เหตุการณ์เดิมวนซ้ำ ๆ กับมนุษย์สตริมมิ่ง Netflix ที่ต้องการจะหาหนังหรือการ์ตูนดูสักเรื่องหลังจากทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน ไล่จากลิสต์รายการ (ดอง) โปรดก็แล้ว , อ่านรีวิวจากเพจ Neflix Review ก็แล้ว , คอลกลุ่มไปถามเพื่อนก็แล้ว ก็ยังไม่รู้จะดูอะไรดี โอเคนั้นต้องงัดไม้ตายมาใช้ คนอื่นทำไงไม่รู้ แต่เราใช้วิธีเข้าที่ช่อง ‘ค้นหา’ ซ้ายบนของจอ แล้วเลือกเรื่องค้นหายอดฮิตที่อยู่ซ้ายบนทุกรอบ และนั่นทำให้เราเจอกับ Nimona อนิเมชั่นหมวดเด็ก ที่ผู้ใหญ่ควรได้ดู (เนื้อหาหลักเริ่มบรรทัดต่อไปนะ ข้างบนไม่ต้องอ่านก็ได้) ก่อนจะเป็น Nimona ใน Netflix อนิเมชั่นเรื่องนี้เคยเป็นกราฟิกโนเวลมาก่อน เคยถูกวางเป็นโปรเจคต์ใหญ่ของ Blue Sky Studios แต่ถูกสั่งยกเลิกการถ่ายทำไปในวันก่อนจะเปิดกล้องไม่นาน … การที่ Nimona ได้สตรีมมิ่งให้เราดูอยู่ในตอนนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแม้แต่นิดเดียว แต่เป็นเรื่องราวของเหล่าผู้คนที่ไม่ทิ้งความฝัน พร้อมกับต้องการมอบสิ่งที่ดีให้โลกใบนี้ ND Stevenson และนิโมน่าในชีวิตจริงของเธอ ย้อนกลับไปในปี 2015 สำหรับสายนิยายภาพทุกคน ถ้าลองเสิร์ชหา Best Graphic Novel ประจำปีนั้นดู
“Walt Disney Of Japan” คือคำที่ถูกใช้เรียก Hayao Miyazaki หนึ่งในผู้ก่อตั้งและผู้กำกับคนสำคัญของสตูดิโออนิเมชั่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น Studio Ghibli นั่นเอง ทุกครั้งที่คุยถึงการ์ตูนจิบลิเรื่องโปรดในดวงใจกับกลุ่มเพื่อน เคยสังเกตุกันมั้ย ว่าทุกครั้งเราจะต้องพูดถึงงานศิลป์ที่สวยงามราวกับเป็นของจริง แต่งดงามเกินชีวิตจริงกันเสมอ นั่นคือเหตุผลว่าทำไม สาวกอนิเมชั่นของจิบลิหลายคนถึงชอบดูคลิปสั้นฉากทำอาหาร ฉากผู้คนเดินขวักไขว่ใช้ชีวิตในเมือง หรือฉากยานพาหนะของสตูดิโอนี้ได้แบบไม่มีเบื่อ เพราะมันเหมือนว่าเราเอาตัวเองไปอยู่ในความฝัน ที่มีภาพความจริงที่เป็นไปได้ซ้อนทับอยู่ ส่วนตัวเราว่ามันทำให้มองโลกนี้น่าอยู่ขึ้น และเมื่อพูดถึงความฝัน วันนี้ก็เลยอยากจะพูดถึง ‘จุดเริ่มต้น’ ของสตูดิโอจิบลิ ซึ่งหนึ่งในหมุดหมายสำคัญที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ คือปู่ฮายาโอะของเรามีแพชชั่นในการทำอนิเมชั่นเพราะว่าอยากวาดรถฝรั่งเศสยี่ห้อ Citroën 2CV ของตัวเองเข้าไปมีชีวิตอยู่ในนั้น UNLOCKMEN