะรู้ได้เลยว่า BMW M5 E28 นั้น ถูกยกย่องให้เป็น 1 ในรถเก๋งที่ดีที่สุดตลอดกาลเลยทีเดียว Bmw M5 E28 เปิดตัวเมื่อปี 1985 และเป็นเหมือนต้นตระกูลของ M5 เลยก็ว่าได้ สำหรับ M5 E28 นี้นั้น เคยสามารถขึ้นครองบัลลังค์ฐานะรถยนต์นั่ง 4 ประตูที่เร็วที่ทำความเร็วได้ดีที่สุดในโลกอีกด้วย นอกจากนี มันยังเคยเป็นรถที่เร็ว Ferrari ที่ตอนนั้นเป็นรุ่น Ferrari 328 ที่มีราคาแพงกว่ามาก ทำให้มันกลายเป็นที่จับตามองของคนที่คลั่งไคล้ในความเร็วขึ้นมาในทันที

Production : 2,191 (1985-1988)
Engine : 3.5-Litre
BHP : 282 bhp
0-100  : 6.1 Sec
Top Speed : 249.6 Km/Hr

BMW M3 E46

สำหรับรถที่มีทั้งความหล่อ และความแรงแบบครบครันในตระกูล M จะเป็นใครอื่นไปได้นอกจาก M3 E46 ที่ปลุกกระแสตัวถังสีจี๊ดจ๊าดให้บูมขึ้นมาในวงการยานยนต์ M3 E46 คันนี้ ถือเป็น M3 รุ่นสุดท้ายที่ยังคงใช้เครื่องยนต์  6 สูบ ก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงไปกลายเป็น V8 ที่ทรงพลังมากขึ้นเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน BMW M3 E46 เปิดตัวครั้งแรกในปี 2000 และทันทีที่เปิดตัวออกมา มันก็ถูกขนานนามให้เป็นราชาแห่งรถที่ใช้เครื่องยนต์แบบ 6 สูบทันที ด้วยรอบที่สูงจัดจ้าน แรงม้าที่มีมาแบบเน้น ๆ ถึง 333 แรงม้า ที่ 8,000 รอบ/นาที ผสมผสานเข้ากับระบบส่งกำลังสุดเนี๊ยบชุดเกียร์ 6 สปีด ทำให้รถคันนี้ทะยานแซงคู่แข่งทุกคันได้ง่าย ๆ ถึงแม้จะมีความจุเครื่องยนต์ที่เล็กกว่าก็ตาม

Production : 85,744 (2000-2006)
Engine : 3.2-Litre
BHP : 333 bhp
0-100 : 5.1 Sec
Top Speed : 248 Km/Hp

BMW 1 Series M Coupe

แฟน M Car จากทั่วโลกแทบจะกรี๊ดกันบ้านแตก หลังจากที่เรียกร้องให้ทาง BMW กลับมาสร้าง M Car ในตำนานอย่าง M1 อีกครั้ง ซึ่งในที่สุด ทาง BMW ก็ตอบสนองความต้องการของแฟน ๆ ด้วยการปล่อย BMW 1 Series M Coupe ออกมาในปี 2011 โดยหลายต่อหลายคนที่ได้ทดลองขับ M1 Coupe คันนี้แล้ว ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ชวนให้นึกถึงความจี๊ดจ๊าดในอดีตของ M3 E30 ขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ BMW 1 Series M Coupe ยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์ทีเด็ดสำหรับคนชอบหอยเป็นทุนเดิม เพราะทาง BMW ได้นำเอาเครื่องยนต์แบบ 6 สูบเรียง ที่มีระบบอัดอากาศ Twin-Turbo มาลงไว้ให้กระชากความแรงแบบสะใจมากยิ่งขึ้น มันจึงกลายเป็นรถที่มีกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยม บวกกับราคาที่ไม่สูงเกินไปจนน้อยคนนักที่จะจับต้องได้ M1 Coupe คันนี้ที่ผลิตออกมาเพียง 6,309 คัน จึงถูกจับจองเป็นเจ้าของอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาสั้น ๆ

Production : 6,309 (2011-2012)
Engine : 3.0-Litre
BHP : 335 bhp
0-100 : 4.3 Sec
Top Speed : 248 Km/Hr

BMW M635 CSi E24

น้อยคนนักที่จะรู้จัก M Car คันนี้ แต่ถ้าเป็นนักสะสม หรือแฟน M Car พันธุ์แท้ “The Shark nose M635i” คันนี้นั้น เป็นหนึ่งใน M Car ที่พวกเขาหมายปอง และเป็นสุดยอดของรถสะสมที่แสนล้ำค่าเลยทีเดียว โดยความพิเศษของเครื่องยนต์รหัส M88 ในตำนานที่เคยอาศัยอยู่ใต้ฝากระโปรงของ M1 มาใส่ไว้ ทำให้ M635 CSi มีแรงม้าสูงถึง 282 แรงม้า และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 252.8 กิโลเมตร/ชั่วโมงแบบสบาย ๆ ดังนั้น M635 CSi จึงเป็นรถในตระกูล M อีกคันที่เหล่าบรรดาแฟน BMW M Car ทั้งหลายใฝ่ฝันถึงแม้ไม่ได้ขับขี่ ก็ขอให้ได้เป็นผู้ครอบครองไว้ก็ยังดี

