Entertainment

ชวนมาดู 10 หนังพล็อตล้ำ ๆ หลากหลายแนว ดูแล้วต้องดูอีก รอบเดียวไม่เคยพอ

By: unlockmen April 6, 2018

ดูหนังธรรมดา ๆ มันก็น่าเบื่อเกินไป วันว่าง ๆ แบบนี้ต้องหาเวลามาดูหนังพล็อตแปลกไปจากที่เคยดูกันบ้าง UNLOCKMEN ขอแนะนำ 10 เรื่องพล็อตล้ำ ๆ หลากหลายแนว ไม่ว่าจะทริลเลอร์ โรแมนติก หรือแม้แต่อะนิเมะ อย่ามัวแต่คิดว่ามีแค่หนังสืบสวนเท่านั้นที่จะมีพล็อตล้ำ ๆ ได้ พล็อตล้ำ ๆ มันสามารถมีได้ในหนังทุกแนวเลยต่างหาก มาดูกันให้ครบ รับรองว่าได้หนังใจดวงใจเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน

Predestination (2014)

Director :  Michael Spierig, Peter Spierig

เรื่องย่อ : The Barkeep เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลที่มีหน้าที่หยุดยั้งอาชญากรไม่ให้ก่อเหตุร้ายแรง ด้วยการเดินทางข้ามเวลาไม่ว่าจะเป็นอดีตหรืออนาคต และงานสุดท้ายก่อนลาวงการของเขาคือหยุดยั้ง Fizzle bomber นักวางระเบิดตัวฉกาจ แต่ทุกอย่างมันไม่ง่ายอย่างนั้น ยิ่งเขาถลำลึกลงไป เขายิ่งค้นพบปริศนาที่เป็นปมต่อกันยาวเหยียดไปเรื่อย ๆ และเป็นเขานี่แหละที่ต้องคลายปมนั้นด้วยตัวเอง

มันเจ๋งตรงนี้! : ทำความเข้าใจก่อนว่ามันไม่ใช่แค่หนัง Sci-Fi ล้ำ ๆ ยิงกันมัน ๆ แล้วจบกันไป  แต่ต้องเตรียมสมองคุณให้พร้อม กับหนังพล็อตล้ำเรื่องนี้ ที่จะชวนให้เราตั้งคำถามกับชีวิตของเราว่า ทุกเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นนั้นมันเป็นเรื่องบังเอิญ โชคชะตา หรือความตั้งใจของเราเอง เรามีส่วนในการตัดสินใจกับชีวิตของเราได้มากน้อยแค่ไหน อ่านดูแบบนี้มันอาจดูเหมือนเป็นคำถามปรัชญาเข้าใจยาก แต่บอกเลยว่าหนังถ่ายทอดออกมาได้ดี ไม่น่าเบื่อเลยสักนิด เหมือนเราดู Thriller เจ๋ง ๆ เรื่องนึง แล้วมันชวนให้เราคิดคำถามพวกนี้เองโดยหนังไม่ต้องบอกอะไรเราเลยด้วยซ้ำ

Identity

Director : James Mangold

เรื่องย่อ : ในคืนที่ฝนตกหนัก คนแปลกหน้า 11 คน ต้องมาติดฝนอยู่ในที่เดียวกันที่โมเต็ลเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง และหนึ่งใน 11 คนนั้นมีคนถูกฆ่า เรื่องราวจึงเริ่มขึ้นเมื่อมีคนตายไปทีละคน จึงต้องหาตัวฆาตกรก่อนที่จะมีศพต่อไป

มันเจ๋งตรงนี้! : การเล่าเรื่องของผู้กำกับทำได้เฉียบขาดมาก ใครที่เบื่อหนังสืบสวน ไดอะล็อก ลองดูเรื่องนี้แล้วอาจจะเปลี่ยนใจ หนังจะค่อย ๆ ให้เราเห็นลักษณะนิสัยของแต่ละคน ซึ่งเหมือนเป็นการบอก Identity ของแต่ละตัวคร เหมือนเป็นการทิ้งคำใบ้ให้เราค่อย ๆ แกะรอยตาม แต่สุดท้ายแล้วจะเดาถูกมากน้อยแค่ไหน ต้องลองดูกัน

