2025 Aston Martin Valhalla – 1,064 HP Mid-engine Hybird คันแรกที่ใช้เวลาพัฒนาถึง 5 ปี

แฟน ๆ ของ Aston Martin น่าจะคุ้นเคยกับ AM-RB 003 Concept ที่เคยเปิดตัวในปี 2019 กันดี มันคือต้นแบบที่ต้องใช้เวลาพัฒนาถึง 5 ปี กว่าจะได้ ultimate driver’s supercar ในชื่อ Valhalla ที่พึ่งเปิดตัวล่าสุดวันนี้ นับว่าเป็น mid-engine hybrid supercar คันแรกใน portfolio ของ Aston Martin อีกด้วย

Aston Martin Valhalla มากับแรงม้าถึง 1,064 ตัว จากขุมพลัง twin-turbocharged 4.0-liter V8 วางอยู่หลังคนขับ พ่วงระบบ plug-in hybrid ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าถึง 3 ตัว ตัวแรกติดตั้งรวมอยู่ในชุดเกียร์ dual-clutch 8-speed ทำหน้าที่เป็น starter และปั่นไฟฟ้าชาร์จให้แบตเตอรี่ อีกสองตัวติดตั้งที่ล้อหน้า สามารถสร้างแรงบิดแยกกันอย่างอิสระด้วย torque-vectoring system ช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนน สามารถขับด้วยไฟฟ้าล้วนได้ระยะทาง 14 กิโลเมตรที่ความเร็วสูงสุด 128 km/h และเนื่องจากไม่มีเกียร์ Reverse จึงใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้าในการถอยหลังแทน

Aston Martin เคลมว่า Valhalla สามารถทำความเร็ว 0-100 km/h ได้ใน 2.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 350 km/h ผลจากระบบ active aero system ที่จะยก rear wing ให้สูงขึ้นพร้อมปรับองศาตามแรงลม รวมถึงลิ้นกันชนหน้าที่จะยื่นออกมาอัตโนมัติเมื่ออยู่ใน Race mode โดยระบบ Integrated Vehicle Dynamics Control (IVC) จะเป็นตัวจัดการระบบทั้งชุด aero รวมถึงช่วงล่าง พวงมาลัย เบรก และ torque vectoring ให้เหมาะกับสถานการณ์แบบ real time

ระบบกันสะเทือนยกมาจาก F1 ด้านหน้าใช้แบบ pushron suspension ด้านหลังแบบ five-link ยึดติดกับ aluminum subframes และ carbon monocoque ช่วยให้สามารถจัดการกับแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้าได้ดีขึ้น รวมแล้วมีน้ำหนักตัวเพียง 1,650 กิโลกรัม ถือว่าเบามาก ๆ สำหรับระบบ plug-in hybird

เปิดประตู butterfly dorrs ขึ้นมาจะพบกับ carbon fiber ตกแต่งอยู่เต็มห้องโดยสาร พวงมาลัยแบบ F1 เบาะ bucket seats บน carbon fiber frame เครื่องเสียง Bowers & Wilkins เป็น hypercar ที่มาพร้อมความหรูหราและสะดวกสบาย ผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 999 คันเท่านั้น