ขอพาไปอ่านเรื่องราวความหลงใหลในรถของปู่ฮายาโอะ ที่ทำให้รถยนตร์ทุกคันในการ์ตูนของจิบลิมีความสวยงาม มีความหมาย และมีเรื่องราวของเขาซ่อนอยู่ใน 4 ล้อที่ขับเคลื่อนไปอยู่ตลอดเวลา “ด้วยรถคันนี้ มันทำให้ผมหนาวจนตัวสั่นในฤดูหนาว และร้อนจะเป็นจะตายเมื่อฤดูร้อนมาถึง แต่นั่นคือกระบวนการ ‘ออสโมซิส (Osmosis)’ ที่สมบูรณ์แบบสำหรับธรรมชาติของผม” ขอเล่าประวัติย่อสั้น ๆ กันสักนิด Hayao Miyazaki เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย Gakushuin University จบคณะเศรษฐศาสตร์
เหงาว่ะ ไม่บ่อยนักที่คำวิเศษณ์อันกลั่นจากความอ่อนแอคำนี้จะหลุดออกมาจากปากผู้ชายเรา แต่ทันทีที่พลั้งเผลอพูดคำว่า “เหงา” ออกมา ความรู้สึกเหงาจริง ๆ ก็รันโรมโจมตีจิตใจเข้าอย่างจัง ราวพลัดตกเหวแห่งความเปล่าเปลี่ยว เดียวดาย และอ้างว้างอย่างไรอย่างนั้น คุณอาจจะคุ้นชินกับความเหงาที่ปราศจากคนรัก ความเหงาที่ไม่รู้จะทำอะไร ความเหงาที่ต้องอยู่โดดเดี่ยว หรือไม่สนิทกับความเหงามากพอจะจำได้ว่าความรู้สึกนี้เกิดขึ้นล่าสุดตอนไหน แต่ไม่ว่าคุณจะเหงามาก เหงาน้อย หรือเหงาจับใจ ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความเหงายังวนเวียนอยู่ในชีวิตของผู้ชายเราเสมอ UNLOCKMEN เลยอยากชวนหนุ่ม ๆ กระโดดลงไปด่ำดิ่งกับห้วงความเหงา ผ่าน 3 แอนิเมชันของมาโกโตะ ชินไค ที่อาจทำให้คุณเข้าใจชีวิตมากขึ้นหรือต้องหลั่งน้ำตาเพราะความรู้สึกเหงาที่เพิ่มมากกว่าเดิม ‘มาโกโตะ ชินไค’ ชายผู้กำกับความเหงาให้งดงาม หากพูดถึงแอนิเมชันดี ๆ สักเรื่อง คงจะลืมชื่อของ มาโกโตะ ชินไค (Makoto Shinkai) ผู้นี้ไปไม่ได้เลย เขาคือชายที่ได้รับสมญานามว่าเป็น “Wong Kar-Wai แห่งญี่ปุ่น” ผู้ซึ่งกำกับอนิเมะด้วยลายเส้น เพลงประกอบ ฉากหลัง และเนื้อเรื่องโรแมนติกดราม่าที่เป็นเอกลักษณ์ ชินไคบอกเล่าความสัมพันธ์กินใจจากเส้นแบ่งของความจริงและจินตนาการ เขาซุกซ่อนความอบอุ่น ความเศร้า ความรัก และความเหงาในรายละเอียดยิบย่อยของเส้นเรื่อง เพื่อให้ผู้ชมทุกคนได้ไต่ตาม ค้นหา
