MUSIC

UNLOCKMEN PLAYLIST : 10 สุดยอดเพลงบัลลาดแห่งยุคแฮร์แบนด์

By: JEDDY August 19, 2022

ดนตรีร็อกแม้ในปัจจุบันอาจจะดูเหงาลงไปบ้าง แต่ถ้าย้อนกลับไปในอดีต แนวดนตรีที่มีเสียงกีตาร์อันแตกพร่าจะโผล่ขึ้นมาเป็นกระแสหลักได้ตลอด เช่นเดียวกับในช่วงยุค 80’s จนถึงช่วงต้นยุค 90’s แนวดนตรีแกลมร็อก/เมทัล หรือที่ใคร ๆ ก็เรียกกันว่า “แฮร์แบนด์” ก็เคยได้รับความนิยมอย่างสุดขีดมาแล้วเช่นกัน (ก่อนจะโดนกรันจ์กินเรียบ)

ภาพจำของวงดนตรีแฮร์แบนด์ คงหนีไม่พ้น การแต่งหน้าแต่งตาคล้ายผู้หญิงของบรรดาศิลปินชาย, การแต่งตัวที่แสดง Sex Appeal สูง, ดนตรีหนักแน่นในแบบเฮฟวี่เมทัลกับฮาร์ดร็อก ที่ฉาบไปด้วยเมโลดี้สุดป๊อป จนเคยถูกแซะว่าเป็น “ป๊อปเมทัล” และนอกจากจะมีเพลงเร็วไว้สร้างความมันส์ วงเหล่านี้มักจะต้องมีเพลงช้าสไตล์บัลลาดเป็นเพลงขายอยู่เสมอ ถือเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้จริง ๆ ผลพลอยได้นอกจากยอดขายอัลบั้มของศิลปิน ก็คือกำไรหูของคนฟัง ที่มีเพลงเพราะ ๆ ให้ฟังอย่างไม่ขาดสาย และนี่คือ “Unlockmen Playlitst : 10 สุดยอดเพลงบัลลาดแห่งยุคแฮร์แบนด์” ที่เราคัดสรรค์มาให้ครับ


NOVEMBER RAIN – GUNS N’ ROSES

Guns N’ Roses คือหนึ่งในวงที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในช่วงยุคแฮร์แบนด์ครองตลาด พวกเขาเป็นวงที่มีคาแรคเตอร์โดดเด่นมาก แต่ที่เด็ดกว่านั้นนั่นคือดนตรีที่เปี่ยมไปด้วยความสุดยอดจนใคร ๆ ก็ต่างยกย่องให้กลายเป็นระดับตำนาน มีผลงานสุดคลาสสิคประดับวงการมากมาย เช่น “Welcome To The Jungle”, “Sweet Child O’ Mine”, “Paradise City” รวมไปถึงบทเพลงบัลลาดสุดยิ่งใหญ่ “November Rain” ด้วยเช่นกัน

เพลงนี้ถูกเรียบเรียงออกมาได้อลังการมาก ๆ เราจะได้ยินทั้งเสียงของเปียโน, เสียงของวงออร์เคสตร้า, เสียงฟ้าร้องและเสียงฝน, เสียงเครื่องดนตรีทุก ๆ ชิ้นที่ดีไซน์ออกมาเข้ากับบรรยากาศของเพลงได้อย่างเพอร์เฟค และที่ขาดไม่ได้คือเสียงร้องของ Axl Rose ที่ถ่ายทอดอารมณ์ของความเจ็บปวดและหมองม่นออกมาได้อย่างไร้ที่ติ

“November Rain” ยังถูกถ่ายทำออกมาเป็น MV ที่ใช้งบประมาณมากถึง 2,896,490 ดอลลาร์สหรัฐ ติดอันดับมิวสิควิดีโอที่ใช้งบประมาณสูงสุดในลำดับที่ 26 โดยทางวงได้ Andrew Morahan ชาวอังกฤษมารับหน้าที่ผู้กำกับ ซึ่งเขาเคยฝากผลงานไว้กับ Ozzy Osbourne, Van Halen รวมถึง Paul Macartney มาก่อน ด้วยคอสต์ที่สูงขนาดนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ภาพที่ออกมาจะอลังการงานสร้างเอามาก ๆ แต่ทั้งหมดทั้งมวลดันโดนขโมยซีนในฉากที่ Slash ออกมาโซโล่กีตาร์หน้าโบสถ์เฉยเลย


