ถึงแม้ว่าจะมาเป็นครั้งแรก แต่เรากลับเดินทางมาถึงบ้านซึ่งซ่อนตัวอยู่ในซอยหนึ่งของย่านสีลมนี้ได้อย่างไม่ลำบากจนเกินไปนักทั้ง ๆ ที่ตัวเองห่วยแตกเรื่องการดูแผนที่มาตลอด คงเป็นเพราะนี่คือโลเคชั่นของรายการโปรดของตัวเองจากช่อง Rubsarb Production ชื่อ ‘ศิลปะล่ะ’ ที่ดูเป็นประจำล่ะมั้ง (จาก EP.25 มันผ่านมา 3 เดือนกว่าแล้วนะครับพี่ ๆ) พอเห็นประตูบ้าน เงยหน้าพิจารณาดูภายนอกอยู่สักพัก ก็ชัวร์เลยว่าหลังนี้ล่ะบ้านของพี่ ‘ฮ่องเต้ Art Of Hongtae’ ทำไมเราถึงมั่นใจมากทั้ง ๆ ที่ไม่มี Fact อะไรมารองรับ ก็เพราะเขาเปิดประตูออกมาทักทายแล้วไง “บ้านกูเหมือนห้องทำงานเจ้าของ Paul Smith ปะ ของรกสัส 555” เชื่อว่าทุกคนรู้จักผู้ชายชื่อ ฮ่องเต้-กนต์ธร เตโชฬาร ดีอยู่แล้ว ในฐานะของคนทำงานศิลปะ ไม่ว่าจะในรูปแบบของภาพประกอบ งานเขียน หรือรูปแบบอื่น ๆ ที่ถ้าให้ลิสต์รายชื่อทั้งหมดก็จะเสียพื้นที่ไปอีก 2-3 ย่อหน้า หรือแฟนคลับของพี่ฮ่องเต้ก็น่าจะรู้อยู่แล้วอีกแหละว่าเขาเติบโตมากับคุณพ่อที่เป็นหมอคุณแม่ที่เป็นแม่บ้าน เรียนศิลปะกับ ‘ครูสังคม ทองมี’ เข้าสถาปัตย์จุฬาเพราะใจแตกจากการดูละครเวทีสถาปัตย์ เรียนจบทำงาน Wedding Designer
เหตุการณ์เดิมวนซ้ำ ๆ กับมนุษย์สตริมมิ่ง Netflix ที่ต้องการจะหาหนังหรือการ์ตูนดูสักเรื่องหลังจากทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน ไล่จากลิสต์รายการ (ดอง) โปรดก็แล้ว , อ่านรีวิวจากเพจ Neflix Review ก็แล้ว , คอลกลุ่มไปถามเพื่อนก็แล้ว ก็ยังไม่รู้จะดูอะไรดี โอเคนั้นต้องงัดไม้ตายมาใช้ คนอื่นทำไงไม่รู้ แต่เราใช้วิธีเข้าที่ช่อง ‘ค้นหา’ ซ้ายบนของจอ แล้วเลือกเรื่องค้นหายอดฮิตที่อยู่ซ้ายบนทุกรอบ และนั่นทำให้เราเจอกับ Nimona อนิเมชั่นหมวดเด็ก ที่ผู้ใหญ่ควรได้ดู (เนื้อหาหลักเริ่มบรรทัดต่อไปนะ ข้างบนไม่ต้องอ่านก็ได้) ก่อนจะเป็น Nimona ใน Netflix อนิเมชั่นเรื่องนี้เคยเป็นกราฟิกโนเวลมาก่อน เคยถูกวางเป็นโปรเจคต์ใหญ่ของ Blue Sky Studios แต่ถูกสั่งยกเลิกการถ่ายทำไปในวันก่อนจะเปิดกล้องไม่นาน … การที่ Nimona ได้สตรีมมิ่งให้เราดูอยู่ในตอนนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแม้แต่นิดเดียว แต่เป็นเรื่องราวของเหล่าผู้คนที่ไม่ทิ้งความฝัน พร้อมกับต้องการมอบสิ่งที่ดีให้โลกใบนี้ ND Stevenson และนิโมน่าในชีวิตจริงของเธอ ย้อนกลับไปในปี 2015 สำหรับสายนิยายภาพทุกคน ถ้าลองเสิร์ชหา Best Graphic Novel ประจำปีนั้นดู
ตลอด 40 ปีที่ผ่านมา อาจมีนักแสดงหลายคนที่ได้ฝากผลงานการแสดงภาพยนตร์อันโดดเด่น จนกลายเป็นรอยประทับในหัวใจผู้ชมจำนวนไม่น้อย แต่ถ้าพูดถึงนักแสดงฮ่องกงทรงเสน่ห์ระดับตำนานที่ยืนหนึ่งเรื่องการแสดงที่ลุ่มลึกและหลากหลาย จนข้ามฟ้ามาครองหัวใจคนไทยได้อยู่หมัด ‘เหลียงเฉาเหว่ย’ หรือ ‘โทนี่ เหลียง’ คงเป็นชื่อแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของใครหลายคน ผู้ชมถูกเขาตรึงไว้กับสารพัดบทบาท