Spoil Alert! บทความนี้มีการพูดถึงเนื้อหาสำคัญของอนิเมะบางเรื่อง ‘อนิเมะ’ หรือ ‘การ์ตูนญี่ปุ่น’ มักจะถูกตีค่าว่าเป็นสื่อเพื่อความบันเทิง เน้นความสนุกสนาน ตลกโปกฮา หรือตื่นเต้นเร้าใจเป็นหลัก แต่ถ้าใครเสพอนิเมะเป็นประจำแล้วละก็ คงรู้ดีว่าอนิเมะญี่ปุ่นไปไกลกว่านั้นมาก บางเรื่องเนื้อหาเข้มข้นตึงเครียดยิ่งกว่าภาพยนตร์คนแสดงเสียอีก อย่างที่เราเคยเห็นใน Akira (1988) ที่นำเสนอโลกดิสโทเปียผสมความ Cyberpunk ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม จนอดไม่ได้ที่จะคิดถึงภาพยนตร์เรื่อง Blade Runner ของผู้กำกับ Ridley Scott หรือเรื่อง Perfect Blue (1997) ที่พาคนดูดำดิ่งสู่จิตใจมนุษย์ ภายใต้บรรยากาศหลอนประสาท ไม่ต่างอะไรจากภาพยนตร์เรื่อง Black Swan หรือ Suspiria แต่อนิเมะที่เราจะพูดถึงในวันนี้ไม่ได้หนักหน่วงขนาดนั้น เพียงแต่ทุกเรื่องฉาบไปด้วยความเศร้าที่แม้แต่ลูกผู้ชายอกสามศอกยังกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ The Tale of the Princess Kaguya (2013) ไม่เฉพาะแค่อนิเมะ แต่นี่คือภาพยนตร์ที่ทำให้เราร้องไห้หนักที่สุดในชีวิต ถึงแม้หน้าหนังของ The Tale of the Princess Kaguya ที่หยิบยกเรื่องราวนิทานพื้นบ้านญี่ปุ่น เจ้าหญิงกระบอกไม้ไผ่ มาเล่าจะดูเข้าถึงยาก เนื่องจากเนื้อเรื่องที่ดูโบราณ นอกจากนั้นยังเลือกวิธีการเล่าเรื่องผ่านแอนิเมชันสีน้ำที่คนส่วนใหญ่ไม่คุ้นชิน แต่ในเมื่อ The Tale of the Princess Kaguya กำกับโดย อิซาโอะ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้สตรีมมิ่งออนไลน์อย่าง ‘Netflix’ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของพวกเราไปแล้ว ด้วยจำนวนคอนเทนต์มากมายที่มีให้เลือกเสพ จนบางครั้งเราอาจลืมเพื่อนเก่าอย่างรายการโทรทัศน์ไปเสียสนิท และเมื่อพูดถึง Netflix แน่นอนว่าทุกคนคงต้องนึกถึงซีรีส์หรือละครชุดที่หลายเรื่องโด่งดังจนกลายเป็น Talk of the Town ไม่ว่าจะเป็น Stranger Things, Narcos, Black Mirror และอีกมากมาย แต่จริง ๆ แล้วใน Netflix ยังมีคอนเทนต์อีกประเภทที่หลายคนมองข้าม นั่นก็คือ ‘แอนิเมชั่นญี่ปุ่น’ แม้ช่วงแรกจำนวนแอนิเมชั่นจะมีน้อยมาก แต่ตอนนี้ Netflix ซื้อลิขสิทธิ์เข้ามาเพิ่ม รวมถึงการออกทุนสร้างเป็น Original Netflix เองด้วย จนตอนนี้จำนวนแอนิเมชั่นก็มีมากจนตามดูไม่ทันแล้ว ในจำนวนแอนิเมชั่นมากมายนี้ เรื่องไหนสนุกคุ้มค่าที่จะเสียเวลาดูบ้าง วันนี้เราจะมาแนะนำทุกคนเอง กับ 5 แอนิเมชั่นญี่ปุ่นโคตรสนุก หาดูได้ง่าย ๆ บน Netflix Baki ปัจจุบัน 1 ซีซั่น 13 ตอน เชื่อว่าผู้ชายทุกคนที่เกิดในยุค 80-90 น่าจะรู้จักมังงะบ้าพลังในตำนานอย่าง ‘บากิ’ เป็นอย่างดี เพราะนี่คือมังงะสายต่อสู้เพียว ๆ
