Entertainment

Nimona อนิเมชั่นของทุกคนที่แตกต่าง ไม่ควรมีใครควรโดดเดี่ยวเพราะสิ่งที่ตัวเองเป็น

By: GEESUCH July 14, 2023

เหตุการณ์เดิมวนซ้ำ ๆ กับมนุษย์สตริมมิ่ง Netflix ที่ต้องการจะหาหนังหรือการ์ตูนดูสักเรื่องหลังจากทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน ไล่จากลิสต์รายการ (ดอง) โปรดก็แล้ว , อ่านรีวิวจากเพจ Neflix Review ก็แล้ว , คอลกลุ่มไปถามเพื่อนก็แล้ว ก็ยังไม่รู้จะดูอะไรดี โอเคนั้นต้องงัดไม้ตายมาใช้ คนอื่นทำไงไม่รู้ แต่เราใช้วิธีเข้าที่ช่อง ‘ค้นหา’ ซ้ายบนของจอ แล้วเลือกเรื่องค้นหายอดฮิตที่อยู่ซ้ายบนทุกรอบ และนั่นทำให้เราเจอกับ Nimona อนิเมชั่นหมวดเด็ก ที่ผู้ใหญ่ควรได้ดู

(เนื้อหาหลักเริ่มบรรทัดต่อไปนะ ข้างบนไม่ต้องอ่านก็ได้)

ก่อนจะเป็น Nimona ใน Netflix อนิเมชั่นเรื่องนี้เคยเป็นกราฟิกโนเวลมาก่อน เคยถูกวางเป็นโปรเจคต์ใหญ่ของ Blue Sky Studios แต่ถูกสั่งยกเลิกการถ่ายทำไปในวันก่อนจะเปิดกล้องไม่นาน … การที่ Nimona ได้สตรีมมิ่งให้เราดูอยู่ในตอนนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแม้แต่นิดเดียว แต่เป็นเรื่องราวของเหล่าผู้คนที่ไม่ทิ้งความฝัน พร้อมกับต้องการมอบสิ่งที่ดีให้โลกใบนี้   


ND Stevenson และนิโมน่าในชีวิตจริงของเธอ 

ย้อนกลับไปในปี 2015 สำหรับสายนิยายภาพทุกคน ถ้าลองเสิร์ชหา Best Graphic Novel ประจำปีนั้นดู จะพบว่าหลากบทความบนอินเทอร์เน็ตล้วนใส่ชื่อของหนังสือ Nimona ในโผ มาพร้อมกับรีวิวในทางบวกเสมอ หนังสือซึ่งพูดถึงเด็กสาวผู้แปลงร่างเป็นสัตว์ได้สารพัด กับชายหนุ่มที่กำลังจะได้เป็นอัศวินของอาณาจักรแห่งหนึ่ง แต่ตัวเองกลับถูกใส่ร้ายกลายเป็นอาชญากรอย่างไม่คาดฝัน .. 

แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันยิ่งกว่าเรื่องย่อ คือกราฟิกโนเวลเรื่องนี้ถูกแต่งและวาดภาพประกอบโดย ND Stevenson นักเขียนหน้าใหม่ที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการทำหนังสือแนวนี้เลยสักนิดเดียว เธอแค่พยายามทำให้เสร็จ และบอกว่าความสนุกคือถ้าลองอ่าน Nimona ก็จะเห็นการลองถูกลองผิดทั้งในเนื้อเรื่องและงานวาดของตัวเธองเองที่เป็นมือใหม่ตลอดทั้งเรื่อง

แต่เราเชื่อว่าสิ่งที่ทำให้ Nimona เอามือเข้าไปสัมผัสใจของคนอ่านได้อย่างลึกซึ้ง เป็นเพราะว่านิยายภาพเรื่องนี้สะท้อนตัวตนของสตีเวนสันราวกับกระจก และมีความสำคัญกับเธอไม่ต่างกับเพื่อนสนิทที่ชีวิตนี้หาไม่ได้อีกแล้ว 

ในปีที่วางจำหน่ายหนังสือ Nimona นั้นเอง สตีเวนสันเลือกที่จะเปิดตัวตนต่อสาธารณะว่าเธอเป็นเกย์ ซึ่งนั่นทำให้ประเด็นเรื่องของความหลากหลายทางเพศ LGBTQIA+ ทั้งในเวอร์ชั่นของหนังสือและอนิเมชั่นเป็นส่วนที่ถูกเล่าด้วยความจริงใจ ไม่มีตัดทอน รวมถึงที่สตีเวนสันเรียกตัวละครนิโมน่าว่าเป็น Queerness ไม่ได้ระบุเพศใดเพศหนึ่งด้วยเหมือนกัน  

