Life

สำรวจตัวเองว่ามีความครีเอทีฟหรือเปล่า กับ 10 อุปนิสัยที่นักคิดมักมีโดยไม่รู้ตัว

By: Thada April 20, 2018

ตั้งแต่เล็กจนโตเรามักถูกตีกรอบให้กับตัวเองว่าเป็นพวกต้องใช้ Logic (ตรรกะ) มากกว่า Emotion (ความรู้สึก) ซึ่งนั่นเป็นบ่อเกิดของการตีบตันทางความคิดสร้างสรรค์โดยไม่รู้ตัว อีกทั้งในสังคมไทยเรามักจะจำกัดความตำแหน่ง creative ไว้อย่างสวยหรูว่าจะต้องเป็นคนที่มีความคิดแปลกแยกแตกต่าง ดูติสท์ ๆ หน่อย ๆ โดยอันที่จริงแล้วความ creative นั้นมีอยู่ในมนุษย์เราทุกคน ทว่าเรามักตัดพ้อโทษตัวเองว่า “เราไม่มีทางคิดอะไรอย่างนั้นได้หรอก” ซึ่งมันไม่จริงเลยเพราะความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งที่สามารถฝึกฝนกันได้เหมือนทักษะอื่น ๆ

ดังนั้นจึงมีคนได้ไปรวบรวม 10 habit of highly creative people หรือ 10 อุปนิสัยของนักคิดทั้งหลายว่าพวกเขามีพฤติกรรมอย่างไร จึงส่งผลไปสู่กระบวนการคิดสร้างสรรค์และผลิตงานที่ทุกคนต้องร้องว้าว!  และอยากให้ลองมาเช็คกันดูว่าหนุ่ม ๆ UNLOCKMEN  ทั้งหลายแท้จริงแล้วอาจมีคุณสมบัติความ creative แฝงอยู่อย่างไม่รู้ตัวก็เป็นได้

พยายามเคลื่อนไหวตัวเองตลอดเวลา

หากสังเกตมักจะมีคำพูดติดปากสำหรับคนทำงานสาย creative เสมอว่าเป็นพวกแอคทีฟบ้าพลัง ซึ่งอันที่จริงแล้วมันเป็นพฤติกรรมสร้างความคิดสร้างสรรค์โดยไม่รู้ตัว ยกตัวอย่างเช่น Erik Satie นัก Composer เขาใช้วิธีการเดินเป็นระยะทาง 10 กิโลเมตรทุกเช้าแทนที่จะเป็นรถประจำทางเข้าเมือง Paris หรือ Haruki Murakami จะมีตารางการเดินเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพราะว่าการเคลื่อนไหวร่างกายกึ่ง ๆ ออกกำลังกายนี้จะช่วยให้สมองปลอดโปร่งมีสมาธิและการฝึกสมาธิย่อมเป็นประโยชน์ต่อความคิดอย่างแน่นอน

ครีเอทีฟชอบงีบ

มันมีผลวิจัยมากมายที่ยืนยันว่าการงีบในตอนบ่าย ๆ สักประมาณ 10-15 นาที นั่นมีประโยชน์ต่อร่างกาย อาทิ กระตุ้นสมองฝั่งขวาให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น แต่ทว่าสังคมไทยมักจะมองในแง่ลบเห็นการงีบเป็นเรื่องของคนขี้เกียจ ซึ่งมันไม่จริงเสมอไป นักคิดหลาย ๆ คน จะหาเวลาพักผ่อนสมองในยามบ่ายสักเล็กน้อยก่อนที่จะกลับมาโฟกัสกับงานได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นหากอยากให้สมองแล่นก็ควรหาเวลางีบอย่างมีวินัยไม่เกิน 15 นาทีเท่านี้ก็ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองให้ดียิ่งขึ้น

นักคิดชอบออกนอกเรื่อง

ฟังดูเหมือนจะเป็นเรื่องลบ แต่บางครั้งการออกนอกเรื่องจากสิ่งที่กำลังโฟกัสอยู่ถือเป็นเรื่องดี เพราะการทำงานของสมองเปรียบเสมือนกล้ามเนื้อ ยกตัวอย่าง หากเราถือของด้วยมือซ้ายนาน ๆ อาจจะเมื่อยได้จนต้องพักเปลี่ยนมาถืออีกฝั่งหนึ่ง เช่นเดียวกับความคิดหากเราจดจ่ออยู่กับเรื่องใดมาก ๆ แต่ทำอย่างไรก็คิดไม่ออกเสียที ลองเปลี่ยนไปอ่านหนังสือ พักผ่อน พูดคุยเรื่องอื่นสักพัก จากนั้นอาจทำให้เกิดมุมมองใหม่ ๆ ได้เช่นกัน

