Entertainment

OTAKU 101: ย้อนความทรงจำ ‘5 แอนิเมชันจาก STUDIO GHIBLI’ ที่ตราตรึงอยู่ในหัวใจ

By: PERLE January 8, 2019

นับตั้งแต่ When Marnie Was There เข้าฉายในปี 2014 เป็นเวลากว่าเกือบ 5 ปีแล้วที่เราไม่ได้เห็นผลงานใหม่จาก Studio Ghibli อีกเลย ตามนโยบายพักการผลิตที่ทางสตูดิโอเคยประกาศออกมา แม้ตอนนี้จะมีข่าวเกี่ยวกับ How Do You Live? ผลงานเรื่องใหม่ออกมา แต่ทุกอย่างก็ยังดูคลุมเครือ มีเพียงชื่อของ ฮายาโอะ มิยาซากิ นั่งแท่นผู้กำกับ และจะเข้าฉายในปี 2020 เท่านั้น

ดังนั้นเพื่อให้หายคิดถึง วันนี้กีค Studio Ghibli อย่างเราจะมาเขียนถึง 5 แอนิเมชันในความทรงจำจากสตูดิโอในตำนานนี้ จะมีเรื่องไหนกันบ้างและจะตรงใจชาว UNLOCKMEN หรือเปล่า

 

My Neighbor Totoro (1988) Directed by ฮายาโอะ มิยาซากิ

ต่อให้คุณจะไม่ใช่แฟนหรือไม่แม้จะรู้จัก Studio Ghibli เลยด้วยซ้ำ แต่เชื่อว่าทุกคนน่าจะคุ้นตากับเจ้าสัตว์สีเทาร่างกลมยักษ์ที่ต่อมาได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของทางสตูดิโออย่างแน่นอน เป็นข้อพิสูจน์ชั้นดีว่าแอนิเมชันเรื่องนี้ประสบความสำเร็จขนาดไหน

แต่ภายใต้รูปลักษณ์น่ารักแบบนี้ ถ้าใครเคยดู My Neighbor Totoro น่าจะทราบดีว่ามันแฝงไปด้วยความละมุนและลึกซึ้งขนาดไหน ผลงานแอนิเมชันลำดับที่ 3 ของ Studio Ghibli เรื่องนี้ว่าด้วยเรื่องราวของครอบครัว ๆ หนึ่งที่จำเป็นต้องย้ายจากเมืองใหญ่สู่ชนบทอันห่างไกลเนื่องจากปัญหาสุขภาพของผู้เป็นแม่

นี่จึงเปรียบเสมือนการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตครั้งใหญ่ของครอบครัวนี้ โดยเฉพาะกับลูกสาวทั้ง 2 ที่อยู่ในวัยกำลังซน อย่างไรก็ตามทุกอย่างก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิดเพราะพวกเธอทั้งคู่ได้รับการช่วยเหลือจากภูตป่าตัวกลมโตหน้าตาน่ารัก ที่เข้ามาทำให้แต่ละวันของพวกเธอเต็มไปด้วยสีสัน

นี่คือแอนิเมชันที่ไม่ว่าจะหยิบมาดูเมื่อไหร่ก็อบอุ่นหัวใจเมื่อนั้น ถึงแม้ว่าการตีความตอนจบตามทฤษฎีจะทำให้ทุกอย่างกลับตาลปัตรก็ตาม แต่ทุกคนก็ไม่ควรพลาดแอนิเมชันเรื่องนี้อยู่ดี

 

Spirited Away (2001) Directed by ฮายาโอะ มิยาซากิ

นับตั้งแต่ออสการ์มีรางวัลสาขาแอนิเมชันยอดเยี่ยมขึ้นมาในปี 2001 จนถึงปัจจุบันเวลาก็ล่วงเลยมาเกือบ 20 ปีแล้ว แต่กลับมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่แอนิเมชันจากฝั่งตะวันออกสามารถคว้ารางวัลนี้ไปครองได้สำเร็จ ซึ่งเรื่องนั้นก็คือ Spirited Away ผลงานกำกับระดับมาสเตอร์พีซขึ้นหิ้งของ ฮายาโอะ มิยาซากิ เพียงเท่านี้ก็น่าจะยืนยันได้เป็นอย่างดีแล้วว่าแอนิเมชันเรื่องนี้ยอดเยี่ยมแค่ไหน