“ถ้าถามว่านิโมน่ามีความสำคัญต่อฉันอย่างไร และสิ่งที่ฉันหวังให้เธอมีความสำคัญต่อคนอื่นอย่างไร มันคือการที่ฉันอยากบอกว่าความรู้สึกของคุณทุกคนไม่ได้มีส่วนทำให้คุณกลายเป็นคนที่เลวร้ายเลยสักนิด ทั้งความอ่อนไหว อารมณ์โกรธ ความเศร้าและเจ็บปวด สิ่งเหล่านี้ไม่ได้หมายความว่าคุณแตกสลายหรือเป็นอันตรายต่อคนอื่น คุณสามารถมีความรู้สึกเหล่านี้ได้โดยไม่ผิด คุณสามารถเชื่อมั่นในตัวเอง และสามารถขอความช่วยเหลือพร้อมกับได้รับความช่วยเหลือ เพราะว่าคุณสมควรได้รับมันจริง ๆ”

– ND Stevenson 


การล่มสลายของ Blue Sky Studios และการกอบเศษซากของความฝันให้กลายเป็นความจริงอีกครั้งโดย Netflix 

สิ่งที่ตามมาหลังจากความสำเร็จของ Nimona คือในปี 2017 ทาง Blue Sky Studios ค่ายที่ผลิตอนิเมชั่นในดวงใจของใครหลายคนอย่าง Ice Age , Rio , Robots ติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์ทำอนิเมชั่น !

แต่เรื่องราวนี้กลับเป็นได้เพียงแค่ฝัน โปรเจคต์ที่ถูกพัฒนาอย่างยาวนานกลับถูกพับหน้ากระดานไปดื้อ ๆ เพราะการมาของ Disney ในปี 2021 ที่เข้ามาฮุปซื้อ 20th Century Fox อันเป็นสตูดิโอแม่ของตัวอนิเมชั่น พร้อมกับยุบสตูดิโอท้องฟ้าสีครามนี้ลงอย่างน่าเศร้า   

“การปิดตัวลงของ Blue Sky Studios ไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในปกติชีวืตประจำวัน และนั่นหมายความว่าทุกอย่างได้ถูกชัตดาวน์ลง ดิสนีย์หยุดอนิเมชั่นของพวกเรา แถมยังปิดบ้านของพวกเราอีกด้วย … Blue Sky Studios มีพนักงานกว่า 600 คน แต่พวกเราก็เป็นครอบครัวเดียวกัน ผมทำงานที่นั่นกว่า 20 ปี พนักงานเหล่านั้นคือคนที่อยู่ในงานแต่งงานของผม แต่สิ่งที่ทำให้ทุกอย่างดำเนินต่อไปได้ คือตัวละครมหัศจรรย์ที่ ND Stevenson เป็นคนสร้างขึ้นมา นั่นก็คือ Nimona นั่นเอง” 

– Troy Quane (ผู้กำกับ Nimona)

แต่ความฝันในครั้งนี้ก็ไม่ได้จบลงไปเพียงเท่านั้น เมื่อเรื่องราวของ Nimona ยังคงติดอยู่ในใจของผู้คนที่เคยอยู่ใน Blue Sky Studios มาโดยตลอด ในฐานะอนิเมชั่นเรื่องสุดท้ายของค่ายที่ไม่เคยได้เกิดขึ้นจริง

กด skip ข้ามมาในปี 2022 หัวใจของ Nimona กลับมาเต้นที่อีกครั้ง ด้วยอัตราที่แรงกว่าเดิม ! เมื่อ Annapurna Pictures / Netflix และ DNEG Animation ได้ตัดสินใจที่จะลงมือสานต่ออนิเมชั่นแฟนตาซีไซไฟเรื่องนี้ให้สำเร็จลุล่วง เหตุผลส่วนหนึ่งเป็นเพราะสิ่งที่สตีเวนสันพูดในวันที่จำหน่ายหนังสือ และเจตนารมณ์แรงกล้าของ Blue Sky Studios ที่ต้องการให้โลกได้เห็นเรื่องราวนี้ เหล่าเด็ก ๆ ควรได้ดูอนิเมชั่นที่บอกกับพวกเขาว่าการเป็นตัวเองไม่ควรเป็นสิ่งที่ถูกใครตัดสินให้ผิดแม้แต่นิดเดียว

ย้อนกลับไปในวันที่ Blue Sky Studios กำลังจะถูกปิดตัวลงสตีเวนสันเคยให้สัมภาษณ์ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับทีมงานที่ทำอนิเมชั่นจากหนังสือของเธอ ไม่ได้ต่างอะไรจากครอบครัวเลย เธอเองก็เสียใจมากที่บริษัทปิดตัวลง ไม่ใช่เพราะว่าผลงานของเธอจะไม่ได้กลายเป็นอนิเมชั่น แต่เป็นเพราะคนที่ตกงานเหล่านั้นทำงานหนักเพื่อ Nimona จริง ๆ  

