10 การออกแบบจาก Nike ที่คุณแทบจะไม่เชื่อว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร

หลังจากเมื่อวานเราได้นำเสนอเรื่องราวของ Tinker Hatfield ปรมาจารย์แห่งวงการออกแบบรองเท้า sneaker จาก Nike ถึงแนวคิดการออกแบบรวมถึงข้อคิดที่เป็นประโยชน์ต่อดีไซน์เนอร์รุ่นใหม่ในการเป็นแรงบันดาลใจสร้างสรรค์งาน แต่จากข้อหนึ่งในบทความที่เราได้กล่าวถึง การหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ เสมอ วันนี้เราจึงได้นำ 10 รองเท้าจาก Nike ที่คุณแทบจะไม่เชื่อว่าเหล่าทีมดีไซน์เนอร์สามารถไปเอาแรงบันดาลใจมาออกแบบเป็นรองเท้าให้คุณใส่อย่างเช่นทุกวันนี้ได้อย่างไร

Nike Waffle Trainer = Waffle Iron

จุดเริ่มต้นของ Nike ต้องขอบคุณ Bill Bowerman หุ้นส่วนของ Nike ที่เกิดไอเดียพิสดารระหว่างนั่งมองเครื่องทำวาฟเฟิลซึ่งเป็นอาหารเช้าที่เมียของเขาทำอยู่เป็นประจำ เขาจึงคิดขึ้นมาได้ว่านี่คือรูปทรงของส้นรองเท้าที่สามารถทำให้สมบูรณ์แบบได้  Bill จึงไม่รอช้านำเอายางมาเข้าเครื่องทำวาฟเฟิลเกิดเป็น Waffle Outsole ซิกเนเจอร์ตลอดกาลของทาง Nike ที่ขึ้นชื่อเรื่องการเกาะติดเป็นอย่างมาก เป็นรองเท้ากีฬาที่ตอบสนองความต้องการของนักกีฬาในยุคนั่นอย่างมาก

Air Jordan XI = Lawn Mower

ปฎิเสธไม่ได้ว่า Jordan XI คือรองเท้าบาสที่สวยที่สุดในตระกูล Air Jordan เพราะทั้งรูปทรง และเรื่องราวของมันก็เพียงพอให้เข้าไปอยู่ในใจของเหล่า sneakerhead ทุกคน แต่หลายๆ คนได้ตั้งข้อสงสัยถึงแรงบันดาลใจว่ามาจาก เสือดำบ้าง รถสปอรต์บ้าง ซึ่งความจริงแล้ว Tinker Hatfield ไปได้แรงบันดาลใจในการออกแบบ Air Jordan XI มาจากเครื่องตัดหญ้านั่นเอง ซึ่งเขามองว่าเครื่องตัดหญ้านี้สามารถเล่นสีสันได้อย่างมากมายเช่นเดียวกับรองเท้า Hatfield จึงได้ กลับมาหาวัสดุที่เหมาะสมกับการทำรองเท้าจนเกิดเป็น Air Jordan XI

Nike Roshe Run = Zen Garden

Dylan Raasch เจ้าของผลงานรองเท้า lifestyle ยอดขายถล่มทลายนี้ บอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่เขาได้รับโจทย์จากทาง Nike ให้มาออกแบบรองเท้าไลฟ์สไตล์ที่ดูดี มีสไตล์ ที่สำคัญราคาต้องถูก ทำให้เขานึกถึงคอนเซ็ปต์นิกาย Zen ที่ดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่าย เขาได้เริ่มวาดภาพนักบวชนิกาย Zen กำลังนั่งสมาธิในสวน จากนั้นเขาค่อยๆ ถอดภาพประกอบมาเป็นสเก็ตรองเท้าจนได้มาเป็น Nike Roshe Run ที่เราใส่กันทุกวันนี้

Nike Air Max CB94 = Straitjacket

Charles Barkley ขึ้นชื่อในเรื่องความมุทะลุบ้าระห่ำในสนามแข่งอีกทั้งเขาได้ก่อเรื่องทะเลาะวิวาทในบาร์แล้วขว้างคู่กรณีใส่กระจกทำให้ภาพลักษณ์ของ Sir Charles ยิ่งดูเป็นคนอารมณ์รุนแรงเข้าไปใหญ่ ดังนั้นทาง Nike จึงได้นำเอาลักษณะนิสัยพฤติกรรมมาบวกกับเสื้อของผู้ป่วยจิตเวช และออกแบบเป็นรองเท้ารุ่น Nike Air Max CB94 ที่มีลักษณะเป็นสายรัดโอบอุ้มบริเวณรองเท้า

Nike Air Max 95 = Human Body

Sergio Lozano คือผู้ออกแบบรองเท้ารุ่น Air Max 95 ที่กำลังกลับมาได้รับความนิยมในขณะนี้ ซึ่งเขาได้เล่าถึงที่มาว่าเขานำภาพ anatomy ของมนุษย์มาค่อยๆ ถอดเป็นรูปทรงรองเท้าโดยยึดหลักโมเดลต้นแบบในการสร้างเป็นรองเท้ารุ่น 95 ตัวอย่างเช่นบริเวณซี่โครงมนุษย์ถูกนำมาใช้สร้างเป็นที่ร้อยเชือกรองเท้า หรือ กระดูกสันหลังที่กลายมาเป็น Midsole จะว่าไปรองเท้ารุ่นนี้ก็มีที่มาที่ค่อนข้างพิลึกอยู่เช่นกัน