Enemy

Director : Denis Villeneuve

เรื่องย่อ : คุณจะทำไงเมื่อวันดีคืนดี ดันไปเจอคนที่เหมือนคุณอย่างกับคนเดียวกัน ? “อดัม” ตัวเอกของเรื่องเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ชีวิตเนือย ๆ เซ็ง ๆ ทั้งงานทั้งชีวิตคู่ วันหนึ่งเกิดไปเช่าหนังมาดูแล้วเจอคนหน้าเหมือนตัวเองอย่างกับแกะ บุคลิก ท่าทาง แต่ปัญหาคือไม่ใช่น่ะสิ! คนละคนแล้วเหมือนกันขนาดนี้ได้ยังไง อดัมก็ใจไม่ดีสิทีนี้ ออกตามหาดาราคนนั้น ตามไปตามมาก็ยิ่งขมวดปมปัญหาให้ยุ่งเหยิงเข้าไปใหญ่ 

มันเจ๋งตรงนี้! : ถ้าพูดกันตรง ๆ ก็คืออาจจะน่าเบื่อสำหรับบางคน ส่วนตัวแม้จะชอบเรื่องนี้มากแต่ก็รู้สึกเหมือนกันว่าบรรยากาศมันช่างเนือยจนชวนหลับจริง ๆ นั่นแหละ แต่ถ้าใครชอบการดูหนังเชิงสัญญะรับรองว่าจะดูเรื่องนี้สนุกขึ้น  ถ้าเป็นคนช่างสังเกตหน่อยอาจจะจับทางหนังได้ไวมากขึ้น เพราะจริง ๆ หนังทิ้งคำใบ้ไว้เยอะ ตอนจบอาจจะอุทาน What The F*ck! แต่ถ้าตีความสารที่หนังต้องการจะสื่อได้ มันได้อะไรเยอะจากเรื่องนี้เหมือนกัน

Exam

Director : Stuart Hazeldine

เรื่องย่อ : ผู้เข้าแข่งขัน 8 คนมาสอบคัดเลือกเข้าทำงานในบริษัทหนึ่ง ซึ่งเป็นรอบสุดท้ายแล้ว ทุกคนอยู่ในห้องสอบ มีกระดาษเปล่าคนละหนึ่งใบ และเวลา 80 นาทีในการทำข้อสอบ ทุกคนต้องช่วยกันหาคำถามเพื่อจะได้คำตอบในลำดับต่อไป แต่บางคนกลับอยากกำจัดคู่แข่งมากกว่าการหาคำถามและคำตอบ

มันเจ๋งตรงนี้! : หนังจะค่อย ๆ ดึงเอาความดิบในสัญชาตญาณมนุษย์ออกมาเรื่อย ๆ ทุกรายละเอียดเล็กน้อยของตัวละครถูกนำมาใช้แบบคุ้มค่า มันไม่ใช่หนังเลือดสาดอะไรเทือกนั้นเลย แต่มันชวนให้เราอึดอัดและคิดหาทางออกตามตัวละครได้เหมือนเรานั่งอยู่ในห้องนั้นด้วย จริง ๆ แล้วเหมือนตัวละครต้องแข่งกันด้วยเรื่องเชาว์ปัญญามากกว่า ถ้าหากเรามีสมาธิขึ้นมาหน่อย อาจจะไขความลับได้ก่อนตัวละครในเรื่องก็ได้

 Cloud Atlas

Directors : Tom Tykwer, Lana Wachowski, Lilly Wachowski

เรื่องย่อ : เรื่องราวของตัวละครชุดเดิม แต่อยู่ใน 6 ยุค คือ ยุคล่าอาณานิคม, ยุคก่อนสงครามโลก, ยุคสงคราม, ยุคปัจจุบัน, ยุคยูโทเปียม และยุคดิสโทเปีย ซึ่งหนังจะตัดสลับไปมาระหว่าง 6 ยุคนี้ ให้เราได้ดูว่าตัวละครตัวนี้อยู่ในยุคนี้แล้วเป็นยังไง พอไปยุคอื่นแล้วเป็นยังไง

