10 มหานครที่จะขับเคลื่อนวงการแฟชั่นโลก

ถ้าพูดถึงหัวเมืองใหญ่ในการขับเคลื่อนวงการแฟชั่นโลก ก็คงหนีไม่พ้น New York City ถ้าเปรียบเป็นคน New York ก็เปรียบดังเส้นเลือดใหญ่ของวงการแฟชั่น เพราะเอกลักษณ์ดีไซนของ New York นั้นจะสะท้อนความเป็นชีวิตคนเมือง สามารถใช้งานได้จริงมากกว่าที่อื่นๆ แม้มันอาจจะไม่ได้ล้ำสมัย เท่า London , Paris , Milan ซึ่งก็เป็นมหานครเมืองหลวงของวงการแฟชั่นโลกเหมือน New York

แต่เพราะโลกนี้มันเริ่มแคบลง การสื่อสารทั่วถึงมากขึ้น บวกกับกระแสแฟชั่น Street ที่ก้าวขึ้นมาเป็น Mainstream เรียบร้อย เราจึงไม่จำเป็นต้องไปรอ Fashion Week จากเหล่าหัวเมืองชั้นนำด้านแฟชั่นอีกแล้ว เพราะ ณ ปัจจุบันมีเหล่าดีไซเนอร์ เกิดขึ้นใหม่มากมาย แล้วเรื่องของ Style ก็เป็นภาษาสากลอยู่แล้ว ดังนั้นวันนี้ทีมงาน UNLOCKMEN เลยรวม 10 เมืองที่จะมาทำหน้าที่ขับเคลื่อนวงการแฟชั่นโลกในขณะนี้

Tokyo

จะไม่มีญี่ปุ่นเป็นไปได้ไง เพราะญี่ปุ่นเป็นเหมือนผู้กำหนดทิศทางแฟชั่นของฝั่งเอเชียมาช้านานแล้ว ด้วยสไตล์ความเป็นเอกลักษณ์ต่างๆ ทำให้ไม่ใช่เรื่องยากที่วัฒนธรรมแบบญี่ปุ่นจะก้าวข้ามนำข้ามทะเลไปดังถึงอีกซีกโลกไม่ได้ โดยแบรนด์ที่เป็นหัวเรือใหญ่ฝั่งสตรีทอย่าง BAPE , WTAPS , NEIGHBRHOOD และ fragment design หรือว่าจะเป็นสายมินิมอล High End อย่าง COMME des GARCON’s ที่ก้าวไปยืนเคียงข้าง Top brand ได้อย่างไม่เคอะเขิน

สำหรับแหล่งที่เป็นหัวใจของเทรนด์ และ Subculture ของญี่ปุ่นนั้นก็คือย่าน Ginza ที่รวมเอาเหล่าร้านค้ามากมาย และเป็นแหล่งรวมวัยรุ่นที่เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างผลงานของเหล่าดีไซเนอร์

Japan Brand Brands/Designers: COMME des GARÇONS, NEIGHBORHOOD, WTAPS, fragment design, visvim, UNDERCOVER, THE NORTH FACE PURPLE LABEL, nanamica, Hender Scheme, BAPE, C.E., BEDWIN & THE HEARTBREAKERS, AMBUSH, Christian Dada, Samurai Jeans, Porter, SOPHNET., uniform experiment, TAKAHIROMIYASHITA The SoloIst., Yohji Yamamoto, Junya Watanabe, JULIUS.

Los Angeles

ถ้าจะบอกว่าอเมริกามีแต่ New york ก็ดูจะโหดร้ายไปเพราะ อีกหนึ่งเมืองที่มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมแฟชั่นไม่แพ้กันคือ นคร Los Angeles แม้ว่ามันจะใช้เวลานาน และช้าในการก่อตัวกว่า New York แต่ LA ก็มีจุดเด่นในเรื่องของกางเกงยีนส์ เสื้อกราฟฟิค และ Flipflops จนทำให้เกิดคำว่า LA Style โดยปัจจุบันแบรนด์ที่เป็นไฮไลท์ของฝั่ง LA ก็คือ Fear of God

Brands/Designers: Joyrich, Fear of God, Undefeated, Odd Future, The Hundreds, BUSCEMI, FUCT, Stampd, Second/Layer, Chrome Hearts, John Elliott + Co, Apolis, Killspencer, The Elder Statesman, Diamond Supply Co., HUF.