นับตั้งแต่ When Marnie Was There เข้าฉายในปี 2014 เป็นเวลากว่าเกือบ 5 ปีแล้วที่เราไม่ได้เห็นผลงานใหม่จาก Studio Ghibli อีกเลย ตามนโยบายพักการผลิตที่ทางสตูดิโอเคยประกาศออกมา แม้ตอนนี้จะมีข่าวเกี่ยวกับ How Do You Live? ผลงานเรื่องใหม่ออกมา แต่ทุกอย่างก็ยังดูคลุมเครือ มีเพียงชื่อของ ฮายาโอะ มิยาซากิ นั่งแท่นผู้กำกับ และจะเข้าฉายในปี 2020 เท่านั้น ดังนั้นเพื่อให้หายคิดถึง วันนี้กีค Studio Ghibli อย่างเราจะมาเขียนถึง 5 แอนิเมชันในความทรงจำจากสตูดิโอในตำนานนี้ จะมีเรื่องไหนกันบ้างและจะตรงใจชาว UNLOCKMEN หรือเปล่า My Neighbor Totoro (1988) Directed by ฮายาโอะ มิยาซากิ ต่อให้คุณจะไม่ใช่แฟนหรือไม่แม้จะรู้จัก Studio Ghibli เลยด้วยซ้ำ แต่เชื่อว่าทุกคนน่าจะคุ้นตากับเจ้าสัตว์สีเทาร่างกลมยักษ์ที่ต่อมาได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของทางสตูดิโออย่างแน่นอน เป็นข้อพิสูจน์ชั้นดีว่าแอนิเมชันเรื่องนี้ประสบความสำเร็จขนาดไหน แต่ภายใต้รูปลักษณ์น่ารักแบบนี้ ถ้าใครเคยดู My Neighbor Totoro น่าจะทราบดีว่ามันแฝงไปด้วยความละมุนและลึกซึ้งขนาดไหน ผลงานแอนิเมชันลำดับที่ 3 ของ Studio Ghibli เรื่องนี้ว่าด้วยเรื่องราวของครอบครัว ๆ หนึ่งที่จำเป็นต้องย้ายจากเมืองใหญ่สู่ชนบทอันห่างไกลเนื่องจากปัญหาสุขภาพของผู้เป็นแม่
ถ้าจะพูดถึงวงการภาพยนตร์แอนิเมชั่นญี่ปุ่นที่เข้ามาในบ้านเรา 2 ขั้วอำนาจหลักที่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมให้ภาพยนตร์แนวนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก จากที่เคยอยู่ในกลุ่มเล็ก ๆ สู่ระดับ Talk of the Town จากปากต่อปากสู่รายได้มหาศาลที่เชื่อว่าผู้นำลิขสิทธิ์เข้ามาฉายนั้นก็คงจะแปลกใจอยู่ไม่น้อยว่าเกิดอะไรขึ้น Studio Ghibli คือขั้วอำนาจแรก ถ้าใครพอจะติดตาม Pop Culture แดนปลาดิบอยู่บ้างคงคุ้นกับสัญลักษณ์เจ้า Totoro ตัวกลมน่ากอดอย่างแน่นอน นี่คือสตูดิโอผู้สร้างที่อยู่คู่วงการแอนิเมชั่นญี่ปุ่นมากว่า 30 ปี และผลงานแต่ละเรื่องที่ผลิตออกมาก็อยู่ในระดับขึ้นหิ้งไม่ว่าจะเป็น Spirited Away, My Neighbor Totoro , Grave of the Fireflies ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังตราตรึงใจผู้คนทั่วโลก ขั้วอำนาจที่ 2 คือ มาโคโตะ ชินไค ที่ผลงานของเขาอย่าง