ทั้งตำรวจในคราบโจรที่หักเหลี่ยมเฉือนมุมดุเดือดแต่ก็ดำดิ่ง บทบาทร้าวลึกของชายผู้มีความสัมพันธ์ลับท่ามกลางควันบุหรี่ฟุ้งหม่น ไปจนถึงบทบาทชายรักชายในดินแดนข้ามขอบฟ้าห่างไกล ฯลฯ โดยเฉพาะในปี 2021 ที่เขาตัดสินใจก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ระดับฮอลลีวูดเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปีของชีวิตนักแสดง โดยเหลียงเฉาเหว่ยรับบทบาท ‘แมนดาริน’ วายร้ายตัวฉกาจใน Marvel Studios’ Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings (ชาง-ชี กับตำนานลับเท็นริงส์) นอกจากเป็นครั้งแรกของการร่วมงานกับฮอลลีวูด นี่ยังเป็นการแสดงฝีมือครั้งสำคัญที่พิสูจน์ให้เห็นว่านับตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าสู่วงการแสดงในปี 1981 นี่คือ 4 ทศวรรษที่เขาพร้อมเปิดรับและเรียนรู้ทุกความท้าทายที่เข้ามา จุดเริ่มต้นที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ สู่แถวหน้าแห่งวงการบันเทิงฮ่องกง สำหรับนักแสดงคนอื่น ๆ การแสดงอาจหมายถึงอะไรก็ได้ แต่กับเหลียงเฉาเหว่ย เขาเคยให้สัมภาษณ์ไว้ครังหนึ่งว่าการแสดงเปรียบเสมือนความฝันที่เขาจะสามารถหลบหนีจากโลกความเป็นจริง กลายเป็นคนอื่น รับบทคนอื่นโดยลืมการเป็นตัวเองเป็นชั่วขณะได้ แม้ฟังเผิน ๆ
หลังจากที่ระบบสตรีมมิ่งในอินเทอร์เน็ตเข้ามาแทนที่โทรทัศน์ ก็ทำเอาไลฟ์สไตล์ของผู้ชายเราผูกโยงกับหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือจอสมาร์ตโฟนมากกว่าจอแก้วที่ดูมาตั้งแต่เด็ก ๆ แม้การมาของวิดีโอสตรีมมิ่งจะไม่ได้ร้ายแรงขนาดทำลายธุรกิจโทรทัศน์ได้ แต่มันก็เข้ามาแย่งส่วนแบ่งการตลาดไปโดยที่วงการจอแก้วยากจะต่อกร ถ้าบอกว่าธุรกิจแนวนี้กำลังมาแรงก็คงไม่แปลกนัก เพราะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีสตรีมมิ่งวิดีโอเกิดขึ้นมากมายและผู้คนก็นิยมอย่างล้นหลาม ทั้ง LINE TV, Netflix, Roku, Disney และเจ้าอื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วน พวกเขาต่างต่อสู้ฟาดฟันกันเพื่อนำเสนอคอนเทนต์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะซีรีส์ ภาพยนตร์ แอนิเมชัน หรือแม้แต่ภาพยนตร์สารคดีก็ตาม แต่ไม่นานมานี้ความมั่นคงของค่ายยักษ์แห่งวงการสตรีมมิ่งวิดีโอก็ต้องสั่นคลอนอีกครั้ง เมื่อ Apple ประกาศเปิดตัว Apple TV+ พร้อมชูจุดขาย “Cheaper Streaming Service” หรือ “บริการสตรีมมิ่งที่ถูกกว่า” จากบริษัทผลิตฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์สุดแข็งแกร่งของโลก เตรียมมุ่งหน้าเข้าเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจวิดีโอสตรีมมิ่งอย่างเต็มตัว ผลที่ตามมาคือทำให้หุ้นของ Netflix ลดลงถึง 3.25% หุ้น Disney ลด 2.76% และหุ้นของ Roku ลดลงมากถึง 12.62% การต่อสู้กับคู่แข่งตัวฉกาจ แม้ Apple จะมีรากฐานที่แข็งแรง แต่คงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับน้องใหม่ที่ต้องสู้รบกับพี่ ๆ ยักษ์ใหญ่ที่คร่ำหวอดในวงการนี้มาก่อนหลายปี ไหนจะ Disney