Melbourne

สำหรับทวีป Oceania ประเทศที่เป็น Landmark สำหรับแฟชั่น คงจะหนีไม่พ้น Australia เพราะ Australia นำเข้าวัฒนธรรมแฟชั่นๆ ต่างๆ มาจากทั่วโลก และเมืองที่เป็นไฮไลทก็คือ Melbourne แต่ Australia ไม่ได้จะแค่การเป็นผู้ตามตลอดไป เพราะมีเด็กบ้านรองเท้าคนหนึ่งลุกขึ้นมาสร้างแบรนด์ P.AM. จนทำให้แบรนด์นี้ก้าวไปถึงทั่วโลก จนตอนนี้คนต้องหันมามองแฟชั่นจาก Australia เป็นอีกหนึ่งทางเลือก

Brands/Designers: P.A.M., Chronicles of Never, Kloke.

Moscow

หนึ่งในเมืองที่มีความ Stereotype มากที่สุดของโลก แม้จะเป็นประเทศคอมมิวนิส มีอากาศที่หนาวเหน็บ แต่มันไม่ใช่อุปสรรคใดๆ ในการขับเคลื่อนวงการแฟชั่นจาก Moscow โดย Moscow เป็นแหล่งรวม Underground Skateborading และ แนวดนตรี ของโลก ดังนั้น Gosha Rubchinskiy จึงลุกขึ้นมาสร้างแบรนด์ของตัวเองเพื่อจะไปแข่งกับทั่วโลก ในขณะเดียวกัน ฝั่ง High End ก็มีร้าน Fott และ KM20 ที่จำหน่ายสินค้า Brand high end แม้ว่าในตอนนี้ Russia จะยังไม่อยู่ในทิศทางที่ดีหนักในการเป็นผู้นำด้านแฟชั่น แต่เราเชื่อว่าในอีกไม่นานเหล่าดีไซเนอร์รุ่นใหม่ที่กำลังกำเนิด จะขึ้นมาเขย่าบังลังค์วงการแฟชั่นโลกอย่างแน่นอน

Brands/Designers: Gosha Rubchinskiy, Grunge John Orchestra. Explosion, Ф22, Sputnik 1985, August Institute.

Vancouver

Made in Canada เป็นสิ่งที่เริ่ม Strong ในช่วงปีที่ผ่านมา อาจจะเพราะใกล้ประเทศมหาอำนาจอย่าง อเมริกา จึงรับวัฒนธรรมจากฝั่งนั้นมาเต็มๆ  แต่ Vancouver คือความภูมิใจของชาว Canuck เพราะแฟชั่นจาก Vancouver คือส่วนผสมระหว่างความที่ติดทะเลแปซิฟิค กับ North Shore Mountains จึงเกิดเป็นแบรนด์อาทิ  Herschel Supply Co ที่เด่นด้านกระเป๋าอย่างมาก ออกแนว Tourist style หรือจะเป็น Reigning Champ ที่จะทำเสื้อผ้าแนว Sportwear

Brands/Designers: Reigning Champ, Arc’teryx, Herschel Supply Co, wings + horns, Native Shoes, Viberg.

Amsterdam

Amsterdam อาจจะดูเหมือนเป็นเด็กน้อยเมื่อเทียบกับเหล่าเพื่อนบ้านของเขาในด้านแฟชั่น แต่เมื่อมันเป็น Street Style ก้ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาอีกต่อไปเพราะเขาส่งแบรนด์รองเท้า High-End อย่าง Filling Pieces และ ETQ และก็ยังมี Olaf Hussein กับ Daily Paper ที่กำลังมาขับเคลื่อนวงการแฟชั่นผู้ชาย แต่สำหรับเต้ยของแบรนด์สัญชาติ Dutch นั้นคงจะหนีไม่พ้น G-star Raw กับ Scotch & Soda ที่ผนวก Streetwear กับ Menwears ไว้ด้วยกันอยู่ก่อนแล้ว

Brands/Designers: Patta, Filling Pieces, ETQ, Olaf Hussein, Daily Paper.