มันเจ๋งตรงนี้! : ความยากคือเราต้องตั้งใจดูถึงความเป็นไปของตัวละครในแต่ละยุค ว่าทำไมถึงมีชีวิตแบบนี้ในยุคนี้ ทุกอย่างมีที่มาที่ไปรองรับไว้หมดแล้ว อยู่ที่ว่าเราจะจำได้มั้ยนั่นเอง เพราะตัวละครก็เยอะแล้วคูณจำนวนยุคเข้าไปอีก แต่ข้อดีที่ชอบมาก ๆ คือความละเอียดของผู้กำกับที่เอาดีเทลเล็กน้อยของแต่ละยุคมาเชื่อมโยงเข้าด้วยกันแบบที่เราไม่ทันสังเกต ถ้าเราจับใจความที่หนังต้องการจะสื่อออกมาได้ รับรองว่าจะคุ้มค่ากับเวลาสามชั่วโมงที่เสียไปแน่นอน

Perfect Blue

Director : Satoshi Kon

เรื่องย่อ : เรื่องราวของ มิมะ ไอดอลสาวที่ผันตัวจากการเป็นไอดอล เข้าสู่วงการแสดงแทน และชีวิตบนเส้นทางของนักแสดงก็ไม่ได้สวยงามเหมือนที่เธอคิดไว้

มันเจ๋งตรงนี้! : ผลงานจากผู้กำกับเดียวกันกับ Millenium Princess และ Paprika ในตำนาน คอหนังคงจะคุ้นหูคุ้นตากันบ้าง เรื่องนี้ความเจ๋งมันอยู่ที่กล้าถ่ายทอดฉากที่รุนแรงออกมาได้สมจริง โดยไม่ได้ห่วงว่าตัวละครนั้นคือนางเอกที่เป็นไอดอล เหมือนเป็นการเผยอีกด้านของวงการบันเทิงให้ได้เห็นกัน แต่ที่เห็นชัดที่สุดคืออีกด้านของจิตใจคนเรามากกว่า

The Handmaiden

Director: Chan-wook Park

เรื่องย่อ : พื้นหลังของเรื่องนี้เป็นประเทศเกาหลี เรื่องเริ่มจากนักต้มตุ๋นไปหาเด็กสาวคนหนึ่งที่เป็นนักล้วงกระเป๋าเพื่อไปเป็นสาวใช้ของคุณหนูบ้านหนึ่ง เพื่อคอยชงให้แต่งงานกับนักต้มตุ๋นคนนั้น เรื่องราวที่เหมือนจะง่ายมันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด

มันเจ๋งตรงนี้! : ผลงานจากผู้กำกับ Old Boy หนังขึ้นหิ้งของใครหลายคน เรื่องราวเล่าได้ชวนติดตามมาก ๆ รับประกันความพลิกล็อก ทุกอย่างที่เคยเดาไว้เหมือนจะถูกแต่มันก็ไม่ได้ถูกไปซะทั้งหมด ปมที่คิดว่าจะคลายแล้วมันก็ยังไม่หมด มีเบื้องหลังอะไรอยู่หลังจากนั้นอีก พูดเยอะกลัวสปอยล์ เอาเป็นว่าอย่าเพิ่งเบือนหน้าหนีเพราะมันเป็นหนังสัญชาติเกาหลี ลองก่อนแล้วจะไม่ผิดหวัง