I REMEMBER YOU – SKID ROW

พูดถึง Guns N’ Roses ไปแล้ว จะไม่พูดถึงวง Skid Row คงไม่ได้ พวกเขาเป็นวงที่ได้รับการผลักดันจาก Jon Bon Jovi (แม้ภายหลังจะมีเรื่องบาดหมางกันก็ตาม) และแจ้งเกิดตั้งแต่ปล่อยอัลบั้มแรกที่ใช้ชื่อเดียวกับวงเมื่อปี 1989 ซึ่งมันสามารถทำยอดขายได้อย่างถล่มทลายมากกว่า 5 ล้านก็อปปี้

สิ่งที่ทำให้ทางวงประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่างใด เพราะแต่ละเพลงที่เราได้ยินจากอัลบั้มนี้มันให้ความรู้สึกที่พอดี ไม่ล้น ไม่ยาวจนเกินไป ฟังแล้วมีความไหลลื่นต่อเนื่อง แถมยังมีเพลงบัลลาดมัดใจอย่าง “I Remember You” 

ความพิเศษของเพลงนี้ คือการผสมผสานซาวด์ของกีตาร์อะคูสติคเข้ากับซาวด์ดนตรีอันก้าวร้าว พอนำรวมเข้ากับเสียงร้องของนักร้องหน้าหวาน Sebastian Bach ก็ยิ่งทำให้เพลงนี้น่าฟังขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว

 


HOME SWEET HOME – MOTLEY CRUE

ถ้าจะหาวงดนตรีวงไหนที่มีวีรกรรมสุดแสบ เราคงต้องยกตำแหน่งนี้ให้กับ Motley Crue วงแกลมเมทัล จากเมืองลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอเนียร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา แสบขนาดไหนใครได้ดูภาพยนตร์เรื่อง The Dirt ทาง Netflix มาแล้วน่าจะทราบกันดี แม้ทุกวันนี้อายุอานามจะมากขึ้นเยอะ แต่ล่าสุด Tommy Lee มือกลองของวงเพิ่งจะโพสต์รูปตัวเองโชว์น้องชายลงในโซเชียลมีเดียให้ทุกคนได้ยลโฉมกันแบบหน้าตาเฉย

แต่ไอความห่ามอย่างเดียวคงไม่ทำให้พวกเขาเปรี้ยงปร้างในวงการดนตรีได้แน่หากปราศจากบทเพลงสุดเจ๋ง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเพลงบัลลาดสุดอมตะอย่าง “Home Sweet Home” ผลงานจากอัลบั้ม Theatre of Pain (1985) มันเป็นการสะท้อนมุมมองที่อ่อนไหวของเด็กหนุ่นมที่ดูห้าวเป้งไปซะทุกเรื่อง ทาง Nikki Sixx หนึ่งในคนเขียนเพลงนี้ร่วมกับ Tommy Lee ได้เคยพูดถึงเพลงนี้ว่า

“สิ่งที่คุณเคยต้องการ ก็คือการได้ทำวงดนตรี และออกไปบนท้องถนน แต่เมื่อคุณอยู่บนถนนแล้วดันรู้สึกอยากกลับบ้านขึ้นมาแทน”


HIGH ENOUGH – DAMN YANKEE

แม้จะไม่ได้เป็นวงที่มีชื่อเสียงมากมาย (ถ้าวัดจากบ้านเรา) แต่ Damn Yankee ก็สามารถผลิตเพลงบัลลาดที่ฮิตระเบิดออกมาได้เช่นกัน และนั่นคือเพลง “High Enough” ผลงานจากอัลบั้มแรกที่มีชื่อเดียวกับวง ออกวางจำหน่ายในปี 1990 ซึ่งมันร้อนแรงถึงขนาดติดอันดับ 3 บนบิลบอร์ดชาร์ตเลยทีเดียว 

“High Enough” ผลิตมาด้วยสูตรสำเร็จทางการตลาด แถมดนตรียังไม่ซับซ้อนมาก มีท่อนฮุคที่ทรงพลังและติดหู เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่ทำให้ชื่อของ Damn Yankee พุ่งทะยานสู่ระดับสูง จนสามารถขายอัลบั้มได้เกิน 2 ล้านก็อปปี้