พยายามทำงานร่วมกับผู้อื่น

ในข้อนี้เราไม่ได้หมายถึงการทำงานเป็นทีมหรือจับกลุ่มกัน แต่เป็นเรื่องการปฎิสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ ที่อาจจะไม่ได้อยู่ในทีมตัวเองก็ได้ ยกตัวอย่าง Steve Jobs สมัยที่เขาออกแบบออฟฟิศ Pixar Studios ในปี 1999 เขาสร้างอาคาร 3 ตึก เพื่อแบ่งแยกแผนกอันประกอบไปด้วย comuter scientist , animators และ director editor แต่ทว่าตึกขนาดใหญ่ทั้ง 3 กลับมาห้องน้ำเพียง 2 ห้องเท่านั้น เนื่องจาก Steve Jobs ต้องการให้บุคลากรแผนกต่าง ๆ ได้มาเจอกัน เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดที่ไม่ได้เป็นมุมมองเรื่องการทำงาน แต่สามารถต่อยอดไปเป็นไอเดียสร้างสรรค์ในอนาคตได้

นักคิดชอบเสี่ยง

นักคิดจะพยายามออกจาก comfort zone เสมอ เพราะกระบวนการคิดสร้างสรรค์ส่วนใหญ่มักจะไม่อยู่ในกรอบและเป็นเรื่องเสี่ยงหากลงมือทำ ตัวอย่างของนักคิดที่ชอบเสี่ยงสุด ๆ อย่าง Albert Einstein เจ้าของทฤษฎีสัมพันธภาพชื่อก้องโลกและต้นแบบของคำว่าอัจฉริยะ ซึ่งหลายคนอาจจะไม่รู้ว่า Albert Einstein เป็นนักแล่นเรือใบที่เก่งมากเช่นกัน ทว่ามีเรื่องน่าขบขันเมื่อ Einstein กลับว่ายน้ำไม่เป็น ดังนั้นจึงอุปมาอุปมัยได้ว่าการที่เขาแล่นเรือใบเก่งเพราะกลัวที่จะจมน้ำนี้คือความเสี่ยงของนักคิดพึงจะมี เพราะบางครั้งเราจำเป็นต้องยอมเสี่ยงลงมือทำในสิ่งที่ไม่คุ้นเคยเพื่อฝึกเอาชนะกับสิ่งเหล่านั้นให้จงได้

นักคิดมีกิจวัตรประจำวันที่แน่นอน

หลายคนอาจจะสงสัยว่ามันค่อนข้างขัดแย้งกับข้อ นักคิดชอบเสี่ยง และ นักคิดชอบออกนอกเรื่อง แต่ทว่านักคิดจะมีนาฬิกาชีวิตที่ตั้งไว้เตือนตัวเองเสมอว่าเวลานี้ต้องทำอะไร ตัวอย่างเช่น Stephen King จะนั่งเก้าอี้ตัวเดิมระหว่าง 8 โมงเช้าถึง 8.30 เพื่อทานวิตามินและฟังเพลงผ่อนคลายสมอง หรือ Honoré de Balzac  (นักประพันธ์) จะตื่นนอนในเวลาตี 1 เพื่อเขียนหนังสือก่อนที่จะใช้เวลางีบหลับอีกประมาณ 90 นาทีหลังจากนั้นก็ดื่มกาแฟและทำกิจวัตรเดิมซ้ำ ๆ เป็นเวลาที่แน่นอน ดังนั้นแม้หลายคนจะมองว่าการทำงานอิสระคือหยุดพักเมื่อไหร่ก็ได้ แต่แท้จริงแล้วคนที่จะทำงานอิสระให้ประสบความสำเร็จต้องมีวินัยเช่นเดียวกัน