In Time

Director : Andrew Niccol

เรื่องย่อ : เรื่องราวของโลกยุคอนาคตที่ทุกคนจะอายุหยุดอยู่ที่ 25 ไม่ได้หมายความว่าเราจะอยู่เป็นอมตะตลอดไปนะ แต่มันคืออายุเราหมดแล้ว หากเราต้องการมีชีวิตต่อไปเราต้องหาเวลามาเติมให้ตัวเอง สารพัดวิธีที่จะทำได้ เวลาจึงเป็นสิ่งที่มีค่ามากในเรื่องนี้

มันเจ๋งตรงนี้! : หลายคนอาจเคยดูแล้ว และรู้สึกว่ามันก็หนังแอ็คชั่นเรื่องนึงนั่นแหละ แต่ไอเดียของมันที่เอาชีวิตของเรามาผูกกับเวลาได้แบบโคตรเจ๋ง เพราะชีวิตคนเราจริง ๆ เวลาเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ และต้อง Flow ไปกับมัน

Sliding Doors

Director : Peter Howitt

เรื่องย่อ : พักเรื่อง Thriller เอาไว้ก่อน มาดูอะไรที่ผ่อนคลายกันขึ้นมาบ้างในเรื่องนี้ เรื่องราวของหญิงสาวที่แบ่งเป็นสองทาง ไม่ใช่สองทางเปรียบเปรย แต่เป็นสองทางจริง ๆ คือเรื่องราวหากเธอขึ้นรถไฟทันและไม่ทัน หนังจะเล่าเรื่องของสองเหตุการณ์นั้นสลับกัน ให้ดูชีวิตของเธอที่แตกต่างกันโดยมีรถไฟขบวนนั้นเป็นจุดเปลี่ยน

มันเจ๋งตรงนี้! : แม้จะดูเหมือนเป็นหนังรักทั่วไป แต่เนื้อเรื่องของมันจริง ๆ เข้มข้นกว่านั้นมาก ทำให้เราตั้งคำถามกับชีวิตของเราได้ไม่น้อยกับเรื่องแรกที่แนะนำเลย

Upside down

Director : Juan Solanas 

 เรื่องย่อ : โลกเราแบ่งเป็นสองฝั่ง ฝั่งข้างล่างจะเป็นที่อาศัยสำหรับคนจน ฝั่งข้างบนสำหรับคนที่มีฐานะมากพอที่จะย้ายตัวเองไปได้ ทั้งสองฝั่งแรงโน้มถ่วงจะต่างกัน หากคนโลกข้างล่างขึ้นไปฝั่งข้างบน เขาจะลอยเคว้งคว้างจึงต้องหาอะไรถ่วงไว้เสมอ พระเอกจากโลกข้างล่างดันไปรักกับนางเอกโลกข้างบน แล้ววันหนึ่งมีเหตุให้ต้องจากกัน และวันนึงเขาทั้งสองได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง แต่ว่าแรงโน้มถ่วงที่เป็นอุปสรรคทำให้เขาทั้งสองต้องหาทางให้ได้อยู่กับคนที่เขารัก

มันเจ๋งตรงนี้! : ดูหนังหนัก ๆ กันมาเยอะแล้ว แนะนำหนังเอาใจสายซอฟต์กันบ้าง เป็นเรื่องที่พล็อตล้ำมากเหมือนกัน มีการพยายามหาเหตุผลมารองรับเรื่องแรงโน้มถ่วงและจุดบอดอื่น ๆ ในเรื่อง ทำได้ดีในบางจุด บางจุดยังเป็นจุดบอดอยู่บ้าง แต่สุดท้ายแล้วเราต้องมาดูกันว่าความรักกับแรงโน้มถ่วงอะไรจะแข็งแกร่งกว่ากัน

บอกเลยว่า 10 เรื่องนี้ดูกี่ตลบก็ไม่เบื่อ เพราะหนังฝังรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เอาไว้ให้เราได้ว้าว จนบางทีดูรอบแรกอาจยังไม่เข้าใจ แต่พอดูหลายรอบแล้วต้องตบเข่าฉาดว่า คิดได้ไงวะเนี่ย ? เหมาะกับวันหยุดยาวสุด ๆ เลย UNLOCKMEN รับรอง!

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line