ALWAYS – BON JOVI

หลาย ๆ คนอาจจะรู้จัก Bon Jovi จากเพลง “It’s My Life” ที่เปรียบเสมือนบทเพลงที่ทำให้พวกเขาได้กลับมาแจ้งเกิดอีกครั้ง แต่แท้จริงแล้วในยุคแรกพวกเขาคือวงสไตล์แกลมร็อกมาก่อน ซึ่งในยุคนั้นพวกนั้นพวกเขาก็โด่งดังแบบสุดขีดเลยทีเดียว และแน่นอนมันต้องมีเพลงบัลลาดสุดเพราะรวมอยู่ด้วย

ส่วนเพลงที่เราเลือกมาคือ “Always” มันถูกรวมอยู่ในอัลบั้มรวมฮิตที่ชื่อว่า “Cross Road” (1994) และยังถูกนำไปใช้ประกอบภาพยนตร์เรื่อง Romeo Is Bleeding ด้วยเช่นกัน มันเป็นบทเพลงที่มีไลน์เปียโนที่ละมุนหูเอามาก ๆ เช่นเดียวกับดนตรีที่ไม่ได้มีความหนักจนเกินไป ทำให้เข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัย แถมยังมีเนื้อหาเกี่ยวกับความรักที่เข้าใจง่าย 

“Always” ปัจจุบันมียอดเข้าชม MV อยู่ที่ 860,000,000 ล้านวิว


SHE’S GONE – STEELHEART

Steelheart เป็นอีกหนึ่งวงที่อาจจะไม่ได้ถูกพูดถึงมากนักในบรรดาวงระดับท็อปของยุคแฮร์แบนด์ รวมไปถึงไม่ได้ประสบความสำเร็จมากมายซักเท่าไหร่ อาจจะเพราะว่าพวกเขามารวมตัวและเดบิวต์อัลบั้มแรกก็ปาไปในปี 1990 แล้ว มันคือช่วงปลาย ๆ ที่ดนตรีแกลมร็อกได้รับความนิยม

อย่างไรก็ตาม Steelheart ก็ได้ฝากเพลงบัลลาดสุดทรงพลังเอาไว้ด้วย นั่นคือ “She’s Gone” สไตล์และการเรียบเรียงเพลงมันไม่ได้ต่างจากเพลงดัง ๆ ของวงอื่น ๆ แต่สิ่งที่ต้องยอมรับคือเสียงร้องของ Miljenko Matijevic ที่ทรงพลัง แถมยังไต่คีย์ได้สูงมาก อีกทั้งยังร้องได้ชัดถ้อยชัดคำทุกตัวโน๊ต ทักษะเหลือร้ายจริง ๆ 

ปัจจุบันวง Steelheart ยังคงทำวงกันอยู่ แต่กระแสออกไปทางเงียบ จนทำให้หลายคนนึกว่าพวกเขายุบวงไปแล้ว และเหลือสมาชิกดั้งเดิมแค่คนเดียวคือ Matijevic นั่นเอง


NOBODY’S FOOL – CINDERELLA

แม้ชื่อวงจะเหมือนกับเจ้าหญิงในนวนิยาย แต่แท้จริงแล้วพวกเขาคือวงแกลมร็อกที่โด่งดังอย่างมากในยุคแฮร์แบนด์ เป็นอีกหนึ่งวงที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อัลบั้มแรกที่มีชื่อว่า “Night Songs”

“Night Songs” ได้รับการวิาจารณ์ที่ดีมาก ๆ สื่อหลายสำนักยกให้เป็นอัลบั้มยอดเยี่ยมแห่งยุคแฮร์แบนด์ ไม่ว่าจะเป็น Metal Rules, Guitar World, Loudwire, L.A. Weekly และ Rolling Stone เป็นต้น ส่วนเพลงที่ได้รับความนิยมอย่างสูงสุดในอัลบั้มนี้คือ “Nobody’s Fool” ใช่แล้วมันคือเพลงบัลลาดนั่นเอง

ความน่าสนใจของเพลงนี้นอกจากความไพเราะของเพลงก็คือตัว MV ที่ทำขึ้นมาเหมือนภาคต่อจากเพลง “Shake Me” ซึ่งเป็นซิงเกิ้ลแรกที่ถูกนำมาโปรโมต