Spirited Away ว่าด้วยเรื่องราวของ จิฮิโระ โองิโนะ เด็กสาวธรรมดาคนหนึ่งที่บังเอิญพลัดหลงกับพ่อแม่ หลุดเข้าไปในมิติลึกลับที่เต็มไปด้วยภูตผีปีศาจและเรื่องเหนือธรรมชาติมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ฮากุ อีกหนึ่งตัวละครสำคัญของเรื่อง โดยภายในโลกแห่งภูตินี้จิฮิโระต้องเผชิญกับการผจญภัยเหนือจินตนาการมากมาย

ถึงแม้จะเป็นแอนิเมชั่นแนวผจญภัยแฟนตาซีตามฉบับนิยม แต่ Spirited Away กลับแฝงไปด้วยข้อความสะท้อนสังคมเชิงสัญญะมากมาย ถ่ายทอดออกมาได้อย่างกลมกล่อมและละมุนละไม เราจึงไม่แปลกใจเลยที่กับการคว้าตุ๊กตาทองของผู้กำกับ ฮายาโอะ มิยาซากิ

 

From Up on Poppy Hill (2011) Directed by  โกโร มิยาซากิ

สำหรับแอนิเมชั่น 2 เรื่องด้าบนนั้น ถ้าใครพอจะติดตามวงการแอนิเมชันญี่ปุ่นอยู่บ้างน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่สำหรับ From Up on Poppy Hill ที่เราจะเขียนถึงต่อไปนี้คงมีน้อยคนที่รู้จัก เนื่องจากผลงานของ โกโร มิยาซากิ เรื่องนี้ไม่ได้โดดเด่นมากนัก แต่สำหรับเรามันคือแอนิเมชันที่อบอุ่นหัวใจที่สุดเรื่องหนึ่ง

From Up on Poppy Hill ว่าด้วยเรื่องราวในช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นเร่งพัฒนาโตเกียวเพื่อรับมหกรรมโอลิมปิกฤดูร้อน 1964 มะสึซากิ อูมิ เด็กสาววัย 16 ปี ผู้สูญเสียบิดาไปในสงครามเกาหลี อาศัยอยู่ในบ้านโคะกุริโกะ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองท่าโยโกฮามา เพื่อระลึกถึงบิดา ทุกเช้าเธอจะชักธงสัญญาณแบบเดียวกันขึ้นที่บ้านของเธอ

ชีวิตของอูมิดำเนินไปอย่างเรียบง่าย จนวันหนึ่งเธอได้พบกับ คาซามะ ชุน บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ของโรงเรียน ผู้ซึ่งเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการรณรงค์ต่อต้านการรื้อถอนอาคาร ‘ละติน ควอเตอร์’ อาคารเก่าแก่ภายในโรงเรียน อูมิจับพลัดจับผลูเข้าร่วมการรณรงค์กับชุน ก่อนที่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งวันหนึ่งที่ความจริงบางอย่างถูกเปิดเผย…

เราไม่ขอสปอย เอาเป็นว่าใครที่ดูแอนิเมชั่นของ Studio Ghibli  มาหลายเรื่อง แต่ยังไม่เคยดูเรื่องนี้ เราแนะนำให้รีบไปหามาดูโดยด่วน

 