Antwerp

ประเทศเล็กๆ ที่โด่งดังเรื่องช๊อกโกแล๊ต นั้นหลายคนอาจไม่รู้ว่าประเทศนี้มีโรงเรียนศิลปะที่เป็นตำนานอย่าง Royal Academy of Fine Arts ที่สร้างดีไซเนอร์ชื่อดังมากมายอย่าง Martin Margiela , Dries Van Noten , Ann Demeulemeester และ Kriss Van Assche ที่นั่งแท่น Director ของ Dior อยู่ในปัจจุบัน หรือแม้ Raf Simons ก็เป็นหนึ่งในความภูมิใจด้านแฟชั่นของชาว Belgium ดังนั้นจะบอกว่า Antwerp ไม่ใช่เมืองที่จะขับเคลื่อนวงการแฟชั่นก็คงจะไม่ใช่แล้วหละ

Brands/Designers: Maison Margiela, Ann Demulemeester, Raf Simons, Dries Van Noten, Kris Van Assche, Walter van Beirendonck, Dirk Van Saene, Dirk Bikkembergs, Marina Yee.

Seoul

เกาหลีเป็นเงาของญี่ปุ่น และจีนมาช้าในภูมิภาคนี้ แต่เมื่อประเทศเขาได้ทำการปฎิรูปทุกอุตสาหกรรมใหม่บวกกับบุคลากรชั้นดีของประเทศเขา ทำให้ทุกวันนี้เกาหลีใต้ไม่ได้เป็นเงาของใครอีกต่อไป โดยเขาส่งดีไซน์เนอร์ และแบรนด์ อย่าง JUUN.J, D.GNAK by KANG.D, LIFUL และ WOOYOUNGMI สู่ตลาดแฟชั่นโลก ณ ปัจจุบันเกาหลีใต้ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่ามีแฟชั่น Streetwear ที่แทบจะเจ๋งที่สุดในโลก ด้วยความหลากหลาย และเซ้นในการแต่งตัวของคนในชาติจึงทำให้เกาหลีก้าวขึ้นมาเป็น พี่เบิ้มอีกคนในวงการแฟชั่นโลก

Brands/Designers: JUUN.J, D.GNAK by KANG.D, LIFUL, WOOYOUNGMI, IISE.

Berlin

ฺBerlin Style มีความเป็น Synonymous และเป็นเอกเทศมานานแล้ว จากแนว Punk จนมาถึง Minimal และปัจจุบัน Berlin ก็ส่งคลื่นลูกใหม่อย่าง Sadak , Simon Freund , Hien Le crop ออกมายังเชิดฉายวงการแฟชั่นโลก ด้วย Quality แบบยุโรปที่การันตีอยู่แล้ว บวกกับสไตล์แบบ Easygoing lifestyle ทำให้เยอรมันมีสิทธิ์ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในหัวเมืองสำคัญทางแฟชั่นในอนาคต

Brands/Designers: ACRONYM, Mykita, Sadak, Hien Le, Simon Freund.

Stockholm

หนึ่งใน Hallmarks ของ Sweden คือแบรนด์ Acne Studio กับ Our Legacy โดยจุดเด่นของ Stockholm คือแนว Minimalism Boutiques คือจะมีความบูทิคเรียบง่าย แต่การที่แฟชั่นจาก Sweden จะก้าวขึ้นไปนั้นถึงระดับโลกอาจจะลำบากสักนิดเพราะ จะต้องเจอกับเหล่าพี่เบิ้มของยุโรป แต่ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวนี้คงทำให้มีหลายคนหันมาสนใจ Stockholm มากขึ้นหลังจากนี้

Brands/Designers: Acne Studios, Our Legacy, Eytys, Stutterheim, Sandqvist, TRIWA.

จากทั่วหมดจะเห็นได้ว่า Fashion นั้นคือภาษาสากลจริงเพราะมันได้กระจายไปทั่วทุกทวีปของโลก ไม่ว่าคุณจะอยู่ตรงไหน อาจเพราะคำว่า Street ที่มันกว้างจนไม่สามารถจำกัดความได้ ซึ่งความจริง Bangkok ก็น่าจะติดอยู่ในนั้นเพราะจะเห็นได้ว่าคนไทยก็แต่งตัวเก่ง และหลากหลายไม่แพ้ใครๆ แต่สำหรับใครที่อยากไปอัพเดทเทรนด์ต่างๆ ก็สามารถบินตรงไปเที่ยวยังเมืองที่เราแนะนำได้แทนที่จะได้ไม่ต้องซ้ำซากจำเจไปแต่ 4 เมืองใหญ่อีกต่อไป

ที่มา Highnobiety , Hypebeat