TO BE WITH YOU – MR.BIG

อีกหนึ่งไม้เด็ดสำหรับเพลงขายคงหนีไม่พ้นการทำเพลงอะคูสติคออกมารวมอยู่ในอัลบั้ม เพราะมันจะทำให้ดนตรีปราศจากเสียงรบกวนอันอึกทึกครึกโครม เป็นมิตรกับทุกคลื่นวิทยุ ซึ่งวง Mr.Big ก็ใช้ซับมิชชั่นนี้ด้วยเช่นกันกับเพลง “To Be With You” และมันได้กลายเป็นเพลงที่โด่งดังเหนือกาลเวลามาจนถึงปัจจุบัน

ดนตรีเด่นไปด้วยไลน์ของกีตาร์อะคูสติคสุดพริ้วไหวที่ตีคอร์ดให้ฟังอย่างไพเราะ เต็มไปด้วยบรรยากาศสุดโรแมนติคแบบสุด ๆ ใครกำลังมีความรักเพลงนี้น่าจะเหมาะกับพวกคุณที่สุดแล้ว

สำหรับเพลง “To Be With You” อยู่ในอัลบั้มที่สองของวงที่มีชื่อว่า Lean into It” สมาชิกวงนี้ก็ระดับเทพทั้งนั้น โดยเฉพาะ Paul Gilbert มือกีตาร์ และ Billy Sheehan มือเบส ที่นักดนตรีทั่วโลกต่างยอมรับในฝีมือ


CARRIE – EUROPE

หลาย ๆ คนอาจจะชอบคิดว่าวง Europe เป็นวง One Hit Wonder จากเพลง “Final Countdown” ผลงานที่มักจะถูกหยิบยกมาใช้เปิดตัวนักกีฬาชกมวยอยู่เป็นประจำ แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่แบบนั้นเลย เพราะพวกเขาเป็นอีกหนึ่งวงที่ประสบความสำเร็จในยุคแฮร์แบนด์ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะจากอัลบั้มชื่อเดียวกับเพลงฮิตของพวกเขา “The Final Countdown” ที่ออกวางจำหน่ายในปี 1986 

นอกจากจะมีไตเติ้ลแทร็กจะเป็นตัวชูโรง พวกเขายังมีเพลง “Carrie” บทเพลงบัลลาดที่สร้างชื่อให้กับ Europe ด้วย แม้พวกเขาจะเป็นวงที่มาจากประเทศสวีเดน แต่ก็สามาถข้ามน้ำข้ามทะเลไปกวาดรายได้ที่อเมริกาได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งอาจจะรวมถึงประเทศไทยด้วย เพราะ Europe เคยมาเปิดการแสดงให้แฟนเพลงได้ชมกันสด ๆ เมื่อปี 1990


MORE THAN WORDS – EXTREME

ส่งท้ายกันด้วยอีกหนึ่งเพลงบัลลาดอะคูสติคโคตรอมตะจากวง Extreme ผลงานจากอัลบั้มที่ 2 Extreme II: Pornograffitti เชื่อว่าหลาย ๆ คนต้องเคยฟังเพลงนี้ผ่านหูกันอย่างแน่นอน 

สิ่งที่คุณจะได้ยินในเพลงนี้คือซาวด์ของกีตาร์โปร่งชวนเคลิบเคลิ้มที่บรรเลงด้วยปลายนิ้วของ Nuno Bettencourt มือกีตาร์มาดหล่อของวง ที่มาพร้อมกับเสียงร้องที่เต็มไปด้วยแรงดึงดูดของ Gary Cherone ทั้ง 2 คนมาร่วมกันถ่ายทอดความรักที่ต้องมากกว่าแค่พูดคำว่า “รัก” ออกไป 

“More Than Words” สามารถทำยอดขายซิงเกิ้ลได้ทะลุล้านก็อปปี้ แถมยังติดชาร์ตอันดับ 1 ในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ เพลงเพราะขนาดนี้ ฟังกี่ทีก็ไม่เคยรู้สึกเบื่อเลย


และทั้งหมดนี้คือ “Unlockmen Playlitst : 10 สุดยอดเพลงบัลลาดแห่งยุคแฮร์แบนด์” หวังว่ามันจะช่วยเติมความสุขให้กับการฟังเพลงในช่วงหน้าฝนได้นะครับ

JEDDY
WRITER: JEDDY
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line