สำรวจ “10 เพลงยอดเยี่ยมทรงอิทธิพลแห่งทศวรรษ” จัดอันดับโดยนิตยสาร TIME (PART 2)

หลังจากที่เราได้พูดถึง “10 เพลงยอดเยี่ยมทรงอิทธิพลแห่งทศวรรษ” จัดอันดับโดยนิตยสาร TIME กันในครึ่งแรกไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะกลับมาพูดถึงอีก 5 เพลงที่เหลือตามที่สัญญาทุกท่านกันครับ

ก่อนหน้านี้เราได้พูดถึงเพลง Rolling in the Deep (Adele), Dancing On My Own (Robyn), Everything is Embarassing (Sky Ferreira), I Want You (Luke James) และ All Too Well (Taylor Swift) กันไปแล้ว โดยแต่ละเพลงก็จะมีคุณสมบัติบางอย่างที่น่าสนใจและส่งอิทธิพลบางอย่างต่อวงการเพลงในอเมริกาไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

สำหรับเพลงครึ่งหลังที่เรากำลังจะพูดถึงในต่อไปนี้ บางเพลงคุณอาจไม่รู้จักและไม่เคยฟังมาก่อน แต่บางเพลงก็กำลังฮิตติดชาร์ตเป็นที่รู้จักอยู่ในขณะนี้ มาดูไปพร้อม ๆ กันว่าจะมีเพลงอะไรบ้าง แต่บอกได้เลยว่าแต่ละเพลงไม่ธรรมดาจริง ๆ

I Miss Your Bones – Hospitality (2013-2014)

วงอินดี้ร็อกในปี 2013 อัดแน่นไปด้วยความร่าเริงสดใส ที่ไม่ต้องอาศัยเครื่องดนตรีมากชิ้นเพลง I Miss Your Bones ของวง Hospitality นี้โดดเด่นในทุก ๆ ทาง ไม่ว่าจะเสียงร้องเพราะ ๆ ของนักร้องสาว Amber Papini ที่ไพเราะเป็นเอกลักษณ์ ทำนองติดหู กรูฟลื่น มีริฟฟ์กีตาร์เท่ ๆ เบสหนึบ ๆ แถมยังให้ความสำคัญทุกส่วนไปยันท่อนที่ทำให้กลองได้เฉิดฉาย

Time ไม่ได้ให้เหตุผลที่แน่ชัด พวกเขาเพียงให้เหตุผลว่าเพลงนี้มีจิตวิญญาณดนตรีอินดี้อย่างเต็มเปี่ยม แต่ถ้าให้เราวิเคราะห์ เราแอบสังเกตว่าอินดี้ร็อกใน Timeline นั้นจะให้ความสำคัญกับกรูฟมากกว่าการสาดริฟฟ์กีตาร์คม ๆ ลงบนเพลงเฉย ๆ และนี่ก็อาจเป็นเพลงที่ Represent ช่วงเวลานั้นได้ดีในสายตาของเหล่าผู้ทรงคุณวุฒิก็เป็นได้

Ain’t It Fun – Paramore (2013)

อัลบั้ม Paramore (สตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 4) เรียกได้ว่าเป็นการ Reboot ตัวเองครั้งยิ่งใหญ่ของวง Emo-Pop แถวหน้าอย่าง Paramore  พอวงเริ่มเปลี่ยนทิศทาง เติม Pop Energy ให้กับแนวเพลง พวกเขาที่มีฐานแฟนคลับฝั่งร็อกแน่นหนาอยู่แล้วก็สามารถขยับขยายชื่อเสียงในโลกเมนสตรีมได้อีกเป็นเท่าตัว เพลงในอัลบั้มมีความสนุกสนานมากขึ้น สดใหม่ แตกต่างจากวงอื่น ๆ ในยุคเดียวกันอย่างเห็นได้ชัด

โดยเฉพาะเพลง Ain’t It Fun นี้ Hayley William ฟรอนต์วูแมนของวงได้แรงบันดาลใจมาจากแนวป๊อปเยอะมาก (เช่นเพลงของ Michael Jackson และเพลงป๊อปยุค 80 ต่าง ๆ) เรียกได้ว่าเป็นการแต่งแต้มสีสันใหม่ ๆ ให้วงการเพลงช่วงนั้น รวมถึงแสดงให้เห็นถีงความเติบโตของวงที่กล้าทำอะไรใหม่ ๆ อีกด้วย แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบัน Paramore พักวงแบบไม่มีกำหนดไปเสียแล้ว

Drunk On A Plane – Dierks Bentley (2014)

เพลง Drunk On A Plane ของหนุ่ม Dierks Bentley คนไทยอาจจะไม่ค่อยคุ้นเคย แต่จัดว่ามีชื่อเสียงมากในแวดวงคันทรีป๊อปอเมริกันนะครับ เพลงฟังเผิน ๆ เหมือนไม่มีอะไร แค่ชายหนุ่มคนหนึ่งที่คร่ำครวญเรื่องความรักจนต้องไปดื่มเหล้าเมาหยำเปอยู่บนเครื่องบิน แต่อันที่จริงเพลงนี้แอบพูดเป็นนัย ๆ เกี่ยวกับอันตรายของการเปิด Open-Bars บนเครื่องบินครับ ซึ่งนับว่าเป็นอะไรที่ชาญฉลาดมาก! แนะนำให้ดู Music Video ไปด้วย ถ้าเรื่องจริงนักบินลงมาเมาหมดสติกับเราขนาดนี้ ได้ใจหายใจคว่ำแน่นอน คงไม่ได้รอดกลับมาแบบใน MV