ผจญภัยและออกค้นหา

ข้อนี้คงเป็นสิ่งที่ทุกคนคิดว่าฉันมีอุปนิสัยของ creative อย่างแน่นอน แต่แท้จริงการไปผจญภัยท่องเที่ยวของนักคิดไม่ใช่การไปยืนถ่ายรูปหรือกินอาหารท้องถิ่นเอามาไว้อวดโชว์เท่ ๆ แต่นักคิดจะศึกษาและพยายามทำความเข้าใจกับวัฒนธรรมใหม่ ๆ เพื่อเปิดกว้างมุมมองไอเดียของตนเอง ก่อนนำกลับมาต่อยอดเพื่อสร้างสรรค์แรงบันดาลใจใหม่ให้ดียิ่งขึ้น

เป็นคนช่างสังเกตและจดจำ

นักคิดส่วนใหญ่มักจะมีนิสัยช่างสังเกตซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนทราบกันเป็นอย่างดี แต่ทว่าการสังเกตเพียงอย่างเดียวอาจจะยังไม่เพียงพอ เพราะสมองมนุษย์มีพื้นที่เก็บข้อมูลค่อนข้างจำกัด ดังนั้นเราต้องรู้จักจดบันทึกเรื่องราวเหล่านั้นไว้เพื่อเก็บทบทวน หากอยากจะเป็นนักสร้างสรรค์ที่ดีต้องทำตัวให้พร้อมที่จะเจอแรงบันดาลใจอยู่ตลอดเวลา

ไม่รังเกียจงานที่แย่

เวลาที่เราได้ยินไอเดียที่แย่มักจะเกิดอาการตลกขบขันหรือแม้กระทั่งเวลาประชุม หากมีใครเสนอความคิดแปลก ๆ ไม่เข้าท่า ไอเดียดังกล่าวก็จะไม่ถูกจดขึ้นกระดาน แต่ความจริงแล้วเราควรจะต้องจดจำทุกสิ่งทุกอย่างแม้ไอเดียนั้นจะแย่มากก็ตาม เพราะว่านักสร้างสรรค์ที่ดีต้องสามารถขัดเกลาความคิดที่แย่ที่สุดให้กลายเป็นความคิดที่ดีที่สุด เนื่องจากหลายครั้งความคิดสร้างสรรค์มักเกิดจากความคิดแปลก ๆ เสมอ ดังนั้นอย่ารังเกียจความคิดที่แย่เสมอไป

ต้องมีเวลาอยู่กับตัวเองบ้าง

เหนื่อสิ่งอื่นใดคนที่มีความคิดสร้างสรรรค์มักจะต้องหาเวลาอยู่คนเดียว เนื่องจากสภาพแวดล้อมการทำงานในแต่ละวันที่ต้องเจอผู้คนมากมายอาจทำให้เราไม่สามารถใช้เวลาเพื่อทบทวนในสิ่งที่ผ่านมา การอยู่คนเดียวหมายถึงการมีเวลาฝึกสมาธิคิดวิเคราะห์กระบวนต่าง ๆ ที่สะท้อนไปจุดชนวนความคิดสร้างสรรค์ที่คุณได้พบเจอมาแต่ยังไม่มีเวลาได้มาขัดเกลามันให้เฉียบคมมากยิ่งขึ้น ดังนั้นเราควรหาเวลาอยู่กับตัวเองสักวันละ 1-2 ชั่วโมง โดยไม่ต้องไปโฟกัสกับสิ่งอื่นใด

10 อุปนิสัยนี้เราเชื่อว่าหลายคนอาจจะมีครบทั้งหมดโดยที่ไม่รู้ตัวมาก่อนหรือบางคนมีแค่บางข้อซึ่งนั้นก็ไม่ได้ผิดหรือเลวร้ายอะไร เพียงแต่อย่าปิดกั้นตัวเองว่าเป็นคนที่ไม่มีกระบวนการคิดสร้างสรรค์ เพราะมนุษย์ทุกคนล้วนเกิดมามีสมองสองซีกเท่ากัน เพียงแต่คุณได้ใช้งานฝั่งจินตนาการมากน้อยเพียงใด ลองฝึกปรือสมองให้เหมือนกับกล้ามเนื้อ อย่าคิดว่าความคิดสร้างสรรค์เป็นเรื่องของ creative เสมอไป เพราะไม่ว่าคุณจะทำอาชีพอะไรหากลองใส่ความคิดสร้างสรรค์ลงไปดู ก็อาจจะทำให้เกิดชิ้นงานใหม่ที่แตกต่างจากคนอื่นก็เป็นได้

 

source 

 

Thada
WRITER: Thada
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line