Production : 4,088 (1983-1988)
Engine : 3.5-Litre
BHP : 282 bhp
0-100 : 6.4 Sec
Top Speed : 254.28 Km/Hr

BMW M5 Touring E61

หากพูดถึง M Car คนทั่วไปส่วนใหญ่ต้องคิดถึง รถ 2 ประตู ที่มีความแรงระดับหาตัวจับอยากกันแทบทุกคน แต่สำหรับ BMW M5 Touring E61 คันนี้ ถือว่าเป็นการฉีกภาพลักษณ์ M Car แบบเดิม ๆ ให้กระจุยกระจายแบบไม่เคยมีมาก่อน ด้วยรูปลักษณ์ของตัวถังแบบ 5 ประตู ที่บางคนอาจจะเรียกว่า Wagon หรือ Van สไตล์พ่อบ้านหน้าตาติ๋ม ๆ แต่ในเรื่องของความแรงนั้น ต้องบอกว่ามหาศาลเลยทีเดียว เพราะมันได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างมาจากความเร็วของรถสูตร 1 หรือรถ Formula 1 ที่เป็นรถที่เร็วที่สุดในโลก เมื่อเป็นเช่นนั้น เครื่องยนต์ของ BMW M5 Touring E61 จึงต้องไม่ธรรมดาแน่นอน ด้วยความจุแบบเดิมจากโรงงานที่ให้มาถึง 5,000 cc ที่เกิดจากเครื่อง V10 500 กว่าแรงม้า ทำให้ M5 E61 กลายเป็นรถ M Car ในฝันของพ่อบ้านใจกล้าทั้งหลายที่ต้องการทำความเร็วขับรถไปทำงาน และมุ่งหน้ากลับบ้านด้วยความเร็วเกิน 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง เมื่อทำการปลดล็อคระบบแล้วแทบทุกคน

Production : 1,025 (2007-2010)
Engine : 5.0-Litre
BHP : 500 bhp
0-100 : 4.8 Sec
Top Speed : 248 Km/Hr

Bmw M5 F10

การพิสูจน์ตัวเองครั้งสำคัญของ BMW ที่ทำการลดขนาดเครื่องยนต์จาก M5 E60/E61 ซึ่งเป็นรุ่นก่อนหน้าลง เหลือเพียงแค่เครื่องยนต์ V8 ที่แฟน ๆ ได้รู้ข่าวทีแรกก็ส่ายหัวด้วยความผิดหวังกันแทบทุกคน แต่เมื่อมีการเปิดตัว BMW M5 F10 ออกมาจริง ๆ ก็สามารถพิสูจน์ให้แฟนเหล่านั้นได้เห็นว่า พวกเขาคิดผิด เพราะแม้ว่าขนาดเครื่องยนต์จะเล็กลง แต่ความแรงของมันก็ไม่ได้แพ้เครื่องยนต์ V10 ที่สร้างชื่อให้กับ BMW มาก่อนหน้านี้เลยแม้แต่น้อย เพราะแม้เครื่องยนต์จะมีความจุเพียง 4,400 cc แต่มาพร้อมกับเทคโนโลยีระบบอัดอากาศ Twin-Turbo ที่ช่วยรีดแรงม้าออกมาได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ทำให้ BMW M5 F10 ทำความเร็วด้วยการวิ่งรอบสนาม Nurburgring ได้เพียงแค่ 7 นาที 55 วินาที เร็วว่า BMW M5 E60 ที่ใช้เครื่อง V10 ถึง 20 วินาทีเลยทีเดียว เพราะฉะนั้น ถ้าหากจะปิดท้าย 10 อันดับของ M Car ที่ดีที่สุด ยังไงก็คงต้องยกให้ BMW M5 F10 คันนี้ เป็นที่สุดในปัจจุบันอย่างแน่นอน

Production : Current
Engine : 4.4-Litre,
BHP : 552 bhp
0-100 : 4.4 Sec
Top Speed : 248 Km/Hr

และทั้งหมดนี้ก็เป็น M Car 10 คัน ที่ได้รับการยอมรับ และยืนยันมาจากแหล่งข้อมูลทั่วโลกให้เป็นสุดยอด 10 M Car ที่ดีที่สุดที่ BMW ได้เคยปล่อยออกมาสู่สายตาประชาชน ส่วน M Car ในรุ่นต่อ ไปนั้น จะมีการพัฒนาความเจ๋งทั้งในเรื่องเทคโนโลยี และความแรงไปได้อีกไกลขนาดไหนนั้น แฟน BMW และ M-Division ทั้งหลายคงต้องเฝ้าติดตามกันต่อไป แต่เราเชื่อว่ายังไง ๆ จะออกมาอีกกี่ยุคกี่สมัยก็ถูกใจผู้ชายอย่างเราแน่นอน

SOURCE

 

HYENA
WRITER: HYENA
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line