Nike Air Zoom Generation = H2

รองเท้าซิกเนเจอร์รุ่นแรกของ คิงเจมส์ ซึ่งเป็นรองเท้าที่ได้รับความสนใจตั้งแต่ก่อนจะออกแล้ว เพราะ Lebron James เป็นนักกีฬาไฮสคูลคนแรกที่ได้รับสัญญาพรีเซนเตอร์ก้อนโตระดับเดียวกับซุปเปอร์สตาร์ทำให้มีการคาดหวังมากมาย ผู้ที่รับผิดชอบในงานนี้คือ Eric Avar ที่บอกว่าเขาได้ต้นแบบรองเท้า LeBron 1 มาจากรถยี่ห้อ  Hummer รุ่น H2

Nike Foamposite One = Sunglass case

Eric Avar เล่าเท้าความถึงปี 1997 ระหว่างที่เขากำลังประชุมกันอยู่ที่ Nike เพื่อหาแนวคิดไอเดียถึงการสร้างรองเท้าบาสเก็ตบอลรุ่นใหม่ ขณะนั้นเองเขาได้เหลือบไปเห็นซองใส่แว่นตากันแดดที่ถูกผลิตออกมาเป็นโฟมเนื้อชิ้นเดียวกัน ทำให้เขาคิดว่าไอเดียนี้ก็สามารถนำมาสร้างเป็นรองเท้าได้เช่นกันจึงเกิดเป็น EVA Foam และกลายมาเป็น Nike Foamposite One รองเท้ายอดฮิตจนถึงทุกวันนี้

P-51 Mustang = Air Jordan V

หลังจากที่เราได้บอกว่า Hatfield ได้ไปนั่งศึกษาวิธีการเล่นของ Micheal Jordan จนเขาได้ไอเดียเป็นเครื่องบินรบ Boeing P-51 ที่ถูกใช้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะว่าการเครื่องไหวที่รวดเร็ว และพร้อมจะทำลายคู่ต่อสู้ตลอดเวลา ทำให้เขานึกถึงเครื่องบินรบ จากนั้น Tinker Hatfield ก็กลับมานั่งค้นคว้าในหนังสือประวัติศาสตร์จนไปเจอเครื่องบินรบของ อังกฤษ และ อเมริกาที่จะมีการวาดเส้นเป็นรูปฟันเสือในแต่ละเครื่องบินรบเพื่อสร้างเอกลักษณ์ประจำตัว Hatfield จึงได้นำมันมาออกแบบเป็น Midsole ของ Air Jordan V

Air Force 1 = Notre Dame Cathedral

จะว่าไป Bruce Kilgore อาจจะเป็นอาจารย์ของ Tinker Hatfield ในการออกแบบ Nike Air Max ก็เป็นได้ เพราะหลังจาก Bruce ได้รับโจทย์คือการต้องออกแบบรองเท้าบาสสำหรับนักกีฬา เขาได้เดินทางไปที่ Paris จนไปพบกับโบสถ์ Notre Dame ทำให้เขาคิดเป็นคอนเซ็ปต์รองเท้าเสริม Midsole ให้สูงขึ้นตามแบบฉบับการดีไซน์โบสถ์แห่งนี้ ประโยชน์ใช้สอยเพื่อเพิ่มความมั่นคงในการยึดติดเกาะสนาม ซึ่ง Nike Air Force ก็ได้รับความนิยมอย่างมากก่อนที่จะถูกวงการ hiphop เคลมรองเท้ารุ่นนี้ไปทำให้ Air Force 1 จนกลายเป็นรองเท้าสำหรับไลฟ์สไตล์แฟชั่นไปในปัจจุบัน

Nike Huarache = Water skiing boots

รองเท้าวิ่งรุ่นที่ใส่สบายที่สุดสำหรับไนกี้ที่เกือบจะไม่ได้ออกมาวางขาย หลังจากที่ Tinker Hatfield ต้องการออกแบบรองเท้าวิ่งที่แตกต่างจากตลาดและ Nike ไม่เคยผลิตมา ซึ่งเขาไปได้แรงบันดาลใจมาจากรองเท้าสกีน้ำที่จะใช้วัสดุ neoprene ที่มีลักษณะเหมือนถุงเท้าแบบยืดๆ บริเวณตาตุ่มและด้านนอกมีโครงซัพพอร์ตเท้าไม่ให้เสียทรง เขาได้ลองทำ sample แต่ผลตอบรับไม่เป็นอย่างที่ต้องการ แต่เนื่องจากมีการไปให้นักวิ่งลองใส่ในงาน New York Marathon จนเป็นกระแสปากต่อปาก ทำให้ Nike Huarache กลายเป็นรองเท้าตำนานอีกหนึ่งคู่