Young Dumb & Broke – Khalid 

อันที่จริงแนวเพลงสไตล์ Khalid มีประปรายในวงการเพลงนอกกระแสมาราวสักระยะแล้วครับ แต่พ่อหนุ่มวัย 21 ปีคนนี้เนี่ยแหละที่นำเอาสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาเฉิดฉายในโลกเมนสตรีมช่วงปี 2017 แถมฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมืองกับเพลง Young Dumb & Broke 

ท่อนฮุคติดหูที่ร้องว่า “young, dumb, broke high school kids.” จัดว่าเป็นเพลงชาติ (เชิงลบ) ที่สะท้อนให้เห็นความคิดของเด็กยุคมิลเลนเนียมที่มักจะตั้งคำถามกับชีวิต ตัว Khalid เองเขาก็เริ่มทำเพลงตั้งแต่เรียน High School ทำเองแบบโฮมเมด แล้วก็ปล่อยลง Soundcloud

ไม่แปลกที่ Time จะยกย่องให้มันเป็นเพลงที่สร้างปรากฏการณ์ให้วงการเพลงอเมริกัน และถ้าลองสังเกตดี ๆ คุณจะพบว่าหลัง Khalid ประสบความสำเร็จ เพลงลักษณะนี้ก็เริ่มผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดในวงการเมนสตรีมจนถึงปัจจุบันเลยแหละครับ!

Old Town Road – Lil Nas X

ทำไมอันดับ 1 ที่ Time ยกย่อง ถึงเพลงเป็น Old Town Road จาก Lil Nas X แน่นอนว่าของแบบนี้ไม่ได้สถาปนาสุ่มสี่สุ่มห้า แต่มันมีที่มาที่ไป นอกจากจะล้มแชมป์เก่า ตำนาน Billboard Hot 100 อย่างเพลง One Sweet Day ของ Mariah Carrey feat. Boyz II Men ลงได้ด้วยการครองชาร์ตติดต่อกันยาวนานถึง 17 สัปดาห์แล้ว (สถิติเดิม 16 สัปดาห์) มันทั้งผ่านความพยายาม การผลักดันต่าง ๆ มาอย่างโชกโชนมาจากเจ้าของเพลงอย่าง Lil Nas X เลยทีเดียว

Lil Nas X ขยันโปรโมตเพลงนี้ลงทางทวิตเตอร์ของตัวเอง ซึ่งวิธีโปรโมตของเขาคือการสังเกตพฤติกรรมการเล่นอินเทอร์เน็ตของคนสมัยใหม่ เขานำเพลงไป Remix เป็นอะไรแปลก ๆ ตัดต่อให้เข้ากับคลิปตลก ๆ เพื่อเรียกร้องความสนใจบ้าง ทำซ้ำ ๆ และจะเลือกทำเฉพาะช่วงที่มีคนออนไลน์เยอะ จนวันหนึ่งเน็ตไอดอลหนุ่มคนหนึ่งได้นำเพลงของเขาไปประกอบการเต้นของตัวเองแล้วโพสต์ลงบนแอปพลิเคชัน Tik Tok ใครจะไปรู้ละครับว่ามันจะเกิดบูมขึ้นมาจริง ๆ จนทำให้กระแส ‘Yeehaw’ แบบคาวบอยกลายเป็นไวรัลใน Tik Tok ไปเลยช่วงหนึ่ง

แม้มันอาจจะไม่ใช่เพลงที่ดีเลิศประเสริฐศรีอะไร แต่สะท้อนพฤติกรรมการฟังเพลงของคนยุคใหม่ได้อย่างน่าสนใจ และแสดงให้เราเห็นบทบาทที่ชัดเจนของอินเทอร์เน็ตที่มีต่อเพลงในยุคนี้ ไม่แปลกครับที่ Time จะมองว่าเพลงนี้แหละที่ส่งผลต่ออะไรบางอย่างในวงการเพลงอเมริกัน หากคุณอยากอ่านเรื่องราวเต็ม ๆ ของเส้นทางความสำเร็จของเพลง Old Town Road คุณสามารถอ่านเต็ม ๆ ได้ที่นี่ครับ >> คลิก

การจัดอันดับของ Time ในครั้งนี้อาจจะไม่ถูกใจใครหลายคน หรืออาจจะถูกใจใครบางคนมากก็ได้ สิ่งนี้ไม่ใช่อะไรที่เรายึดถือได้จริง ๆ หรอกครับ เพียงแต่เราสามารถ วิเคราะห์ ศึกษา หรือจะอ่านเอาบันเทิงสนุก ๆ ได้ เพราะสุดท้ายพวกเราทุกคนก็มีความชอบที่แตกต่างกัน ว่าแต่ลองมานั่งทบทวนกันเล่น ๆ ดีกว่าว่า 10 ปีที่ผ่านมา มีเพลงไหนบ้างนะที่ขึ้นแท่นเป็นเพลงโปรดตลอดกาลของคุณ!

Source