Your Name เคยสร้างปรากฏการณ์โรงแตกในบ้านเรามาแล้ว และไม่ใช่แค่เรื่องนี้เท่านั้น เพราะผลงานของชินไคยังมีอีกมากมายหลายเรื่องที่ถ้าทุกคนได้ดูต้องหลงรักมัน ด้วยงานภาพอันละเมียดละไม ความเอ่อล้นของอารมณ์ที่อัดแน่นไว้ทุกรายละเอียดของเรื่อง วันนี้เราจึงอยากมาแนะนำผลงานของผู้กำกับวัย 45 ปีคนนี้ให้ทุกคนได้รู้จักกัน Voices of a Distant Star (2002) แอนิเมชั่นขนาดสั้น ผลงานในช่วงที่ชินไคเพิ่งเริ่มเป็นผู้กำกับเต็มตัวได้ไม่นาน โดยเขาหยิบผลงานไลท์โนเวลของ Waku Oba มาเรียบเรียงใหม่ในแบบฉบับของตัวเอง
หนึ่งในแนวมังงะที่หยิบมาอ่านเมื่อไรก็อะดรีนาลีนพลุ่งพล่านเมื่อนั้นคงหนีไม่พ้นมังงะ ‘นักเลง’ เพราะเรื่องราวในมังงะเหล่านี้มันช่างโดนใจหนุ่ม ๆ แบบเราเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นการต่อยตี จีบสาว และมิตรภาพ ยิ่งถ้าในวัยเรียนใครเคยมีวีรกรรมห่าม ๆ ด้วยแล้ว คงเหมือนได้อ่านไดอารี่ย้อนความหลังไปในตัว และด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้วงการมังงะญี่ปุ่นอุดมไปด้วยมังงะนักเลง ๆ สนุก ๆ มากมาย ซึ่งวันนี้เราขอคัดเรื่องที่เราชอบและคิดว่ามันเจ๋งมาบอกต่อ เผื่อว่าใครกำลังหาอะไรที่ปลุกความเป็นลูกผู้ชายในตัวมาอ่าน Rokudenashi Blues จอมเกบลูส์ Written by: มาซาโมริ โมริตะ เด็กผู้ชายที่เติบโตมาในยุค 80-90 คงไม่มีใครไม่รู้จัก ‘มาเอดะ ไทซัน’ นักเลงหัวไม้มัธยมปลายที่มักจะมาพร้อมท่าปากจู๋อันเป็นเอกลักษณ์ เพราะจอมเกบูลส์คือมังงะที่โด่งดังมากจริง ๆ ในยุคนั้น ถึงแม้บางคนอาจจะเบือนหน้าหนีเนื่องจากลายเส้นที่เน้นใช้การลงสีเข้ม ๆ ของตัวอาจารย์ผู้เขียน แต่สำหรับบางคนนั่นคือเสน่ห์ นอกจากนั้นเนื้อเรื่องตลอด 42 เล่มนั้นเข้มข้นสุด ๆ เป็นมังงะที่สะท้อนการใช้ชีวิตของลูกผู้ชายอย่างแท้จริง จอมเกบูลส์ว่าด้วยเรื่องราวของมาเอดะ ไทซัน นักเรียนมัธยมปลายโรงเรียนไทเค็น เขามีพรสวรรค์ด้านกีฬา ชื่นชอบในการต่อยมวยไม่แพ้การทะเลาะวิวาท ความฝันเขาคือการเป็นแชมป์โลกมวยสากล ตัวมังงะบอกเล่าถึงการเดินตามถนนแห่งความฝันที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ระหว่างทางมาเอดะต้องพบเจอเรื่องราวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทะเลาะวิวาท มิตรภาพ และความรัก ด้วยความมีครบทุกรสชาตินี้เอง จอมเกบูลส์จึงเป็นมังงะตำนานขึ้นหิ้งและอยู่ในใจใครหลายคนมาอย่างยาวนาน HARELUYA