“ฉันยังจำได้ดีอยู่เลย สตูดิโอปิดตัวลงอย่างเป็นทางการในวันอังคาร ซึ่งที่จริงแล้ววันพฤหัสบดีที่จะถึงจะเป็นวันถ่ายทำครั้งแรกของ Nimona ฉันและทีมงานเลยไปที่นั่น ทำเหมือนว่าการถ่ายทำได้เกิดขึ้นจริง และนั่นคืองานเลี้ยงอำลาของพวกเรา แต่ส่วนหนึ่งของตัวฉันเชื่อมาตลอดนะ ว่ามันไม่ใช่จุดจบ”

– ND Stevenson


Nimona ตัวแทนความหวังของเหล่าผู้คนที่แตกต่าง 

เรื่องย่อ : Ballister Boldheart อัศวินในอาณาจักรแห่งหนึ่ง ถูกใส่ร้ายว่าเป็นตัวการปลงพระชนม์พระราชินีของอาณาจักร ส่งผลให้ต้องหลบหนีไปในเงามืด แต่จู่ ๆ Nimona เด็กหญิงสุดประหลาดที่มีพลังวิเศษสามารถแปลงกายเป็นสัตว์ได้ก็มาปรากฎตัวต่อหน้าเขา พร้อมยื่นข้อเสนอว่าจะช่วยฟรี ๆ ไม่ขอสิ่งตอบแทน แต่ว่าทำไมกันล่ะ ? 

สิ่งที่เจ๋งที่สุดอย่างแรกของ Nimona คือมี World Setting ที่มหัศจรรย์มาก ๆ มันคือยุคอนาคตรถเหาะได้ เทคโนโลยีก้าวไกล แต่มีการระบบการปกครองแบบยุคกลาง คือมีอัศวินและราชินี !

ซึ่งการเซ็ทโลกแบบนี้เป็นตัวสำคัญที่เล่าถึงประเด็น ‘ความแตกต่าง = ความประหลาด’ ของเรื่องนี้ อย่างแรกเลยคืออาณาจักรในเรื่อง Nimona มีกำแพงล้อมรอบโลกข้างนอกไม่ให้ผู้คนข้างในเห็น พร้อมกับบอกประชาชนทุกวันว่าโลกภายนอกมีสัตว์ประหลาดชั่วร้ายคอยจะทำลายเมืองอยู่ โดยที่ผู้คนข้างในไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เรียกว่าสัตว์ประหลาดนั้นมัน ‘น่ากลัว’ และส่งผลต่อชีวิตของตัวเองจริง ๆ 

“เด็ก ๆ ที่นี่ถูกทำให้เชื่อว่าตัวเองสามารถเป็นฮีโร่ได้ ด้วยการเอาดาบแทงทะลุหัวใจของสิ่งที่ไม่เหมือนตัวเอง”

แต่ไม่เท่านั้น ประเด็นเรื่องของความแตกต่างยังถูกใช้สื่อถึงผู้คนข้างในกำแพงด้วย (ทำไมฟังดูเป็น Attack On Titan) ซึ่งตัวละครที่อธิบายเรื่องนี้ได้ชัดเจนที่สุดคือตัวเอกของเรื่อง 2 ตัว คือ Ballister Boldheart ชีวิตของบาลิสเตอร์คือเขากำลังจะได้เป็นอัศวินของอาณาจักรเพราะความภักดีและความเก่งกาจ แต่ตัวของเขาเองไม่ได้มีเชื้อศักดินาตามขนบอย่างที่ควรจะเป็น เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ต้องใช้ชีวิตด้วยตัวเองมาโดยตลอด นั่นทำให้ประชาชนในอาณาจักรเดียวกันยอมรับไม่ได้ในตอนแรก โดยไม่ได้สนใจเลยว่าเขาจะเป็นคนจิตใจดีแค่ไหน และพยายามอย่างหนักกว่าคนอื่นเท่าไหร่ เพื่อให้ได้ขึ้นมา

สำหรับ Nimona เธอสามารถแปลงร่างเป็นสัตว์ได้หลากชนิดในแบบที่ไม่มีใครสามารถเป็นได้ จริง ๆ แค่นี้ก็สามารถความโดดเดี่ยวที่เธอต้องเจอได้มากพอแล้ว เพราะถ้าพูดเกินกว่านี้จะเป็นการสปอยล์จนเกินไป

ND Stevenson เขียนโลกใน Nimona เพื่อจำลองโลกในชีวิตจริงได้อย่างงดงามและน่าเศร้าในเวลาเดียวกัน แต่เพราะไม่อยากให้ใครต้องโดดเดี่ยวจากสิ่งที่ตัวเองเป็น เธอจึงเขียนความหวังที่เห็นเป็นแสงนำทางเหล่าตัวละครเข้าไปในเนื้อเรื่องด้วย เพื่อให้เหล่าผู้คนที่กำลังหลงทาง ได้มีชีวิตท่ามกลางแสงแดดอย่างไม่ต้องรู้สึกผิดใด ๆ : )


SOURCE : 1 / 2 / 3 

GEESUCH
WRITER: GEESUCH
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line