The Wind Rises (2013) Directed by ฮายาโอะ มิยาซากิ

ถ้าคุณอยากรู้ว่ากว่าที่ ฮายาโอะ มิยาซากิ หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Studio Ghibli และผู้ที่ใครหลายคนให้ฉายาว่า ‘บิดาแห่งภาพยนตร์แอนิเมชันญี่ปุ่น’ จะมาถึงจุดนี้ได้นั้นต้องผ่านอะไรมาบ้าง ต้องลำบากตรากตรำแค่ไหน แอนิเมชั่นเรื่อง The Wind Rises คือคำตอบ เพราะนี่คือผลงานที่ฮายาโอะตั้งใจให้เป็นผลงานชิ้นปัจฉิม เขาจึงหยิบเรื่องราวชีวิตของ จิโร โฮะริโกะชิ วิศวกรชาวญี่ปุ่นผู้มีส่วนสำคัญในการสร้างเครื่องบินรบในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยฮายาโอะคงเล็งเห็นว่าชีวิตเขาและจิโร่นั้นมีความคล้ายคลึงกันในหลายแง่มุม

ทุกอย่างใน The Wind Rises นั้นถูกนำเสนอออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นแอนิเมชั่นที่มีครบทุกรสชาติ ไม่หวานจนเลี่ยน ไม่ขมจนแหยง แต่เป็นรสชาติของชีวิตจริงที่ไม่อาจหลีกหนีโชคชะตาได้

The Wind Rises เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ไม่กี่เรื่องที่ไม่มี End Credit แต่กลับสะกดเราให้ไม่สามารถลุกขึ้นจากที่นั่งได้ ว่ารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ไฟโรงหนังเปิดนั่นแหละ เป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย จนกว่าคุณจะหามาชมด้วยตัวเอง

 

The Tale of the Princess Kaguya (2013) Directed by อิซาโอะ ทากาฮาตะ

ไม่เฉพาะแค่แอนิเมชัน แต่นี่คือภาพยนตร์ที่ทำให้เราร้องไห้หนักที่สุดในชีวิต

ถึงแม้หน้าหนังของ The Tale of the Princess Kaguya ที่หยิบยกเรื่องราวนิทานพื้นบ้านญี่ปุ่น เจ้าหญิงกระบอกไม้ไผ่ มาเล่าจะดูเข้าถึงยาก เนื่องจากเนื้อเรื่องที่ดูโบราณ นอกจากนั้นยังเลือกวิธีการเล่าเรื่องผ่านแอนิเมชันสีน้ำที่คนส่วนใหญ่ไม่คุ้นชิน แต่ในเมื่อ The Tale of the Princess Kaguya กำกับโดย อิซาโอะ ทากาฮาตะ อีกหนึ่งตำนานแห่ง Studio Ghibli ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะไม่ตีตั๋วเข้าไปชม

และอิซาโอะก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง เขานำเสนอเรื่องราวของเจ้าหญิงกระบอกไม้ไผ่ออกมาได้อย่างงดงาม ลงตัวในทุกรายละเอียด สัมผัสได้ถึงความประณีตของผู้สร้างสรรค์

The Tale of the Princess Kaguya เริ่มต้นด้วยการดำเนินเรื่องที่เรียบง่าย ไม่หวือหวา ก่อนที่จะปล่อยของเต็มที่ในช่วงท้ายของเรื่อง ทำเอาเราน้ำตาไหลอาบแก้ม แต่ถึงจะเศร้าแต่มันก็ตราตรึงในใจเราอย่างไม่รู้ลืม

ใครคิดว่าตัวเองใจแข็งร้องไห้ยาก อย่าเพิ่งมั่นใจก่อนจะได้ดู The Tale of the Princess Kaguya

 

และนี่คือทั้ง 5 เรื่องที่เราเลือกมา ซึ่งจริง ๆ แล้วผลงานทั้ง 21 เรื่องของ Studio Ghibli ทั้งหมดเคยผ่านตาเรามาแล้ว แต่นี่คือเรื่องที่ประทับใจเราที่สุด แล้วสำหรับคุณล่ะ แอนิเมชั่นของ Studio Ghibli เรื่องไหนที่ตราตึงใจที่สุด ถ้ามีเวลาว่างลองหยิบมันขึ้นมาดูอีกรอบสิ เพราะบางทีคุณอาจจะลืมไปแล้วว่าคุณประทับใจมันมากแค่ไหน

PERLE
WRITER: PERLE
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line