เชื่อว่าผู้ชายทุกคนส่วนใหญ่เคยอยากมีการ์ตูนเป็นของตัวเอง ตอนยังเด็กหนังสือการ์ตูนเป็นหนังสือที่เราคลุกคลีด้วยพอ ๆ กับหนังสือเรียน แต่แน่นอนว่าเราชอบการ์ตูนมากกว่า และบางครั้งการหยิบดินสอมาร่างเส้นโง่ ๆ ตามใจคิดก็เป็นหนึ่งในเรื่องสนุกที่เราทำเป็นประจำ บางคนอาจหยุดวาดเพราะรู้สึกว่ามันห่วย วาดรูปไม่สวย ทำให้ไม่สนุกเหมือนเก่า แต่วันนี้ UNLOCKMEN ไปเจออัปเดตโปรแกรมจากฝั่ง Adobe ตัวล่าสุดที่มีประโยชน์มาก เพราะมันมาเหนือชั้นด้วยการใส่ระบบ AI เข้าไปในโปรแกรม และ…บู้ม เปลี่ยนใบหน้าเราที่กำลังขยับผ่านกล้องให้กลายเป็นลายเส้นดินสอและขยับแบบ Realtime ที่ชื่อว่า Characterizer How to create “Characterizer” “Characterizer” คือหนึ่งใน Feature ล่าสุดที่ประกาศอัปเดต Desktop Application ภายในงาน Adobe Max 2018 ซึ่งเป็น The Creativity Conference ที่จัดขึ้นในวันที่ 15-17 ตุลาคมที่ผ่านมาใน Los Angeles Feature นี้เกิดขึ้นจากโปรเจกต์การวิจัยและ Tech demo นำมาผนวกรวมกันเพื่อสร้างเป็นแอปฯ Adobe’s Character Animator โดยมี Sirr Less,
ดูหนังธรรมดา ๆ มันก็น่าเบื่อเกินไป วันว่าง ๆ แบบนี้ต้องหาเวลามาดูหนังพล็อตแปลกไปจากที่เคยดูกันบ้าง UNLOCKMEN ขอแนะนำ 10 เรื่องพล็อตล้ำ ๆ หลากหลายแนว ไม่ว่าจะทริลเลอร์ โรแมนติก หรือแม้แต่อะนิเมะ อย่ามัวแต่คิดว่ามีแค่หนังสืบสวนเท่านั้นที่จะมีพล็อตล้ำ ๆ ได้ พล็อตล้ำ ๆ มันสามารถมีได้ในหนังทุกแนวเลยต่างหาก มาดูกันให้ครบ รับรองว่าได้หนังใจดวงใจเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน Predestination (2014) Director : Michael Spierig, Peter Spierig เรื่องย่อ : The Barkeep เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลที่มีหน้าที่หยุดยั้งอาชญากรไม่ให้ก่อเหตุร้ายแรง ด้วยการเดินทางข้ามเวลาไม่ว่าจะเป็นอดีตหรืออนาคต และงานสุดท้ายก่อนลาวงการของเขาคือหยุดยั้ง Fizzle bomber นักวางระเบิดตัวฉกาจ แต่ทุกอย่างมันไม่ง่ายอย่างนั้น ยิ่งเขาถลำลึกลงไป เขายิ่งค้นพบปริศนาที่เป็นปมต่อกันยาวเหยียดไปเรื่อย ๆ และเป็นเขานี่แหละที่ต้องคลายปมนั้นด้วยตัวเอง มันเจ๋งตรงนี้! : ทำความเข้าใจก่อนว่ามันไม่ใช่แค่หนัง Sci-Fi ล้ำ ๆ ยิงกันมัน ๆ แล้วจบกันไป แต่ต้องเตรียมสมองคุณให้พร้อม กับหนังพล็อตล้ำเรื่องนี้