ข่าวลือเกี่ยวกับการสร้างหนังฮีโร่ในช่วงนี้เรียกได้ว่ามีมาไม่เว้นแต่ละวัน ไม่ว่าจะข่าวเรื่องการสร้าง Avengers 5 หรือข่าวเรื่องการรีบูทภาพยนตร์เรื่อง Fantastic Four ใหม่อีกครั้ง ซึ่งข่าวเหล่านี้ก็สร้างความตื่นเต้นให้กับคนดูอย่างเราได้ตลอด และล่าสุดนี้ก็เพิ่งมีอัปเดตที่น่าสนใจเกี่ยวกับเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ X-Men ว่าอีกนานพอดูเลยทีเดียวที่เราอาจจะมีโอกาสได้เห็นพวกเขาอีกครั้ง เหล่าแฟนภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ไม่ว่าจะค่ายหรือสังกัดไหนก็คงพอจะทราบกันอยู่แล้วว่าเหล่าซูเปอร์ฮีโร่กลุ่มมิวแทนต์อย่าง X-Men มาจากจักรวาลเดียวกันกับ Marvel ฉบับคอมิก แต่ด้วยเรื่องลิขสิทธิ์ยิบย่อยเพราะทีม X-Men และ Fantastic Four อยู่กับ 20th Century Fox ส่วนเหล่า Avengers ที่เราคุ้นตากันดีก็อยู่กับ Marvel ที่สังกัดภายใต้ Walt Disney ทำให้เหล่ายอดมนุษย์ต้องแยกกันอยู่คนละจักรวาลอย่างช่วยไม่ได้ แต่หลังจากที่เหล่ายอดมนุษย์ต้องแยกบ้านกันอยู่นานเกือบสองทศวรรษ Walt Disney ตัดสินใจครั้งใหญ่ที่จะสั่นสะเทือนโลกภาพยนตร์ด้วยการซื้อลิขสิทธิ์ของ 20th Century Fox (สามารถอ่านเกี่ยวกับดีลครั้งใหญ่นี้ได้ใน ปิดดีลอย่างเป็นทางการ DISNEY อ้าแขนรับสมาชิกใหม่จาก FOX ในราคา 7 พันล้านเหรียญ) เท่ากับว่ากลุ่มยอดมนุษย์ที่แยกกันอาจมีหนทางกลับมาเจอกันอีกครั้ง แฟนหนังตั้งตารอโอกาสที่ฮีโร่จาก Fox จะได้มาเจอกับทีม Avengers แต่กลับกลายเป็นว่าฝันที่คาดหวังไว้อาจจะต้องรอกันนานกว่าที่คิดจากเหตุผลเหล่านี้ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ถือเป็นข่าวใหญ่สำหรับคนวงการภาพยนตร์และเหล่าแฟนหนัง หลังจากสองค่ายชื่อดังของอุตสาหกรรมภาพยนตร์เจรจาทำข้อตกลงกันอยู่นาน ในที่สุด Walt Disney Company ก็ซื้อ 21st Century Fox บริษัทแม่ที่ถือลิขสิทธิ์หนังในเครือ 20th Century Fox ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่จะส่งผลกระทบต่อโลกภาพยนตร์รวมถึงซีรีส์เรื่องโปรดของใครหลายคนอย่างแน่นอน UNLOCKMEN จะพาไปสำรวจว่ามีหนังเรื่องอะไรที่จะต้องย้ายบ้านเข้ามาอยู่กับดิสนีย์บ้าง ? Bob Iger ประธานกลุ่มบริษัท ABC และ CEO ของดิสนีย์คนปัจจุบันวางแผนขยายอาณาจักรโดยการกว้านซื้อกิจการอุตสาหกรรมบันเทิงมากมาย เช่น Lucasfilm (ที่โด่งดังมาจากภาพยนตร์เรื่อง Star Wars), จักรวาลซูเปอร์ฮีโร่ Marvel Entertainment และค่ายแอนิเมชันชื่อดัง Pixar จนล่าสุดถึงได้มาเจรจาต่อรองกับ Fox ข้อตกลงการซื้อ-ขาย ของทั้งสองค่ายเสร็จสิ้นเมื่อตอนเที่ยงคืนสองนาที ของวันที่ 20 มีนาคม 2019 ในราคา 71.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราคาเดิมที่ต่อรองกันช่วงแรกคือ 52 พันล้าน) คิดเป็นเงินไทยกว่า 2.3 ล้านล้านบาท ทำให้ครอบครัวของดิสนีย์มีสมาชิกใหม่เข้ามาเพิ่มเป็นจำนวนมาก โดยภาพบนเว็บไซต์หลักของ The Walt Disney